วันนี้ (31 ก.ค.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยแถลงการณ์ฉบับที่ 51/2561 โดยระบุว่าในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับรายงานจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ว่ามีข้อมูลที่ไม่เกี่ยวกับธุรกรรมการเงินของลูกค้าบางส่วนหลุดไปยังภายนอก
สำหรับกรณีของธนาคารกสิกรไทย ข้อมูลที่รั่วไหลออกไปนั้นเป็นข้อมูลลูกค้านิติบุคคลที่เป็นข้อมูลสาธารณะซึ่งหาได้ทั่วไป ส่วนธนาคารกรุงไทย ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นข้อมูลคำขอสินเชื่อของลูกค้ารายย่อยและนิติบุคคลบางส่วน ซึ่งหลังจากที่ธนาคารทั้งสองแห่งได้ตรวจพบปัญหาดังกล่าวก็ได้เร่งตรวจสอบทันที และพบว่ายังไม่มีลูกค้าที่ได้รับความเสียหาย
ใจความสำคัญคือข้อมูลที่หลุดออกไปไม่ใช่ ‘ข้อมูลธุรกรรมทางการเงิน’ และธนาคารทั้ง 2 แห่งก็ได้ดำเนินการปิดช่องโหว่ของระบบดังกล่าว และได้ตรวจสอบระบบงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดให้มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมา ประเมินทุกระบบงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของแฮกเกอร์ที่มีความพยายามจะเจาะเข้าระบบของหน่วยงานต่างๆ
พร้อมกันนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำชับให้ธนาคารทั้ง 2 แห่งยกระดับมาตรการป้องกันภัยทางไซเบอร์ให้เข้มงวดยิ่งขึ้น และดูแลไม่ให้ลูกค้าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งสื่อสารให้ลูกค้าที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้รับทราบ พร้อมเตรียมมาตรการเยียวยาลูกค้าหากเกิดกรณีความเสียหาย รวมทั้งแจ้งสถาบันการเงินทุกแห่งปิดช่องโหว่ดังกล่าวและเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ด้านนายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันพุธที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ธนาคารได้ตรวจสอบพบว่ามีข้อมูลรายชื่อลูกค้าองค์กรของธนาคารประมาณ 3,000 รายที่ใช้เว็บที่ให้บริการหนังสือค้ำประกัน อาจหลุดออกไปภายนอก ซึ่งเมื่อธนาคารทราบเรื่องได้ดำเนินการปิดช่องโหว่ทันที และได้เพิ่มระดับการเฝ้าระวังและป้องกันให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดข้อมูลรั่วไหลอีก
สำหรับข้อมูลที่อาจจะหลุดไปเป็นข้อมูลสาธารณะทั่วไปเฉพาะของลูกค้าที่ใช้บริการหนังสือค้ำประกันผ่านช่องทางเว็บเท่านั้น อาทิ ชื่อบริษัท, หมายเลขโทรศัพท์, ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อมูลสำคัญด้านธุรกรรมหรือการเงินของลูกค้า จึงไม่น่าจะนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงโจรกรรมได้ และจากการตรวจสอบยังไม่พบว่าเกิดความเสียหายกับลูกค้ารายใด
อย่างไรก็ตามธนาคารจะยังเฝ้าระวังความผิดปกติของบัญชีลูกค้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับสาเหตุเบื้องต้นน่าจะเกิดจากกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความพยายามที่จะเจาะเข้าระบบของหน่วยงานต่างๆ มาตลอด ทั้งนี้ธนาคารมีแผนจะแจ้งให้ลูกค้าธนาคารที่ได้รับผลกระทบทราบเป็นรายองค์กร หากลูกค้าตรวจพบความผิดปกติของธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง ธนาคารพร้อมรับผิดชอบและให้ความช่วยเหลือ โดยลูกค้าสามารถติดต่อมายัง K-Biz Contact Center 0 2888 8822 ตลอด 24 ชั่วโมง