เชลซีกำลังเริ่มต้นเข้าสู่ยุคใหม่ที่ไม่มี โรมัน อบราโมวิช อีกแล้วอย่างเป็นทางการ และ ราฮีม สเตอร์ลิง คือสตาร์ที่พวกเขาต้องการ เพื่อเป็นการเริ่มต้นศักราชใหม่ในยุคของ ทอดด์ โบห์ลี เจ้าของสโมสรชาวอเมริกัน
ช่วงที่ผ่านมาเชลซีต้องเก็บตัวเงียบมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปีของสโมสร จากการที่อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้มีส่วนพลิกโฉมหน้าวงการฟุตบอลอังกฤษในการเข้ามาเทกโอเวอร์เชลซีเมื่อปี 2003 จำเป็นต้องขายสโมสร จากเหตุสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน (โดยไม่ได้รับอะไรกลับมาจากการลงทุนหลายพันล้านเลย) และเป็นโบห์ลี นักธุรกิจกีฬาชาวอเมริกัน เจ้าของร่วมทีมเบสบอล แอลเอ ดอดเจอร์ส ที่เป็นผู้นำในกลุ่มทุนที่เข้ามาเทกโอเวอร์กิจการต่อในสนนราคา 4.5 พันล้านปอนด์
แต่ภายหลังจากที่มีการเปลี่ยนถ่ายเจ้าของสโมสร รวมถึงการปรับโครงสร้างภายในสโมสร มีการเลิกจ้างผู้บริหารในยุคของอบราโมวิชทั้ง บรูซ บัค ประธานสโมสร, มารินา กรานอฟสกายา ไปจนถึง ปีเตอร์ เช็ก ผู้อำนวยการสโมสร พ้นจากตำแหน่ง ล่าสุดเชลซียุคใหม่เตรียมเดินเครื่องอย่างเต็มตัวแล้ว และพวกเขามีเป้าหมายในใจเรียบร้อย
เป้าหมายคนดังกล่าวคือ ราฮีม สเตอร์ลิง กองหน้าทีมชาติอังกฤษของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกองหน้าระดับท็อปของวงการฟุตบอลเมืองผู้ดีเวลานี้
สเตอร์ลิงเป็นกำลังสำคัญของแมนฯ ซิตี้ มาโดยตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาจากลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2015 แต่เริ่มมีคำถามกับอนาคต หลังจากที่เริ่มตกอยู่ในสถานะตัวสำรองในทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ในฤดูกาล 2021/22 ที่ผ่านมา โดยได้ลงตัวจริงแค่ 32 จาก 58 นัด ซึ่งเป็นการออกสตาร์ทตัวจริงที่น้อยที่สุด
ปัจจุบันกองหน้าความเร็วสูงที่สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนหน้ามีอายุ 27 ปี และกำลังจะเข้าสู่ช่วงพีคของชีวิตการเป็นนักฟุตบอล ซึ่งสเตอร์ลิงต้องการการันตีโอกาสในการลงสนามต่อเนื่อง
เพียงแต่เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผู้จัดการทีมอย่างเป๊ปไม่สามารถการันตีให้ได้ และความหวังในการหาข้อตกลงในเรื่องการขยายระยะเวลาสัญญาเดิมในถิ่นเอติฮัดสเตเดียม ซึ่งเหลือระยะเวลาแค่เพียงปีเดียว ประสบปัญหาไม่สามารถเดินหน้าต่อได้
สถานการณ์นี้นำไปสู่การยื่นมือเข้ามาของเชลซี ที่ต้องการนักเตะเข้าเสริมกำลังในแนวรุกเช่นกัน และเชื่อว่านักเตะที่มีความสามารถสูงและประสบการณ์ล้นเหลืออย่างสเตอร์ลิง จะช่วยทีมให้กลับมามีลุ้นความสำเร็จอีกครั้งในฤดูกาลหน้าได้เป็นอย่างดี
โดยในฤดูกาลใหม่ 2022/23 ที่กำลังจะมาถึง โธมัส ทูเคิล หวังปรับกระบวนทัพในแดนหน้า เริ่มจากการปล่อย โรเมลู ลูกากู กองหน้าตัวเป้าที่ทุ่มซื้อมาด้วยเงินถึง 97.5 ล้านปอนด์ และกลายเป็นความล้มเหลวราคาแพง คืนให้อินเตอร์ มิลาน ยืมตัวไปใช้งานก่อน จากนั้นคาดว่าจะมีการปล่อย ฮาคิม ซิเย็ค ปีกชาวโมร็อกโกที่ประสบปัญหากับการปรับตัวในถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์ ออกไปอีกราย
เพื่อทดแทนสองคนนี้ สเตอร์ลิงคือคนที่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะมีความสามารถในการเล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนหน้า เป็นผู้เล่นที่มีความยืดหยุ่นต่อแท็กติกการเล่นสูง ซึ่งตอบโจทย์กุนซืออย่างทูเคิลเป็นอย่างดี
ตามรายงานจาก The Times เปิดเผยว่า สเตอร์ลิงและทูเคิลได้มีการพูดคุยกันแล้ว และมองเห็นภาพตรงกันในการทำงานร่วมกันในฤดูกาลหน้า
ขณะที่ด้านแมนฯ ซิตี้ ก็ไม่ต้องการเก็บนักเตะที่ไม่มีใจเอาไว้กับทีมเช่นเดียวกัน โดยทีมได้ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ และ ฮูเลียน อัลวาเรซ สองกองหน้าใหม่ เข้ามาทดแทนแล้ว อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างสองสโมสรเป็นไปด้วยดี ทำให้คาดว่าการเจรจาใดๆ ไม่น่าจะมีปัญหา โดยเชื่อว่าจะมีการยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการภายในวันนี้ และหวังว่าการย้ายทีมจะเสร็จสิ้นก่อนที่เชลซีจะเรียกนักเตะกลับมารายงานตัวในวันเสาร์นี้
สำหรับค่าตัวที่มีการประเมินไว้อยู่ที่ 55 ล้านปอนด์ ขณะที่ค่าเหนื่อยคาดว่าน่าจะได้มากกว่าที่ได้จากแมนฯ ซิตี้ อยู่สัปดาห์ละ 3 แสนปอนด์
และหากประสบความสำเร็จ สเตอร์ลิงจะเป็นนักเตะใหม่รายแรกที่จะเปิดศักราชให้กับสโมสรที่จะเข้าสู่ยุคใหม่แบบเต็มตัว โดยที่คาดว่าจะมีสตาร์รายอื่นๆ ตามมา ซึ่งตามรายงานข่าวยังมี
- นาธาน อาเก กองหลังอดีตลูกหม้อของสโมสร ที่อาจซื้อกลับมาจากแมนฯ ซิตี้ พร้อมกับสเตอร์ลิง
- ฌูลส์ กุนเด กองหลังดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศสจากเซบียา
- มัตไธส์ เดอ ลิกต์ กองหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์จากยูเวนตุส
- ราฟินญา ปีกขวาตัวเทพของลีดส์ ยูไนเต็ด ที่อาร์เซนอลหมายปองเช่นกัน
- ริชาร์ลิสัน กองหน้าทีมชาติบราซิลของเอฟเวอร์ตัน ที่สเปอร์สต้องการตัว
- อุสมาน เดมเบเล ปีกทีมชาติฝรั่งเศส ที่อนาคตกับบาร์เซโลนายังไม่แน่นอน แม้ว่ากำลังจะหมดสัญญาในวันที่ 30 มิถุนายนนี้
นักเตะเหล่านี้อาจจะไม่ได้ย้ายมาทั้งหมด แต่อย่างน้อยเชื่อว่า โบห์ลีต้องการสร้างความประทับใจให้แก่แฟนๆ ในช่วงตลาดนักเตะรอบแรกของเขา เพื่อให้เชลซีกลับมาเป็นทีมที่มีลุ้นความสำเร็จอีกครั้งอย่างแน่นอน
อ้างอิง: