×

แขจัดเต็ม! Katy Perry กับคอนเสิร์ต Witness Tour: The Tour 2018 Bangkok

11.04.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • กว่า 2 ชั่วโมงของคอนเสิร์ตในครั้งนี้ เคทีได้ขนเพลงฮิตมากมายกว่า 19 เพลง โดยจะแยกโชว์เป็นองก์ต่างๆ ที่มีกลิ่นอาย Space Age ปลายยุค 50s ผสมผสานความจัดจ้านของยุค 80s และเหมือนจะได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ Barbarella
  • ถ้าต้องยกโมเมนต์ที่ประทับใจก็ต้องบอกว่าเกิดขึ้นระหว่างช่วงสนทนากับคนดู ที่หลายๆ ครั้งนักร้องระดับโลกอาจดูเหมือนน้ำแข็งพูดตามสคริปต์ที่ท่องจำมาอย่างเพอร์เฟกต์ แต่กับเคที เธอกลับพูดกับคนดูตลอดเวลา และมีอารมณ์ขันที่ดูจริงใจ
  • ความคุ้มค่าของคอนเสิร์ต Witness Tour คือโปรดักชันที่ต้องบอกว่าระดับโลกและคุ้มทุกบาททุกสตางค์ ทั้งเวทีหลักที่ใหญ่ 70 ฟุต มีแคตวอล์กยื่นออกมา 90 ฟุต และลิฟต์ไฮดรอลิกขึ้นลงเกือบสิบตัวทั่วเวที

 

 

จบคอนเสิร์ต Katy Perry Witness: The Tour 2018 Bangkok มี 4 ประเด็นที่เข้ามาในหัวเรา

 

1. คอนเสิร์ตนี้เปรียบเสมือนตอนไป Candy Bar ในซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วตักของหวานต่างๆ ใส่ถุงกระดาษที่อร่อยสุด และหยุดกินไม่ได้

 

2. คอนเสิร์ตทำให้นึกถึงช่วงเวลายุค 90s กับเคเบิล UBC ที่ต้องดูช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์ก และเหล่าการ์ตูนค่าย Hanna-Barbera โดยเฉพาะเรื่อง The Jetsons

 

3. เคทีมีเพลงฮิตเยอะจริงๆ ที่ทำให้เธอเป็นตัวแปรสำคัญในอุตสาหกรรมเพลงกระแสหลักของโลก ซึ่งก็ต้องยกย่องและนับถือ

 

4. คำสบประมาทต่างๆ ที่เธอสะสมมาเหมือนโดนทลาย และทำให้เห็นว่าเคทีมาเต็ม 100%

 

กว่า 2 ชั่วโมงของคอนเสิร์ตในครั้งนี้ เคทีได้ขนเพลงฮิตมากมายกว่า 19 เพลง โดยจะแยกโชว์เป็นองก์ต่างๆ ที่มีกลิ่นอาย Space Age ปลายยุค 50s ผสมผสานความจัดจ้านของยุค 80s และเหมือนจะได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ Barbarella ที่ เจน ฟอนดา เคยแสดง โดยภายใต้รูปแบบโชว์ที่ตระการตาทุกช่วงนั้นมีอุปกรณ์ตกแต่งฉากจนต้องเรียกว่า Queen of Props และสร้างเสียงหัวเราะไม่หยุด

 

เคทีเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอตั้งแต่เด็กจนถึงการเข้ามาอยู่ในวงการเมื่ออายุเพียง 10 ปี กับอัลบั้มแรก One of the Boys ในปี 2008 ก่อนจะกลายเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ประสบความสำเร็จในสหัสวรรษนี้ และเพิ่งได้ค่าตัวจากการเป็นคณะกรรมการรายการ American Idol จำนวน 25 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 780 ล้านบาท!

 

 

คอนเสิร์ตเปิดด้วยเพลง Witness ตามชื่ออัลบั้มล่าสุด จากนั้นเล่นเพลง Dark Horse, Teenage Dream, Chained to the Rhythm, California Gurls และ Roar ฯลฯ ก่อนจะปิดโชว์ช่วงอังกอร์ด้วยเพลงอมตะ Fireworks ที่เธอยืนร้องบนมือยักษ์พองลมปลายเวที พร้อมใส่ชุดเดรสสีม่วงดีไซน์ประดับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี 30,000 ชิ้น ของดีไซเนอร์ Zaldy ซึ่งก็ตอกย้ำว่าหากต้องเลือกหนึ่งเพลงที่จะจารึกความสำคัญของผู้หญิงที่ชื่อ ‘แคเธอรีน อลิซาเบธ ฮัดสัน’ เพลง Firework น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสุด

 

ถ้าต้องยกโมเมนต์ที่ประทับใจก็ต้องบอกว่าเกิดขึ้นระหว่างช่วงสนทนากับคนดู ที่หลายๆ ครั้งนักร้องระดับโลกอาจดูเหมือนน้ำแข็งพูดตามสคริปต์ที่ท่องจำมาอย่างเพอร์เฟกต์ แต่กับเคที เธอกลับพูดกับคนดูตลอดเวลา มีอารมณ์ขันที่ดูจริงใจ และยังให้คนดูสอนภาษาไทย เช่น คำว่า ‘ร้อน’ และ ‘เย็น’ ที่แปลชื่อเพลง Hot N Cold หรือตอนที่เชิญหนึ่งในแฟนคลับ KatyCats ชื่อ ทันย่า ขึ้นมาบนเวที เธอก็ได้บอกเคทีว่าชื่อเล่นของเธอในประเทศไทยคือ ‘แข’ ซึ่งก็สร้างเสียงกรี๊ดกระหึ่ม

 

ส่วนช่วงการแสดงเพลงอย่าง Wide Awake กับแค่กีตาร์ง่ายๆ ก็ทำให้เห็นว่าจริงๆ แล้วเคทีก็มีเส้นเสียงที่แข็งแรง และน่าจะเป็นทางที่เธอควรโฟกัสในผลงานต่อๆ ไปที่นิ่งขึ้น

 

 

ต้องยอมรับว่าหากคุณต้องการชมคอนเสิร์ตที่นักร้องโชว์ลูกคอ 95 ชั้นก็เชิญไปดู เซลีน ดิออน ในเดือนกรกฎาคมนี้ได้ หรือถ้าอยากได้ความสนุกแบบโอลด์สคูลยุค 90s คอนเสิร์ตของ บรูโน มาร์ส ก็จะจัดปลายเดือนนี้แล้ว แต่ความคุ้มค่าและจุดแข็งของคอนเสิร์ต Witness Tour คือโปรดักชันที่ต้องบอกว่าระดับโลกและคุ้มทุกบาททุกสตางค์

 

เริ่มตั้งแต่เวทีหลักที่ใหญ่ 70 ฟุต มีแคตวอล์กยื่นออกมา 90 ฟุต และลิฟต์ไฮดรอลิกขึ้นลงเกือบสิบตัวทั่วเวที ซึ่งได้บริษัท TAIT ผู้อยู่เบื้องหลังคอนเสิร์ต P!NK และจัสติน ทิมเบอร์เลก มาสร้างให้ ส่วนหน้าจอแอลอีดีรูปตายักษ์ข้างหลังก็ดีไซน์โดย เอส เดฟลิน ศิลปินชาวอังกฤษที่คานเย เวสต์ โปรดปรานและให้เธอมาร่วมงานเป็นประจำ ด้านโปรดิวเซอร์ของโชว์ก็ได้ แบซ ฮาลปิน ชาวไอริชคนเดิมมากำกับให้ เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังโชว์ Super Bowl ของเคทีในปี 2015 ปิดท้ายด้วยชุดคอสตูมต่างๆ ที่มีทั้งของ อดัม เซลแมน (ดีไซเนอร์โปรดของริฮันน่า) เหงียนกงจี ดีไซเนอร์ชาวเวียดนาม รองเท้าของ Sergio Rossi และแบรนด์ Katy Perry Collections ของเธอเอง

 

แน่นอนว่าในสมรภูมิวงการเพลงป๊อป ศิลปินผู้หญิงก็มักโดนเปรียบเทียบกันตลอดเวลา ซึ่งเอาเข้าจริง ริฮันน่า, เลดี้ กาก้า, เคชา, เทย์เลอร์ สวิฟต์, บริตนีย์ สเปียร์ส หรือเซเลนา โกเมซ ทุกคนก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิง และการที่จะมาเหมาร่วมว่าเหมือนกัน ถือว่าคุณไม่ได้ศึกษาศาสตร์เพลงนี้อย่างถี่ถ้วน

 

สิ่งที่ทำให้เคทีแตกต่างและยืนหยัดอย่างเต็มภาคภูมิ คือเพลงของเธอเหมือนแบตเตอรี่เบสิกที่เติมพลังให้ชีวิตทุกรูปแบบ โดยเธอไม่ได้เลือกเนื้อหาที่ซับซ้อน ฉาวโฉ่ ใช้คำหยาบคายตลอดเวลา เล่าเรื่องความรักตัวเองที่คนอื่นไม่เข้าใจ หรือจะอาร์ตจนต้องตีความ 3 วัน เพลงของเธอคือสำหรับ ‘ทุกคน’ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ในคอนเสิร์ต เราหันไปทิศไหนก็เห็นทั้งผู้ใหญ่มีอายุ ผู้ชายที่ใส่ชุดพร้อมไปแข่ง Drag Race ผู้ชายใส่เสื้อเชิ้ตทำงาน ผู้หญิงร่างใหญ่ ร่างเล็ก คนต่างเชื้อชาติ หรือเด็กๆ ที่มากับเพื่อน หรืออาจมากับพ่อแม่ ในช่วงเวลาของคอนเสิร์ต ทุกคนพูดภาษาเดียวกัน เข้าใจกันและกัน และเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยภาษาเพลงของเคที เพอร์รี

 

นี่แหละคือความสำเร็จของนักร้องคนนี้!

 

 

PHOTO: Bec-Tero

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising