‘KGP’ ตั้งธงเป็น Good Payment Company ชู ‘เพย์ดี (PayDii)’ เป็นระบบชำระเงินออนไลน์ ที่เอาใจร้านค้า รู้ใจขาช้อป

ในวันที่ไลฟ์สไตล์ของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป โจทย์ความต้องการรูปแบบใหม่ที่มีความสะดวกสบายเป็นตัวตั้ง ทำให้ดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญกับการใช้ชีวิตไปทุกที่

การพัฒนานวัตกรรมเพื่อ ‘สร้างประสบการณ์ทางการเงินที่ดีที่สุด เพื่อมอบให้กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ผู้บริโภคทุกคนครอบคลุมทั้งในภูมิภาค และทั่วโลก จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ท้าทาย และน่าสนใจ’ นี่เป็นใจความสำคัญของการจัดตั้งบริษัท กสิกร โกลบอล เพย์เมนต์ จำกัด หรือ เคจีพี (KGP) ที่ต้องการขับเคลื่อนให้เกิดการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้สอดรับกับเทรนด์การซื้อของในยุคดิจิทัลดิสรัปชันที่กำลังแผ่ขยายกว้างขึ้น และการเติบโตของการใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ ไปจนถึงการโตแบบก้าวกระโดดของอีคอมเมิร์ซ

KGP ก่อตั้งเพื่อพัฒนา และให้บริการระบบชำระเงินดิจิทัลใน AEC+3 โดยมีแผนที่จะให้บริการระบบชำระเงินที่มีฟังก์ชันสมบูรณ์ มีความปลอดภัยในระดับสูง เชื่อถือได้ ใช้งานง่าย และช่วยแก้ปัญหาตอบโจทย์ความต้องการของร้านค้าออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มธุรกิจที่ต้องการใช้งานโซลูชันระบบชำระเงินดิจิทัล

KGP ชู ระบบ ‘เพย์ดี’ (PayDii) ที่มี ‘ดี’ ให้การซื้อขายบน Social Commerce ไม่สะดุด  

เถกิง ออศิริชัยเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กสิกร โกลบอล เพย์เมนต์ จำกัด เล่าว่าความท้าทายของเขาวันนี้ คือการพัฒนาบริการระบบชำระเงินดิจิทัล ที่เป็น Best in Class ทางด้าน Digital Experience เพื่อสอดรับกับอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะช่องทางโซเชียลมีเดียที่กำลังเติบโตก้าวกระโดดที่สุด

จากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) พบว่า มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2561 มีมูลค่าถึงกว่า 3.1 ล้านล้านบาท และคาดการณ์ว่าจากนี้ไปจนถึงปี 2565 ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยน่าจะเติบโตขึ้นเฉลี่ยถึง 22% และสอดคล้องกับการเติบโตของ e-Payment (การจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์) ที่ภาพรวมเติบโตขึ้นร้อยละ 35.7%

“ประเทศไทย เป็นอับดับหนึ่งของโลกที่ซื้อขายของผ่าน Conversational Commerce เรามีแม่ค้าพ่อค้าใน Facebook และโซเชียลมีเดียอื่นๆ เยอะมาก ประมาณ 20-30% ของอีคอมเมิร์ซทั้งประเทศ แต่สิ่งที่เราเห็นคือ ทุกวันนี้การซื้อขายของผ่าน Facebook ยังมีรอยต่อที่ทำให้ดีลการซื้อขายต้องสะดุด นี่คือ Pain Point ที่ต้องการโซลูชันแก้ไข”

ผลสำรวจจากอีคอมเมิร์ซต่างประเทศ พบว่าหลังจากที่ลูกค้าเลือกสินค้าและตัดสินใจซื้อ เข้าสู่ขั้นตอนการชำระเงิน ระหว่างนี้นี่ล่ะ คือรอยต่อที่ทำให้ดีลล่มไปกว่า 70% เหตุผลง่ายๆ เพราะลูกค้าเปลี่ยนใจ รู้สึกวุ่นวาย ไม่สะดวก ไหนจะต้องจำบัญชีผู้ขาย เปิดหน้าจอสลับไปมา หรือระหว่างสลับหน้าจอต้องไปทำอะไรอย่างอื่น ทำให้ความต้องการสะดุด และไม่ได้ทำรายการต่อจนจบ 

นอกจากความไม่สะดวกที่เป็นสาเหตุแล้ว การขายของผ่านโซเชียลมีเดียก็มีลักษณะพฤติกรรมที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง ต้องยอมรับว่าสินค้าหลายอย่างในโซเชียลมีเดียเป็นสินค้า Impulse Buying นั่นหมายความว่า หลายครั้งลูกค้าจะตัดสินใจด้วยอารมณ์ที่กลัวพลาด ณ นาทีนั้น เห็นดีไซน์โดนใจ หรือราคาแรง มีโปรโมชันก็อยากได้เดี๋ยวนั้นตอนนั้น 

ประเด็นคือถ้าเวลาผ่านไปนาน ก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะเกิดความลังเล จบด้วยดีลล่มในที่สุด ซึ่งนี่เป็น Pain Point ที่เชื่อว่าพ่อค้าแม่ค้าหลายคนเจอประจำ เพราะฉะนั้น ทำอย่างไรที่จะทำให้ประสบการณ์ซื้อขาย ไร้รอยต่อให้มากที่สุด เป็นที่มาของ ระบบชำระเงิน ‘เพย์ดี (PayDii)’ ที่สามารถทำงานได้เบ็ดเสร็จไม่มีสะดุด หรือเรียกว่าเป็นการทำงานในรูปแบบ App Switch สำหรับร้านค้าออนไลน์

“สมมติลูกค้าตัดสินใจจะซื้อแล้ว แม่ค้าสามารถเรียกเก็บเงินจากผู้ซื้อได้โดยตรงจากแชต แค่คลิกหนึ่งปุ่มแล้วพิมพ์ยอดผ่านระบบ ลูกค้าจะเห็นใบแจ้งยอดอัตโนมัติ และทำการกรอกที่อยู่จัดส่งเพียงครั้งแรกครั้งเดียว โดยเลือกจ่ายได้หลายวิธีตามความสะดวก เมื่อลูกค้าจ่ายเสร็จถือว่าปิดการขายได้เลย เพราะแม่ค้าเห็นข้อความยืนยันการจ่ายในแชต ไม่ต้องขอดูสลิปจากลูกค้าอีกที ซึ่งในระบบชำระเงิน ‘เพย์ดี (PayDii)’ มีบัญชีธนาคารบนมือถือ (Mobile Banking) ให้เลือกหลายธนาคาร หรือชำระโดยบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตได้เลย ซึ่งร้านค้าได้นำบัญชีผูกกับระบบไว้แล้ว ตรงนี้ที่ทำให้ลูกค้าไม่ต้องออกจากแชต ไม่ต้องคอยจำเลขที่บัญชี จดจำนวนเงิน กดมือถือเข้าออกแอปฯ ต่างๆ คอยส่งสลิปคืนให้แม่ค้า แต่สามารถทำทุกขั้นตอนจบได้โดยอัตโนมัติ จนถึงส่งสลิปยืนยันการชำระเงินกับร้านค้า”

นี่คือโซลูชันที่ KGP มั่นใจว่าตอบโจทย์ความสะดวกสบาย และเพิ่มโอกาสการขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ ในเรื่องความปลอดภัยก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะถูกพัฒนาด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับเดียวกับธนาคาร 

“Facebook เป็นแพลตฟอร์ม Social Commerce ที่ใหญ่ที่สุดในโลก การที่ได้พัฒนาระบบเพื่อเป็นผู้บริการบนแพลตฟอร์มนี้ ก็เป็นการแสดงศักยภาพในการพัฒนาระบบให้ตรงโจทย์ความต้องการมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย ที่ KGP ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ที่สุด ในมาตรฐานระดับเป็น Global”

สมัคร PayDii ง่ายไม่เกิน 5 นาที 

Customer Centric ‘ลูกค้าคือศูนย์กลาง’ แม้คำนี้จะถูกบัญญัติต่างองค์กร ต่างวาระจนเราได้ยินบ่อยขึ้น เรามักได้ยินอยู่เสมอว่าผู้ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุดคือผู้ชนะในเกมนั้น อย่างไรก็ตาม การตอบโจทย์ของ KGP ไม่ได้อยู่เพียงว่า ให้อะไรลูกค้าได้มากน้อยเท่าไร แต่อยู่ที่ว่า สิ่งที่ให้นั้นดีเหมาะสมกับลูกค้าอย่างไร และตรงโจทย์ของลูกค้าหรือไม่ สู่คำถามที่สำคัญที่สุด ลูกค้าใช้ได้จริงหรือไม่ เพราะถึงแม้จะออกแบบฟังก์ชันมาดีอย่างไร แต่ถ้าสมัครใช้งานยาก ก็เหมือน First Impression ไม่ประทับใจ ลูกค้าก็ไม่เปิดใจรับ 

“เราใช้เวลา 6 เดือนในการพัฒนา PayDii ร่วมกับ Facebook จนมั่นใจว่านี่เป็นนวัตกรรมการชำระเงินที่ดี สะดวกและปลอดภัยที่สุด มากไปกว่านั้น ยังมีความ User Friendly ด้วย สมัครบริการครั้งแรกง่ายมาก ทำออนไลน์ได้ไม่เกิน 5 นาที (แต่ถ้าใครพิมพ์กรอกข้อมูลได้ไวกว่านั้น 3 นาทีก็เรียบร้อยนะ) คราวนี้ก็ซื้อง่ายจ่ายคล่องไปตลอด” สมัคร PayDii ง่ายๆได้ที่ kbank.co/31KoZgr 

และทันทีที่เปิดตัว KGP รีบรุกด้วยการมอบโปรโมชันพิเศษจากการสนับสนุนของพันธมิตรอย่าง KBank ช่วงเปิดตัวให้กับร้านค้าบน Facebook ที่สมัครบริการชำระเงิน PayDii ด้วยบัญชีธนาคารกสิกรไทย สูงสุดถึง 1,200 บาท

นั่นคือผลงานเฟสแรกของ KGP ซึ่งได้เปิดตัวไปแล้ว และมั่นใจว่าจะช่วยยกระดับการชำระเงินบน Social Commerce ให้ง่าย และได้ประโยชน์กันมากขึ้น

จับมือต่างแบงก์ ร่วมกันมอบประสบการณ์ที่ดีกว่า

ในยุคดิจิทัลดิสรัปชัน การวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่งในลู่การแข่งขัน อาจไม่ยั่งยืนเท่าการจับมือเข้าเส้นชัยร่วมกัน ทำอย่างไรที่จะสร้างแพลตฟอร์มการชำระเงินรูปแบบใหม่ เพื่อให้ ‘ลูกค้าได้ประสบการณ์ที่ดีกว่า’ เป็นอีกทิศทางในระยะยาวของ KGP ซึ่งตั้งเป้าจะเป็น Good Payment Company

“ด้วยความที่เรามีโครงสร้างการบริหารที่อิสระ มีความคล่องตัวสูง ซึ่งจะทำให้เราพัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆ ได้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น อย่างระบบ PayDii ลูกค้าที่เป็นฝั่งร้านค้าไม่ต้องห่วงเลยว่าจะมีบัญชีธนาคารไหน เพราะสามารถเลือกบัญชีธนาคารใดก็ได้เป็นบัญชีรับเงินผ่าบบริการ PayDii ส่วนฝั่งผู้ซื้อก็สามารถเลือกใช้ Mobile Banking ได้ 4 แบงก์ไม่ว่าจะเป็น กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ กรุงเทพ และกรุงศรีฯ ไม่เสียค่าบริการเพิ่มเติม ซึ่งต่อไปก็จะเพิ่มให้ครอบคลุมมากขึ้น

“ผมเชื่อว่าการเป็น Good Payment Company เราต้องทำให้ชีวิตผู้ชื้อ ผู้ขายดีขึ้น ลูกค้าต้องได้ประโยชน์ที่สุด จะต้องทำอยู่บนระบบที่มีความแม่นยำ รัดกุม ปลอดภัย นี่จะเป็นหลักการคิดในการพัฒนาตลอดทุกโปรเจกต์ต่อจากนี้ไป KGP มีความพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรสำคัญในการร่วมส่งมอบประสบการณ์ดีๆ ให้กับทั้งร้านค้าและลูกค้าออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์ม” ผู้บริหารย้ำท้าย

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์