Concussion ในเกมกีฬา คำถามใหญ่ที่กลับมาหลังเหตุการณ์ของ ตูอา ตาโกไวลัว

เกิดภาพที่ทำให้แฟนกีฬาที่ชมการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล NFL คู่ระหว่างซินซินเนติ เบงกอลส์ และไมอามี ดอลฟินส์ ต้องหายใจไม่ทั่วท้อง ที่มาพร้อมกับเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ของวงการกีฬาเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของนักกีฬา

เหตุการณ์ที่น่าตกใจนี้เกิดขึ้นในจังหวะที่ ตูอา ตาโกไวลัว ควอเตอร์แบ็กของทีมดอลฟินส์ ถูก จอช ตูปัว ตัวรับของเบงกอลส์ ‘แซ็ก’ โดยรวบและจับกระแทกลงพื้นอย่างรุนแรง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรในกีฬาที่มีการปะทะกันหนักอย่างอเมริกันฟุตบอล แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือภาพมือของตาโกไวลัวที่มีลักษณะผิดแปลก

อาการดังกล่าวคืออาการ Fencing Response ซึ่งเป็นอาการที่แขนและมือมีลักษณะผิดธรรมชาติ และยังเป็นตัวบ่งชี้ว่าสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง

แพทย์ประจำทีมดอลฟินส์ได้รุดเข้ามาดูอาการในสนาม และได้นำตัวตาโกไวลัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งได้เข้ารับการตรวจที่ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยซินซินเนติทันที โดยตามรายงานจาก NFL ระบุว่า ควอเตอร์แบ็กรายนี้ได้สติกลับมาอย่างสมบูรณ์และสามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ

ขณะที่รายงานล่าสุดจาก Bleacher Report ระบุว่า คาดว่าตาโกไวลัวน่าจะได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลและเดินทางกลับพร้อมกับทีมได้

แต่เหตุการณ์นี้ไม่ได้จบแค่ตรงนี้แน่นอน เพราะนี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ตาโกไวลัวได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงในเกม จนถึงขั้นต้องถูกหามออก

ก่อนหน้านี้แค่ 4 วัน ควอเตอร์แบ็กรายนี้ต้องถูกหามออกจากสนามมารอบหนึ่ง ในเกมที่ไมอามี ดอลฟินส์ พบกับบัฟฟาโล บิลส์ โดยถูก แมตต์ มิลาโน ไลน์แบ็กเกอร์ของบิลส์เข้าชาร์จ และมีสัญญาณเตือนว่าสมองได้รับการกระทบกระเทือนเมื่อพยายามลุกขึ้นเล่นต่อแล้วทรุดลง

เกมนั้นตาโกไวลัวถูกหามออกไป แต่กลับมาลงสนามได้ต่อในช่วงครึ่งหลังของเกม ซึ่งทีมคว้าชัยชนะได้ แต่คำถามคือการกลับมาลงสนามครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ในเมื่อนักกีฬาได้รับการกระทบกระเทือนศีรษะ (Concussion) ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก และทำไม ไมค์ แม็กแดเนียล โค้ชของทีมดอลฟินส์จึงบอกแค่ว่าเป็นอาการบาดเจ็บที่หลัง

ทางด้านสมาคมของนักกีฬา NFL Players Association: NFLPA ต้องการข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการตัดสินใจของทีมดอลฟินส์ที่ยังส่งตาโกไวลัวกลับมาลงสนามอีกครั้ง ว่าทีมได้มีการปฏิบัติตามมาตรการเกี่ยวกับเรื่องอาการกระทบกระเทือนศีรษะของนักกีฬาหรือไม่ โดยจะมีการสอบสวนกับตัวของนักกีฬาเอง แพทย์ประจำทีม ที่ปรึกษาในด้านอาการกระทบกระเทือนทางสมอง และบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

เดิมคาดว่าจะใช้เวลา 1-2 สัปดาห์เพื่อหาความจริง แต่ยังไม่ทันไร แค่ 4 วันตาโกไวลัวได้ลงสนามอีกครั้งและเกิดเหตุการณ์ที่น่าตกใจนี้ขึ้น

ไรอัน ฟิตซ์แพทริก นักวิเคราะห์เกมทางช่อง Prime Video ซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกับตาโกไวลัวเมื่อปี 2020 ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น “ทั้งในฐานะโฆษกและนักวิเคราะห์ ผมกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากตอนนี้”

ขณะที่เหล่านักกีฬาอเมริกันฟุตบอลทั้งในอดีตและปัจจุบันต่างร่วมภาวนาขอให้ตาโกไวลัวปลอดภัย พร้อมกับประณามสตาฟฟ์ของทีมดอลฟินส์ที่ยังส่งนักกีฬาลงสนาม ทั้งๆ ที่ควรจะคำนึงถึงสวัสดิภาพของนักกีฬาที่ได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรงมาไม่กี่วัน

ไทอัส บาวเซอร์ ไลน์แบ็กเกอร์จากทีมบัลติมอร์ เรฟเวนส์ ทวีตข้อความว่า “ไม่อยากเชื่อเลยว่าสตาฟฟ์ของไมอามีจะปล่อยให้ตูอาลงเล่นในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ทุกคนเห็นแล้วว่าเขาทรงตัวไม่ได้และล้มเองเมื่อ 4 วันที่แล้วนี้เอง…”

ขณะที่ แพทริก มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็กซูเปอร์สตาร์ของทีมแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ ถึงกับขอสวดภาวนาให้กับตาโกไวลัวเลยทีเดียว “Prayers up man…”

ด้าน ศ.คริส โนวินสกี อดีตนักมวยปล้ำ WWE ในนาม ‘คริส ฮาเวิร์ด’ ซึ่งปัจจุบันเป็นนักประสาทวิทยา และเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิ Concussion Legacy Foundation ซึ่งต่อสู้กับเรื่องปัญหาการกระทบกระเทือนศีรษะในนักกีฬา ให้ความเห็นที่น่าตกใจว่า “นี่คือหายนะ ผมขอภาวนาให้ตูอาไล่ทีมแพทย์และโค้ชออกไป ผมเคยทำนายเรื่องนี้ไว้แล้วและผมเกลียดที่ผมคิดถูก การกระเทือน 2 ครั้งในรอบ 5 วันสามารถฆ่าคนได้ มันอาจจะจบชีวิตการเล่นของใครก็ได้ นี่ก็ปี 2022 แล้ว ทำไมพวกเรายังโง่แบบนี้”

ดังนั้นแม้ว่าทุกคนจะภาวนาขอให้ ตูอา ตาโกไวลัว ปลอดภัยในวันนี้ก่อน แต่สิ่งที่เราจะละความกังวลไม่ได้คือปัญหาเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บทางสมองในระยะยาวของควอเตอร์แบ็กรายนี้ รวมถึงนักกีฬาทุกรายที่ควรได้รับการปกป้องที่ดีขึ้น เพราะกีฬาคือตัวอย่างให้แก่สังคมได้ในการปฏิบัติดูแลกันอย่างถูกต้อง

เพียงแต่วันนี้เราได้เห็นตัวอย่างที่เลวร้ายในเรื่องนี้ โดยที่น่าเศร้าที่สุดคือมันเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ แต่ไม่ทำ

อ้างอิง: