Kerry Express บริษัทขนส่งแบรนด์สีส้มขวัญใจมหาชน ลดค่าบริการส่งพัสดุ ขยายสู่ตลาด Economy Market

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่ามีประชาชนมากมายที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ผันตัวเองมาเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เต็มตัว หรือแม้กระทั่งยึดเป็นอาชีพเสริมเพื่อหาทางรอด ซึ่งสิ่งที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ล้วนต้องการไม่ต่างกันนั้นย่อมเป็นบริการขนส่งพัสดุที่ทั้ง ‘ถูกและดี’ ซึ่งมั่นใจได้ในคุณภาพ และยังสามารถช่วยประหยัดค่าขนส่ง โชคดีที่ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุอันดับ 1 อย่าง Kerry Express (เคอรี่ เอ็กซ์เพรส) บริษัทขนส่งแบรนด์สีส้มขวัญใจของมหาชน ได้มีการปรับลดราคาเพื่อเข้ามาแข่งขันใน ‘ตลาดขนส่งพัสดุราคาประหยัด’ (Economy Market) ผลดีจึงตกอยู่ที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ และผู้บริโภคอย่างเราแบบเต็มๆ THE STANDARD ขอพาทุกคนไปดูกันให้รู้ถึงความสำเร็จอันน่าทึ่ง ที่นำพาให้ Kerry Express มายืนบนจุดสูงสุด รวมถึงทิศทางที่บริษัทขนส่งอันดับ 1 ของไทยกำลังจะมุ่งหน้าไป พร้อมบทบาทสำคัญในการมีส่วนช่วยเหลือเคียงข้างคนไทยภายใต้สถานการณ์วิกฤตโควิด

การันตีความเหนือระดับ ตอกย้ำจุดแข็งในฐานะเบอร์  1

Kerry Express ได้รับรางวัล ‘Marketeer No.1 Brand Thailand’ ถึง 4 ปีซ้อนติดต่อกัน

นับเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาด เมื่อ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX ได้รับรางวัล ‘Marketeer No.1 Brand Thailand’ ในสาขาบริการจัดส่ง/โลจิสติกส์ เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน (ตั้งแต่ปี 2017-2021) ทั้งนี้ รางวัลดังกล่าวจัดมอบโดยนิตยสารธุรกิจชั้นนำอย่าง Marketeer ซึ่งได้ยกให้ Kerry Express ครองตำแหน่งแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศ จากผลการโหวตของผู้บริโภค โดยได้คะแนนถึง 63.8% ซึ่งถือว่าทิ้งห่างอันดับ 2 ซึ่งได้คะแนน 19.1% อย่างชนิดขาดลอย สะท้อนให้เห็นถึงความเหนือระดับ ตอกย้ำจุดแข็งของแบรนด์ขนส่งพัสดุขวัญใจมหาชนที่เหนือกว่าคู่แแข่งในทุกด้าน แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ทิศทางข้างหน้าที่บริษัทกำลังมุ่งหน้าไป ถือเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ที่ทำให้ Kerry Express ยืนหนึ่งในหัวใจของผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี 

ข้อมูลจากผลสำรวจของ Marketeer สะท้อนให้เห็นถึงความเหนือระดับของแบรนด์ Kerry Express

ตอบโจทย์ยุคโควิด…ขยายสู่ตลาดขนส่งพัสดุราคาประหยัด ตอกย้ำจุดแข็ง ‘ถูกและดี’ มีจริงที่ Kerry Express

ความน่าสนใจอย่างหนึ่งที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ และหลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ก็คือ ในช่วงที่ผ่านมา Kerry Express ได้ใช้กลยุทธ์ ‘ปรับราคา’ มาดึงดูดกลุ่ม C2C (Consumer to Consumer) หรือกลุ่มลูกค้าทั่วไป เพื่อขยายเข้าสู่ ‘ตลาดขนส่งพัสดุราคาประหยัด’ (Economy Market) นับเป็นการตอบโจทย์ความต้องการในยุค New Normal ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) นำไปสู่พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยพบว่ามีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้ E-Commerce กันมากขึ้นและเร็วขึ้น ผู้บริโภคถูกสถานการณ์บังคับให้คุ้นชิน และต้องปรับตัวกับการซื้อของใช้ประจำวันและสินค้าอื่นๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของโควิด ที่ส่งผลให้เกิดการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งเมื่อการซื้อของออนไลน์กลายเป็นกิจวัตรประจำวันของผู้บริโภคแล้วนั้น ทำให้ผู้คนเปิดรับการใช้จ่ายผ่านทาง E-Commerce และ Social Commerce หรือการค้าขายผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์กันมากขึ้น จึงทำให้การค้าขายออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยตัวเลขของการช้อปปิ้งออนไลน์ในปี 2563 ที่ผ่านมา มีการเติบโตมากถึง 35% เมื่อเทียบจากปี 2562 นอกจากนี้หลายๆ คนที่ประสบปัญหา ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการตกงานหรือโดนลดเงินเดือน ก็ได้ผันตัวมาเป็นพ่อค้าและแม่ค้าออนไลน์เพื่อหาทางรอดกันถ้วนหน้า ส่งผลให้อาชีพค้าขายออนไลน์เติบโตมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด และมีจำนวนพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หน้าใหม่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน  

ทั้งนี้ สิ่งที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ล้วนต้องการไม่ต่างกันก็คือ บริการขนส่งสินค้าที่มีคุณภาพและช่วยประหยัดค่าส่ง ด้วยเหตุนี้เองการขยายสู่ตลาดขนส่งพัสดุราคาประหยัดของ Kerry Express จึงเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์และผู้บริโภคในยุคโควิดได้อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งในประเด็นนี้ หัวเรือใหญ่อย่าง ‘อเล็กซ์ อึ้ง’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวกับ THE STANDARD ว่า 

“ด้วยสถานการณ์โควิดที่เราจำเป็นต้องรักษาระยะห่างทางสังคม Kerry Express จึงเข้ามาเป็นสื่อกลางในการจับจ่ายซื้อของและส่งของ เราเชื่อว่า Kerry Express มีความสำคัญกับประเทศไทยไม่ต่างจากกระดูกสันหลัง เพราะนอกจากทำหน้าที่ส่งพัสดุ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจค้าขายออนไลน์ดำเนินต่อไปได้แล้ว เรายังเป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ของประเทศไทย ซึ่งส่งเสริมการจ้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้คนจำนวนมาก นับแค่เฉพาะพนักงานส่งพัสดุเราก็มีกว่า 20,000 คน ทั้งยังกระจายการจ้างงานไปสู่ต่างจังหวัดอย่างทั่วถึง ท่ามกลางวิกฤตโควิด เราดีใจที่การปรับลดราคาของ Kerry Express มีส่วนช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ช่วยให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างไม่สะดุด”

อเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ นอกจากปรับลด ‘ราคาส่ง’ พัสดุลง ทาง Kerry Express ยังได้มีการจัดโปรโมชันและเพิ่มสิทธิพิเศษต่างๆ ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าสมาชิก ‘Kerry Express Loyalty Club’ ที่ทุกๆ การส่งพัสดุสามารถสะสมเป็น ‘Kerry Point’ เพื่อนำมาแลกส่วนลดค่าขนส่ง และยังมีราคาพิเศษสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่จัดส่งพัสดุเป็นจำนวนมาก โดยสามารถเข้าไปพูดคุยกับสาขาที่จัดส่ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณามอบส่วนลดเพิ่มให้ได้ ก็จะเป็นการช่วยทุ่นค่าส่งได้เพิ่มขึ้นอีกต่อ แถมนอกจากนี้ยังสามารถใช้ Kerry Point แลกรับสิทธิพิเศษจากบรรดาร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศได้อีกด้วย โดยต่อจากนี้ทางบริษัทยังจะเพิ่มความเข้มข้นในการจัดโปรโมชันและมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับลูกค้า โดยไม่เพียงแค่กลุ่มลูกค้าสมาชิกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำโปรโมชันกับกลุ่มลูกค้าทั่วไปในวงกว้าง เพื่อตอกย้ำจุดแข็ง ‘ถูกและดี’ ของแบรนด์ Kerry Express ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย

ค่าจัดส่งราคาพิเศษสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่จัดส่งพัสดุเป็นจำนวนมาก สามารถเข้าไปพูดคุยกับสาขาที่จัดส่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณามอบส่วนลดเพิ่มให้ได้

ยกระดับการบริการและการเข้าถึงคนไทยในทุกๆ ที่ด้วยกลยุทธ์ Kerry Express Everywhere

นับตั้งแต่ Kerry Express ได้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2549 ก็ได้เติบโตและประสบความสำเร็จจนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านการจัดส่งพัสดุด่วนเอกชนเบอร์ 1 ในประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่ง ปัจจุบันแบรนด์ Kerry Express มีจุดบริการมากกว่า 20,000 แห่งทั่วประเทศ พร้อมศูนย์กระจายพัสดุกว่า 1,300 แห่งครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย สามารถรองรับพัสดุได้กว่า 2 ล้านชิ้นต่อวัน โดยมีรถที่ใช้ในการส่งพัสดุกว่า 26,000 คัน เพื่อให้พัสดุถึงมือลูกค้าได้อย่างเร็ว เพื่อคงความเป็นเบอร์ 1 ในตลาดเอาไว้ และเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ไหนของประเทศไทย ก็สามารถจัดส่งพัสดุด่วนกับ Kerry Express ได้อย่างแน่นอน ทางแบรนด์จึงได้ดำเนินตามกลยุทธ์ ‘Kerry Express Everywhere’ ยกระดับการบริการและการเข้าถึงคนไทยในทุกๆ ที่ สำหรับประเด็นดังกล่าว หัวเรือใหญ่ของ Kerry Express ยังกล่าวกับ THE STANDARD อีกว่า ในปี 2021 ภาพรวมของตลาดดีขึ้น แตกต่างจากเมื่อปี 2020 ซึ่งสถานการณ์กระทบหรือส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ 

“มาปีนี้เราคาดเดาสภาพตลาดได้ง่ายขึ้น ทีมงาน Kerry Express ปรับตัวให้ยืดหยุ่นกับสถานการณ์กันได้มากขึ้น นอกจากนี้หลังจากลูกค้าปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตยุคใหม่ได้แล้ว ผู้คนต่างเริ่มคุ้นชินกับการช้อปออนไลน์มากขึ้น ทำให้ปีนี้เราเติบโตขึ้นอย่างมาก Kerry Express ยังมีแผนในการกระจายสาขาเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ ตลอดจนการปรับตัวในด้านต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค อาทิ การขยายสาขาจุดรับ เพื่อกระจายพัสดุออกไปให้มากขึ้น รวมถึงปรับแผนในการส่งจากใช้ระบบรวมศูนย์ เป็นการกระจายบริการของเราออกไปให้ได้มากที่สุด เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ E-Commerce และ Social Commerce หรือการขายสินค้าผ่านสังคมออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน”

เหนือกว่าคู่แข่งในทุกๆ ด้าน ยืนหนึ่งในใจผู้บริโภค 

ไม่เพียงแค่ยกระดับการบริการเพื่อเข้าถึงคนไทยในทุกๆ ที่ทั่วประเทศ การปรับลดราคาเพื่อขยายสู่ตลาดขนส่งพัสดุราคาประหยัดของ Kerry Express สามารถมีส่วนช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ดำเนินกิจการได้อย่างไม่สะดุดในภาวะวิกฤต ช่วยประหยัดค่าส่ง ทำให้ผู้บริโภคได้รับการบริการที่ทั้ง ‘ถูกและดี’ แล้วยังเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ดำเนินต่อไปได้ นับเป็นการตอกย้ำทั้งจุดยืนและจุดแข็งของแบรนด์ขนส่งคุณภาพอันดับ 1 ของไทยให้เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่ง ณ วันนี้การส่งพัสดุของ Kerry Express เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วไม่แตกต่างกันเลย แต่สิ่งที่แตกต่างคือคุณภาพของบริการที่โดดเด่นล้ำหน้าเหนือกว่าคู่แข่ง

ส่งความสุขผ่านกล่องพัสดุไปยังมือผู้รับอย่างรวดเร็วและปลอดภัย บริการจัดส่งพัสดุคุณภาพที่ทั้ง ‘ถูกและดี’

“พวกเราชาว Kerry Express รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราให้ความสำคัญกับการรักษาสัญญาและมุ่งมั่นพัฒนาอยู่เสมอ ทั้งเรื่องกลไกการทำงาน เทคโนโลยี และการประสานกับลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การส่งพัสดุที่ดีที่สุด 

“ปัจจุบัน Kerry Express มีความแข็งแกร่งในด้านคุณภาพการให้บริการในทุกๆ ด้าน ทั้งการจัดส่ง ความรวดเร็ว และความรับผิดชอบ พร้อมบริการของพนักงานที่มีหัวใจบริการ ที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนทำให้บริษัทมั่นใจว่า จะสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำในธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วน และครองความเป็นเบอร์ 1 ในใจผู้บริโภคได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” หัวเรือใหญ่ของ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

ไม่เพียงแต่ส่งความสุขผ่านกล่องพัสดุไปยังมือผู้รับอย่างรวดเร็วและปลอดภัยเท่านั้น การปรับลดราคาลงของ Kerry Express ยังสามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจ E-Commerce และ Social Commerce ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตมากยิ่งขึ้น แม้ในภาวะวิกฤตโควิดอันยากลำบาก แถมยังช่วยให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ดำเนินกิจการได้อย่างไม่สะดุด โดยได้รับบริการที่ทั้ง ‘ถูกและดี’ จากที่กล่าวมาทั้งหมด และล่าสุดในช่วงไตรมาส 3/64 เคอรี่ก็ได้ประสบความสําเร็จ จากการดําเนินกลยุทธ์ด้านราคาเชิงรุก โดยมีปริมาณการจัดส่งพัสดุเพิ่มขึ้นกว่า 48% เมื่อเทียบจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว รวมถึงมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 7.5 ล้านคน จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่แบรนด์ Kerry Express จะผงาดขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 1 ในฐานะผู้ให้บริการส่งพัสดุด่วนขวัญใจมหาชน ที่พิชิตทั่วประเทศด้วยความเหนือกว่าคู่แข่งในทุกๆ ด้าน