เหตุผลที่ใครๆ ก็เฝ้ารอ ‘ข้าวหอมมะลิใหม่’ แม้จะมีโอกาสเพียงปีละครั้ง คงเพราะความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ความนุ่มละมุนของเมล็ดข้าวและรสสัมผัสที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดูที่จะเก็บเกี่ยวภายใน 3-4 เดือนของฤดูเก็บเกี่ยวปีที่ปลูก ซึ่งอยู่ในช่วงไตรมาส 4 ของทุกปี จึงถือเป็นข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพดีที่สุด และยังถูกนำมาเป็นจุดขายให้กับแบรนด์สินค้า เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่หลงรักรสชาติความหอม นุ่ม เหนียว ของข้าวหอมมะลิใหม่

 

 

แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยของข้าวตราฉัตร พร้อมงัดกลยุทธ์เด็ดสวนกระแส เปิดตัว ‘ข้าว 15 องศา’ ข้าวหอมมะลิใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีการจัดเก็บข้าวสารในห้องเย็น ควบคุมอุณหภูมิไว้ที่ 15 องศาเซลเซียส เพื่อล็อกอายุข้าวให้สดใหม่ ก่อนนำมาบรรจถุงเมทัลไลซ์ ที่ช่วยรักษาคุณภาพและความสดใหม่ กักเก็บความหอม นุ่ม เหนียว จนถึงมือผู้บริโภค เหมือนเพิ่งเก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ และยังมีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพที่วิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านคุณภาพข้าวโดยเฉพาะ เพื่อตรวจสอบความสดของข้าวด้วยสารละลายอินดิเคเตอร์ หรือสูตรน้ำยาวัดความสดของข้าว และวัดความนุ่มเหนียวของข้าวด้วยเครื่อง Rapid Viscosity Analyzer (RVA) เป็นค่าตัวเลขที่มีความแม่นยำ อีกทั้งยังมีการวัดกลิ่นหอมของข้าวเพื่อให้เข้าถึงความต้องการของผู้บริโภค ถือเป็นครั้งแรกของข้าวตราฉัตรที่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้

 

 

นอกจากจะนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อช่วยรักษาคุณภาพข้าวหอมมะลิใหม่ ธรรมวิทย์ ศรีเกริกกริช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านการผลิตและวิศวกรรม ยังบอกถึงแนวทางการทำงานของบริษัทในการผสานพลังร่วมกับเกษตรกรสมาชิก ภายใต้โครงการพัฒนาระบบการปลูกข้าวเพื่อความยั่งยืน “เราต้องการให้ความรู้การปลูกข้าวหอมมะลิอย่างถูกวิธี โดยใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่บริสุทธิ์สูง ผ่านการรับรองมาตรฐานระบบ GAP ของกรมการข้าว มีการจัดส่งทีมพัฒนาวัตถุดิบต้นน้ำลงพื้นที่ให้คำปรึกษาตลอดทุกๆ กระบวนการผลิต และรับซื้อผลผลิตคืนจากเกษตรกรสมาชิกในราคานำตลาด เพื่อช่วยให้เกษตรกรสมาชิกมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น และสร้างความยั่งยืนในระบบการเกษตรกรรมของไทย ภายใต้มาตรฐานควบคุมคุณภาพสินค้าของโรงงานข้าวตราฉัตร ทุกแบรนด์ผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณภาพอย่างพิถีพิถัน”

 

 

ด้าน ปุณฑริก ตติยไพบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บอกถึงกลยุทธ์การตลาดในครั้งนี้ว่า เทคโนโลยีการจัดเก็บข้าวด้วยความเย็น 15 องศาเซลเซียส กระบวนการตรวจสอบความสดและความนุ่มเหนียวของข้าว เป็นจุดขายของข้าวหอมมะลิใหม่ตราฉัตร ซึ่งยังไม่มีแบรนด์ไหนในตลาดที่พูดถึงมาก่อน “ตราฉัตรเข้าใจถึงความต้องการของตลาดผู้บริโภคว่าผู้บริโภคต้องการข้าวที่หอม นุ่ม เหนียว ตลอดปี ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีความเย็น 15 องศาเซลเซียส จะช่วยกักเก็บความสดใหม่ของข้าวหอมมะลิใหม่ตราฉัตรไว้ได้ตลอดปี ไม่ว่าจะรับประทานตอนไหนก็ยังคงนุ่มเหนียวเหมือนข้าวต้นฤดู”

 

 

ยอดขายอันดับ 1 ในกลุ่มข้าวหอมมะลิใหม่ น่าจะพิสูจน์ได้ถึงคุณภาพของข้าวที่ผลิตภายใต้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและการตรวจสอบคุณภาพอย่างพิถีพิถัน อีกทั้งการันตีด้วยรางวัลแห่งความเชื่อมั่นตลอดปี 2564 ได้แก่

1. รางวัล อย. ควอลิตี้ อวอร์ด ปี 2564 ประเภท 3 ปีติดต่อกัน เป็นโรงงานข้าวแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรางวัลจากสำนักงานคณะกรรมอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข
2. รางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand ประจำปี 2020-2021 หรือแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในประเทศไทย หมวดข้าวสารบรรจุถุง
3. รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม
4. รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยมจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
5. รางวัล Trusted Brand ที่ได้ถึง 17 ปีซ้อน

 

ปี 2564 ตราฉัตรตั้งเป้าปิดยอดขายจำนวน 24,500 ตันข้าวสาร หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท และปี 2565 ตั้งเป้าเติบโต 50% เป็นจำนวน 36,000 ตันข้าวสาร หรือประมาณ 1,380 ล้านบาท

 

หากตราฉัตรยังคงรักษาคุณภาพการผลิตข้าวทุกแบรนด์ได้เช่นนี้ตลอด เชื่อว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้คงไม่ไกลเกินเอื้อม

 

 

ส่วนคนไทยที่ถวิลหาความหอม นุ่ม เหนียว ของข้าวหอมมะลิใหม่และยังไม่เคยลอง ขอท้าให้ลองพิสูจน์ข้าวหอมมะลิใหม่ตราฉัตรได้แล้ววันนี้ พิสูจน์ความหอมทะลุแมส ได้ที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส, แม็คโคร, เซเว่น อีเลฟเว่น รวมทั้งห้างชั้นนำ ห้างท้องถิ่น และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ