KBTG ชี้ โลกการเงินหลังโควิดจะเห็นการดิสรัปท์ต่อเนื่อง 10 ปี ก่อนจะพลิกโฉมระบบเศรษฐกิจและการเงินแบบไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ระบุเป็นยุคทองของระบบการเงินโลก สร้างโอกาสมหาศาล เชื่อแบงก์ที่อยู่รอดได้ต้องมีสเกลและสปีดเท่านั้น ระบุแบงก์ไม่หายไปแต่จะแฝงอยู่ในทุกอีโคซิสเต็มของชีวิตลูกค้า
กระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวในงาน Bangkok FinTech Fair 2021 หัวข้อ ‘Disruptive Technologies in Trend with Potential Financial Solutions: พลิกโฉมโลกการเงินด้วย Disruptive Technologies’ ว่า โควิดเร่งเครื่องการเปลี่ยนแปลงในระบบการเงินโลก ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นหลังโควิดคือ Continuous Disruption ที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องจากช่วงเวลานี้ไปอีก 10 ปี หรือไปถึงปี 2030 จึงเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาสมหาศาล และจะเห็นการหักศอกอย่างน้อย 2 ครั้ง คือ ปี 2024-2025 และอีกครั้งช่วงปลาย 2030 และหลังจากนั้นโลกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เป็นการยกเครื่องทั้งกระบิของระบบเศรษฐกิจโลก
“ยกตัวอย่างเช่น อินโดนีเซียในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการเร่งตัวของอุตสาหกรรมดิจิทัลที่เติบโตเร็วมาก จากเดิมใช้เวลา 5 ปี มาเหลือปีเดียว ได้เห็นยูนิคอร์นเกิดขึ้นมากมาย แต่ทุกครั้งที่เกิด Disruption จะเห็นการทำลายล้างเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมรวมถึงภาคการเงินด้วย เพื่อสร้างสิ่งใหม่ซึ่งเป็นโอกาสมหาศาล ถ้าเราพลาดรถไฟนี้เราตามไม่ทันแน่ ดังนั้นระบบแบงก์ต้องปฏิรูปตัวเอง ไม่ปรับตัวอย่างเร่งด่วนคือตาย”
เขากล่าวว่าในปี 2016-2017 เป็นคลื่นลูกแรกของการดิสรัปท์ คือเริ่มเห็นระบบการโอนเงินดิจิทัลและการเกิดขึ้นของสตาร์ทอัพและฟินเทค ตามมาด้วย CeFi & DeFi ที่เป็นการเติบโตจากคริปโตฯ และ Bitcoin แต่เมื่อมาถึงปี 2018-2019 เข้าสู่คลื่นลูกที่ 2 เริ่มเห็นการรวมพลังกันระหว่างแบงก์และฟินเทคมากขึ้น แบงก์เริ่มไปลงทุนเพื่อนำผลิตภัณฑ์การเงินไปอยู่ในอีโคซิสเต็มอื่น หรือแยกธุรกิจดิจิทัลออกมาจากธนาคาร ขณะเดียวกันยังเห็นการเกิดขึ้นของ Binance ETH และ Smart Contract
แต่เมื่อมาถึงปี 2020 เริ่มมีโควิด เห็นพฤติกรรมคนที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เกิด WFH Economy ทุกคนต้องเปลี่ยนไปในโลกออนไลน์ทั้งการเรียน การทำงาน การช้อปปิ้ง ทุกอย่างไปออนไลน์ เห็นการเติบโตอย่างเร่งเครื่องทุกอย่าง จากที่เคยใช้เวลา 5 ปี เหลือปีเดียว ในส่วนของกสิกรไทยเห็นธุรกรรมเพิ่มขึ้น 60% ผู้ใช้บริการทางมือถือ 20%
“หลังจากนี้จะเห็น Mobility ที่จะสร้างการเคลื่อนย้ายคน สินค้า และเม็ดเงิน ซึ่ง Mobility จะเป็นตัวที่เข้ามาเปลี่ยนโลกการเงินให้บริการได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้นในปี 2030 กระทบกับความต้องการของคนที่เปลี่ยนไป เช่น การกู้บ้าน กู้รถ ที่ในอนาคตคนอาจเป็นเจ้าของรถน้อยลง กระทบอุตสาหกรรมประกันภัย และเมื่อคนอยู่บ้านมากขึ้นก็กระทบกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นบริการทางการเงินต้องเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว”
นอกจากนี้โควิดยังทำให้อีคอมเมิร์ซในประเทศไทยเติบโตถึง 58% สูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สะท้อนพฤติกรรมคนไทยที่เปลี่ยนไปอย่างก้าวกระโดด ขณะเดียวกัน โควิดเร่งการเติบโตของ CeFi & DeFi เช่นกัน โดยจะพบว่าปัจจุบันคนไทยเปิดบัญชีคริปโตฯ เป็นอันดับต้นๆ ของโลก
เขายังกล่าวอีกว่า บล็อกเชนกำลังจะปฏิรูประบบการเงิน โดยคาดว่าในปี 2027 จะเห็นว่า GDP ของโลกถูกเก็บอยู่ในบล็อกเชน 10% ระบบการเงินที่เคยอยู่แบบรวมศูนย์จะถูกกระจายออกไป หลายประเทศเริ่มทำสกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง ในอนาคตจะเห็นการอยู่ร่วมกันของสินทรัพย์ดิจิทัลและสินทรัพย์ดั้งเดิม หลายธนาคารจึงต้องขยับเข้ามาทำธุรกิจนี้ เช่นเดียวกับธนาคารกสิกรไทยที่ได้เปิดตัว Kubix ซึ่งเป็นดิจิทัลโทเคนไปก่อนหน้านี้
สำหรับรูปแบบของธนาคารพาณิชย์ในอนาคตนั้นเชื่อว่าจะเห็นการเกิดขึ้นของ Invisible Bank คือแบงก์จะปรับตัวเข้าไปอยู่ในทุกอีโคซิสเต็ม โดยแบงก์จะยังอยู่เบื้องหลัง แต่เป็นตัวให้บริการทางการเงินในทุกช่วงวงจรชีวิตดิจิทัลของลูกค้า โดยหลังปี 2021 เป็นต้นไป จะเป็นทศวรรษที่เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด โดยธนาคารที่ปรับตัวได้สำเร็จจะไปรวมเป็นหนึ่งเดียวกับชีวิตลูกค้า เข้าไปอยู่ในอีโคซิสเต็มของชีวิต ซึ่งธนาคารที่ปรับตัวและอยู่รอดได้จะต้องมีขนาด (Scale) และความเร็ว (Speed) เท่านั้นถึงจะอยู่รอดเป็นดิจิทัลแบงก์ได้
“ทศวรรษจากนี้ไปจะเป็นยุคที่น่าตื่นเต้นและมีโอกาสมหาศาล เพราะภาพที่เกิดขึ้นคือธนาคารผู้รอดเหล่านี้จะเกิดความร่วมมือกับฟินเทคมากขึ้น ทั้งในแง่การร่วมลงทุนและต่อยอด รวมถึงเกิดนวัตกรรมแห่งความร่วมมือ (Co-Innovative) ระหว่างแบงก์ ฟินเทค และลูกค้าแบงก์ และอีกขาหนึ่งคือความร่วมมือกันของ CeFi & DeFi เกิดยุคทองของโลกการเงินที่จะร่วมกันส่งมอบบริการทางการเงินที่จะครอบคลุม โปร่งใส และสะดวก”
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP
