ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และการขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero กลายเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ สำหรับธุรกิจทั่วโลก ‘Net Zero’ หรือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิดหรือเป้าหมายเชิงนโยบาย แต่เป็นโจทย์ใหญ่ที่ธุรกิจไทยต้องเผชิญ
ประเทศไทยประกาศเป้าหมายสำคัญในการต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยให้คำมั่นที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และมุ่งสู่ Net Zero Emissions หรือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี 2065 ภายในงาน COP26 หรือการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติที่จัดขึ้นในปี 2021
นอกจากเป้าหมายของประเทศที่ตั้งไว้แล้ว ภาคธุรกิจไทยต้องเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากทั้งผู้บริโภค นักลงทุน และคู่ค้าในห่วงโซ่อุปทาน ที่เริ่มตั้งคำถามถึงความยั่งยืนของกระบวนการผลิต การค้าระหว่างประเทศบางส่วนอาจถูกจำกัดหากไม่มีมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน นอกจากนี้นโยบายของรัฐบาลในหลายประเทศ เช่น ภาษีคาร์บอน หรือ Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) ในสหภาพยุโรป อาจเพิ่มต้นทุนให้ธุรกิจที่ยังไม่พร้อม
การบรรลุเป้าหมาย Net Zero ต้องการการสนับสนุนอย่างมากจากภาคการเงิน เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำต้องใช้เงินทุนมหาศาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนในเทคโนโลยีสีเขียว และการปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจขององค์กรต่างๆ ธนาคารพาณิชย์ในฐานะกลไกหลักของระบบการเงินจึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2022 ธนาคารกสิกรไทยเปิดโปรเจกต์ที่ชื่อว่า GO GREEN Together เพื่อช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าของธนาคารเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและความยั่งยืน ทั้งการให้เงินทุนและองค์ความรู้มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับแรงกดดันและผลกระทบจาก Climate Change ต้องรีบปรับตัว ได้แก่ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage) ธุรกิจโรงแรมและเฮลท์แคร์ (Hotels and Healthcare) ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ฮาร์ดแวร์ (Automotive and Parts) และธุรกิจแพ็กเกจจิ้งและพลาสติก (Packaging and Plastics)
ทั้ง 4 อุตสาหกรรมมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจไทย ทั้งในแง่ของการสร้างมูลค่าเพิ่ม การจ้างงาน และการส่งออก และต้องการปรับตัวเพื่อให้ Less Brown หรือกรีนมากขึ้น เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ท่ามกลางความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่ยั่งยืนในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจลงมือปฏิบัติจริง คือการให้องค์ความรู้เกี่ยวกับการลดคาร์บอนซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะการให้แนวทางในการเริ่มดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะหนึ่งในปัญหาของธุรกิจไทยส่วนใหญ่คือรู้แล้วว่าเรื่องนี้สำคัญต้องทำ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มอย่างไร รวมทั้งวิธีการประเมินผลกระทบต่อธุรกิจในเชิงตัวเลข ซึ่งธนาคารกสิกรไทยก็จัดสัมมนาให้ความรู้มาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นก็คืองาน Decarbonize Now โดยในปีนี้มีลูกค้าเข้าร่วมกว่า 130 บริษัท
โดยเป็นการให้ความรู้แบบเจาะลึกในแต่ละอุตสาหกรรม แต่ทั้งหมดมีแนวคิดร่วมอยู่อย่างหนึ่งก็คือธุรกิจต้องรู้ก่อนว่าปล่อยจากกิจกรรมใด เท่าไร แล้วจึงหาวิธีการว่าจะปรับลดได้อย่างไร ในคลาสนี้จึงมีเวิร์กช็อปสอนคำนวณคาร์บอน และการทดลองใช้เครื่องมือคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่าง KClimate Accounting Platform หรือการให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดทำแผนงาน Net Zero Blueprint โดยนำเทคโนโลยีเพื่อการลดคาร์บอน เช่น ระบบโซลาร์เซลล์ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน หรือเทคโนโลยีช่วยกำจัดและบำบัดของเสีย มาจัดลำดับทำแผนงานว่าควรเริ่มปรับตัวจากเทคโนโลยีไหนก่อน เพื่อให้ได้ผลคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพในการลดคาร์บอนมากที่สุด ทำให้ผู้ร่วมสัมมนาสามารถนำกลับไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจของตัวเองได้
8 ขั้นตอนเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ Net Zero
สำหรับผู้ประกอบการที่อยากจะเริ่มต้นเปลี่ยนผ่านธุรกิจของตัวเอง สามารถทำได้ผ่าน 8 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
- ประเมินและวิเคราะห์ว่าธุรกิจของเราปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากน้อยเพียงใด เช่น การรู้ก่อนว่าธุรกิจของเรามีขอบเขตไปถึงตรงไหน ผ่านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง (Scope 1) การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการซื้อใช้พลังงาน (Scope 2) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ ผ่านกิจกรรมต้นน้ำและปลายน้ำ (Scope 3)
- เข้าใจบริบทและวัตถุประสงค์ของการเปลี่ยนผ่านธุรกิจ
- ประเมินความเสี่ยงและโอกาสที่เกิดจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในแง่ความเสี่ยง เช่น ต้นทุนพลังงานที่อาจสูงขึ้น ความต้องการของผู้บริโภคลดลง ส่วนโอกาส เช่น ตลาดใหม่จากสินค้ากรีน
- ตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ พร้อมกำหนดตัวชี้วัด
- พัฒนาแผนในการเปลี่ยนผ่านให้เป็นรูปธรรม
- สร้างความตื่นตัวและการมีส่วนร่วมให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของธุรกิจ
- ลงมือปฏิบัติและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
- รายงานผลต่อหน่วยงานต่างๆ และเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส
นอกจากได้รับความรู้ไปแล้ว ธนาคารยังมีทีม Industrial Decarbonization Solution ที่ไปให้คำปรึกษาถึงที่บริษัทโดยเฉพาะเพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถเปลี่ยนผ่านสู่คาร์บอนต่ำได้
นอกจากการสร้างความรู้ความเข้าใจแล้ว ธนาคารกสิกรไทยก็สนับสนุนด้านเงินทุนให้แก่ธุรกิจที่ต้องการเงินลงทุนสำหรับปรับเปลี่ยนสู่การเป็นธุรกิจคาร์บอนต่ำโดยเฉพาะ เป็นแพ็กเกจสินเชื่อธุรกิจเพื่อลดคาร์บอนที่ให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ และมีทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำเพื่อให้กระบวนการเปลี่ยนผ่านธุรกิจเกิดขึ้นได้จริง
หลังจากการดำเนินโปรเจกต์ GO GREEN Together มากว่า 3 ปี จะเห็นได้ว่าธุรกิจไทยตื่นตัวในเรื่องนี้มากขึ้น จากเดิมที่กว่า 98% ยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน แต่ปัจจุบันหลายธุรกิจรู้แล้วว่ายิ่งเปลี่ยนผ่านเร็วจะยิ่งได้เปรียบและช่วยเปิดโอกาสทางธุรกิจในการค้าขายกับต่างชาติ หรือสามารถเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทาน นั่นก็เพราะกระบวนการเปลี่ยนผ่านไม่สามารถทำได้เพียงชั่วข้ามคืน แต่ต้องอาศัยระยะเวลา ค่อยๆ ลงทุนปรับเปลี่ยนทีละเล็กละน้อย ธนาคารกสิกรไทยจึงเข้ามาสนับสนุนให้ธุรกิจไทยไม่ตกขบวน
เป้าหมาย Net Zero อาจดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่และซับซ้อน แต่เมื่อเราร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเล็กหรือใหญ่ เราทุกคนมีส่วนช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ ก้าวเล็กๆ ที่เริ่มต้นในวันนี้อาจกลายเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยปกป้องอนาคตของโลกและลูกหลานในวันข้างหน้า ธนาคารกสิกรไทยพร้อมสนับสนุนทุกการเดินทาง เพื่อให้ธุรกิจไทยไปได้ไกลกว่าเดิม ในโลกที่ยั่งยืนกว่าที่เคย
ดูรายละเอียดสินเชื่อธุรกิจเพื่อลดคาร์บอนได้ที่ https://www.kasikornbank.com/k_4gtm94U