เมื่อพูดถึงแบรนด์รถยนต์คุณภาพสูงจากประเทศเกาหลีใต้ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้คนทั่วโลก แน่นอนว่าหลายคนน่าจะนึกถึง ‘Kia’ อย่างแน่นอน ด้วยความที่แบรนด์เกียอยู่ในอุตสาหกรรมของ ‘Movement’ หรือ ‘การเดินทาง’ มายาวนานกว่า 72 ปี โดยเริ่มต้นตั้งแต่การผลิตรถจักรยาน ไปจนถึงการผลิตรถจักรยานยนต์และรถบรรทุก จนปัจจุบันนี้เกียได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำรายใหญ่ที่สุดในโลก และได้ผลิตรถยนต์ให้กับผู้คนกว่าหลายล้านคนทั่วโลก และเมื่อไม่นานมานี้ทางแบรนด์เพิ่งจะมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ ซึ่งส่งผลมาถึงประเทศไทย และสำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์คู่ใจคันใหม่กันอยู่ก็น่าจะอยากรู้ THE STANDARD จึงขออาสาพาทุกคนไปเจาะลึกถึงเรื่องนี้กัน
Movement That Inspires: การเดินทางที่สร้างแรงบันดาลใจ การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของแบรนด์ Kia
ในช่วงต้นปี 2021 ทางแบรนด์เพิ่งได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่น่าสนใจเกิดขึ้น โดยเกียได้มีการเปิดตัวโลโก้พร้อมทั้งเป้าหมายใหม่ของแบรนด์เกียทั่วโลก ด้วยคอนเซปต์และเป้าหมายใหม่ที่ชัดเจน เปี่ยมไปด้วยวิสัยทัศน์ของแบรนด์เกีย คือ ‘Movement That Inspires’ หรือ ‘การเดินทางที่สร้างแรงบันดาลใจ’ สะท้อนถึงปรัชญาของเกียที่เชื่อว่า ‘การเดินทางสามารถสร้างแรงบันดาลใจได้’ เพราะการเดินทางประกอบไปด้วย ‘จุดเริ่มต้น’ ‘ระหว่างทาง’ และ ‘ปลายทาง’ ช่วยให้ผู้คนได้ค้นพบกับสถานที่ใหม่ๆ พบเจอผู้คนใหม่ๆ รวมถึงพบกับประสบการณ์ชีวิตอันมีค่าใหม่ๆ เสมอ
ทั้งนี้ Ho Sung Song, President & CEO ของเกีย ได้กล่าวถึงการรีแบรนดิ้งและเปิดตัวแบรนด์เกียใหม่ในครั้งนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจว่าเป็น Total Transformation ที่จะครอบคลุมถึงทั้งภารกิจขององค์กร กลยุทธ์ทางธุรกิจ แนวทางการดีไซน์ใหม่ ฯลฯ
“ไม่เฉพาะเครื่องกลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้คน เกียจะมุ่งให้ความสำคัญกับลูกค้าของเราเป็นศูนย์กลาง เรามุ่งนำเสนอประสบการณ์ต่างๆ ที่มีคุณค่า รวมถึงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้กับลูกค้าผู้บริโภคของเราตลอดเส้นทางการเลือกซื้อและเป็นเจ้าของรถยนต์เกีย”
กล่าวคือ เกียจะมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ โดยคำนึงถึงประสบการณ์การเดินทาง ทั้งในแง่ของ ‘Space’ ที่ออกแบบดีไซน์ภายในและภายนอกมาเป็นอย่างดี และในแง่ของ ‘Time’ เนื่องจากเกียเชื่อมั่นว่าเวลาคือทรัพยากรที่มีคุณค่าของมนุษย์ทุกคน จึงออกแบบรถให้มีทั้งความแปลกใหม่ สะดวกสบาย เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ตอบสนองทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง เพื่อให้เกียเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างสรรค์แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้กับผู้คนตลอดทุกการเดินทาง พร้อมทั้งยังไม่ลืมที่จะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ซึ่งเป็นประเด็นที่กลุ่มลูกค้ายุคใหม่ให้ความสำคัญ
เปิดตัวโลโก้และเป้าหมายใหม่ของแบรนด์เกียในประเทศไทย
ผู้บริโภคชาวไทยควรรู้อะไรบ้าง
โลโก้ใหม่ของ Kia
จากความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเกีย คอร์เปอร์เรชั่น ย่อมนำมาสู่ทิศทางของผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์เกียในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ นั่นคือ ‘บริษัท ยนตรกิจเกียมอเตอร์ จำกัด’ ซึ่งได้มีการเปิดตัวโลโก้และเป้าหมายใหม่ของแบรนด์เกียในประเทศไทยตามมาด้วยเช่นกัน
ถ้าจะให้พูดกันจริงๆ แล้วเกียในประเทศไทยก่อนหน้านี้อาจจะไม่ได้หวือหวาอะไรมากนัก เนื่องด้วยข้อจำกัดทางด้านโครงสร้างภาษีในการนำเข้า จนกระทั่งการเริ่มบุกตลาดด้วย ‘Kia Grand Carnival Generation 3’ เมื่อปี 2018 ด้วยรูปลักษณ์อันโดดเด่น เป็นรถครอบครัวที่มีความสมาร์ท ซึ่งหลายๆ คนอาจจะจดจำได้ว่ามีคู่เซเลบริตี้ชื่อดังอย่าง หมอโอ๊ค สมิทธิ์-โอปอล์ ปาณิสรา พร้อมสองฝาแฝด อลิน-อลัน เป็นพรีเซนเตอร์ต้นแบบครอบครัวยุคใหม่ จึงได้รับการตอบรับที่ดีอย่างเห็นได้ชัด แล้วเมื่อเปิดตัว Generation 4 ในปลายปี 2020 ก็ยิ่งได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นไปอีก ด้วยรูปโฉมใหม่ที่โฉบเฉี่ยวมากขึ้น พร้อมยังใส่เทคโนโลยีการขับขี่มาอย่างจัดเต็ม เพื่อให้ตลอดการเดินทางของลูกค้าสะดวกสบายและ Inspiring และปัจจุบันก็ได้กลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ระดับ Top of Mind ที่ครอบครัวยุคใหม่ล้วนนึกถึง
จนมาถึงการปรับแบรนด์ใหม่ในครั้งนี้ของเกีย ประเทศไทย ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งแรกที่มีการปรับอย่างเห็นได้ชัดมากที่สุดคือการเผยโฉมโลโก้ที่อยู่บนรถยนต์รุ่นเรือธงอย่าง The Kia Carnival ซึ่งล่าสุดออกมาใน Generation 4 และต้องยอมรับว่ารูปลักษณ์ของตัวรถที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยวทันสมัยนั้นสอดรับกับโลโก้ใหม่ได้ดีจริงๆ แต่แน่นอนว่าการปรับครั้งนี้ย่อมไม่ใช่แค่การปรับเพียงโลโก้อย่างเดียว ทว่ายังยกเครื่องปรับไปถึงภาพลักษณ์ของโชว์รูมกันใหม่ทั้งหมด ทั้งยังมีแผนขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่งภายในปีนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของแบรนด์เกีย รวมถึงมีการนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยให้ชีวิตลูกค้าสะดวกสบายมากขึ้น เช่น ระบบ ‘Kia Connect’ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถจองคิวการเข้ารับบริการผ่านทาง Kia Thailand LINE Official Account ได้อีกด้วย
New Show Room
สะท้อนภาพลักษณ์และเป้าหมายใหม่ของ Kia
นอกจากนี้ด้านการดีไซน์ต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ และการมุ่งหน้าสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งเกียสำนักงานใหญ่มีแผนที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 11 รุ่น ภายในปี 2026 ทั้งนี้หลังการรีแบรนดิ้ง เกียได้มีการปล่อยรถยนต์ All New Kia EV6 ซึ่งเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกที่ได้รับการเปิดตัวภายใต้แนวทางใหม่ของแบรนด์ออกมา โดยได้รับรางวัล 2022 Car of the Year จากเวที European Car of the Year (COTY) ซึ่งใครที่สนใจก็ต้องรอลุ้นกันว่าเราจะได้พบกับคันจริงที่อาจจะได้นำเข้ามาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสหรือไม่ รวมไปถึงรถยนต์รุ่นอื่นๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงการศึกษาความเป็นไปได้ของตลาดที่จะนำเข้ามาในประเทศไทยต่อไปในอนาคตด้วย
บรรยากาศสะดวกสบายของ New Show Room
มอบประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า
The Kia Carnival รถยนต์รุ่นเรือธงของเกียในประเทศไทย
เมื่อมาถึง Generation 4 ล่าสุด มีอะไรน่าสนใจบ้าง
อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าหลังจากที่ Kia Carnival Generation 3 บุกตลาดไทยอย่างจริงจังด้วยความที่รถมีรูปลักษณ์โดดเด่น เป็นรถครอบครัวที่สมาร์ท รวมถึงคุณภาพของยนตรกรรมที่ทำให้ผู้บริโภคพึงพอใจ เกิดการการันตีแนะนำกันปากต่อปาก จึงทำให้แบรนด์เกียมีภาพลักษณ์ที่แข็งแรงและได้รับความไว้วางใจจากผู้ขับขี่ชาวไทยมากขึ้น ทั้งนี้ข้อพิสูจน์คือ Kia Carnival Generation 3 นั้นมียอดขายที่เติบโตขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด โดยที่น่าทึ่งคือเพิ่มขึ้นถึงเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว และล่าสุดทางเกียประเทศไทยก็ได้มีการนำ The Kia Carnival Generation 4 เข้ามา ส่วนจะมีอะไรที่เจ๋งและน่าสนใจเป็นไฮไลต์สำหรับรุ่นนี้บ้าง เราสรุปเน้นๆ มาให้ฟังกันแล้ว ดังนี้
The Kia Carnival Generation 4
รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว ออกแบบมาอย่างลงตัว
ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของครอบครัวยุคใหม่
- รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวสวยสะดุดตา ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ครอบครัวยุคใหม่ The Kia Carnival Generation 4 ได้ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวเพื่อให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของครอบครัวยุคใหม่ ภายใต้แนวคิดการออกแบบ ‘แกรนด์ แอนด์ บอลรูม’ สะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูโฉบเฉี่ยว สวยงาม สะดุดสายตา แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งดีไซน์ภายในที่โอ่โถง กว้างขวาง ให้ภาพลักษณ์ของความเป็นรถครอบครัวที่เจ้าของรถสามารถขับเองได้อย่างไม่เคอะเขินด้วยรูปทรงที่ไม่เทอะทะคล้ายรถเก๋ง แต่ก็อเนกประสงค์ที่จะเดินทางไปพร้อมกันทั้งครอบครัวได้ ซึ่งนี่เองที่เป็นเอกลักษณ์เด่นของ Kia Carnival ในทุกๆ Generation ที่ผ่านมา
สมาร์ทคาร์เทคโนโลยีล้ำสมัย
ความจุกว้างขวางนั่งสบายสุดๆ จุได้มากสุดถึง 11 คน
- ขับสนุกเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยความที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์สมาร์ท สตรีม ดีเซล 2.2 เทอร์โบ 202 แรงม้า เรียกได้ว่าแรงกำลังดี จึงไม่มีทางอืดแน่นอน ถูกใจคุณพ่อบ้านแม่บ้านทั้งหลาย แถมคนรุ่นใหม่ที่มีใจรักษ์โลกก็ต้องถูกใจ เพราะเครื่องยนต์มาตรฐาน EURO 5 ยังใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- ความจุกว้างขวางนั่งสบายสุดๆ สำหรับพื้นที่ภายในนั้น The Kia Carnival Generation 4 นี้ถือว่ากว้างขวางมาก สามารถนั่งได้สูงสุดถึง 11 คน ซึ่งบางคนมองว่า 11 คนอาจจะมากไป แต่เบาะแถวสุดท้ายสามารถพับเก็บได้ราบเรียบเพื่อเปลี่ยนเป็นพื้นที่เก็บสัมภาระ นั่งเพียง 7-8 คนแบบสบายๆ ได้ เรียกว่าตอบโจทย์ได้จุใจมาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางทั้งครอบครัวขนาดเล็กหรือใหญ่ แถมยังสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ในระหว่างเดินทางได้แบบไม่อึดอัด
- สมาร์ทคาร์เทคโนโลยีล้ำสมัย The Kia Carnival รุ่นนี้ยังเป็นรถครอบครัวที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกต่างๆ เพียบ ไม่ว่าจะเป็น Smart Power Sliding Door (ประตูสไลด์ไฟฟ้า) และ Smart Tailgate (ประตูท้ายไฟฟ้า) ระบบความบันเทิงต่างๆ เช่น การเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay และ Andriod Auto เครื่องเสียงจาก BOSE รอบคัน รวมไปถึงระบบ Rear-Seat Entertainment ที่มีการจับมือกับ Pinkfong ผู้เชี่ยวชาญด้านความบันเทิงเพื่อการศึกษาของเกาหลีใต้ ผลิตเพลงดังติดหูครอบครัวอย่าง Baby Shark ที่มีกระทั่งเวอร์ชันภาษาไทยด้วย มั่นใจได้ว่าพ่อแม่หลายๆ คนน่าจะต้องเคยฟังเพลงติดหูนี้พร้อมกับลูกๆ แถมเรียกได้ว่าแทบจะเปิดวนซ้ำไปซ้ำมาทั้งวัน และที่สำคัญที่สุดคือระบบความปลอดภัย ซึ่ง The Kia Carnival Generation 4 นับเป็นรถยนต์รุ่นแรกของเกียในประเทศไทยที่มีระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ DRIVE WiSE ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันความปลอดภัย Active Safety แบบครบครัน
ผู้บริโภคชาวไทยที่สนใจสามารถเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของแบรนด์กันได้ที่โชว์รูมเกียโฉมใหม่ รวมถึงสัมผัสยนตรกรรม The Kia Carnival Generation 4 ได้ที่โชว์รูมเกียทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางที่เว็บไซต์ www.kia.com เบอร์โทรศัพท์ 0 2915 1991 และสามารถติดตามข่าวสารของ Kia Thailand เพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page: Kia Thailand หรือที่ LINE Official Account: @kia.thailand แล้วจะเข้าใจได้ดีขึ้นว่า ‘Movement That Inspires: การเดินทางที่สร้างแรงบันดาลใจ’ นั้นแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร