ธนาคารกสิกรไทย เปิดสำนักงานใหญ่ประจำประเทศจีนที่เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง หลังจากที่ได้รับอนุมัติจากทางการจีนให้ตั้งธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่นจดทะเบียน โดยให้บริการลูกค้ากลุ่มองค์กรก่อน และจะขยายให้บริการลูกค้ารายย่อยในอีก 2 ปีข้างหน้า
ขนาดเศรษฐกิจของประเทศจีนคือกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของโลกในขณะนี้ ทุกสายตาจึงต้องการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่นี่ หากแต่ด้วยกฎเกณฑ์และข้อจำกัดที่เข้มงวดของรัฐบาลจีน การประกอบธุรกิจจึงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะภาคการเงินการธนาคาร แม้กระทั่งยักษ์ใหญ่ธนาคารไทยอย่าง ‘กสิกรไทย’ ยังใช้เวลากว่า 20 ปีจากจุดเริ่มต้นที่วิกฤตต้มยำกุ้งจนถึงวันนี้ที่สามารถเปิดสำนักงานใหญ่ที่จีนได้
บัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารจีน (CBRC) ให้จัดตั้งธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่นจดทะเบียนเต็มรูปแบบในชื่อ บริษัท ธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน) จำกัด โดยครอบคลุม 4 สาขาเครือข่ายบริการที่มณฑลเซินเจิ้น เฉิงตู เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง และสองสำนักงานผู้แทนที่ปักกิ่งและคุนหมิง โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือกสิกรไทยจะสามารถให้บริการที่ครบวงจรกับลูกค้าบรรษัทหรือลูกค้าองค์กรได้ครอบคลุมกว่าเดิมที่เป็นลักษณะสำนักงานตัวแทนเท่านั้น โดยตั้งเป้ายอดสินเชื่อลูกค้าองค์กรปี 2561 ที่ 2.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 30% และปริมาณธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศที่ 1.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 40%
สิ่งที่น่าจับตาคือธนาคารกสิกรไทยสาขาเซี่ยงไฮ้นั้นตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีปริมาณการทำธุรกรรมกับภูมิภาคอาเซียน รวมถึงประเทศไทยสูงถึง 21% ของการค้าจีนกับอาเซียนทั้งหมด สาขานี้จะรองรับลูกค้าจากมณฑลเจ้อเจียง เจียงซู และซานตงด้วย จึงถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญอย่างยิ่ง
สำหรับสัดส่วนของกลุ่มลูกค้านั้น ธนาคารกสิกรไทยชี้แจงว่าจะเป็นลูกค้าชาวจีน 60% ลูกค้าชาวไทย 30% และลูกค้ากลุ่มอื่น เช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นอีก 10% โดยที่จะสนับสนุนธุรกิจทั้งจากนักลงทุนจีนไปที่ประเทศไทย ดึงนักลงทุนไทยมาสร้างโอกาสธุรกิจที่ประเทศจีน และธนาคารจะให้บริการเรื่องการจับคู่ธุรกิจด้วย
ขณะนี้มีลูกค้าองค์กรแล้วกว่าร้อยราย ซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจยางพารา แปรรูปอาหาร และธุรกิจพลังงาน ส่วนลูกค้ารายย่อยนั้นยังอยู่ระหว่างแผนการพัฒนาตลาด ซึ่งต้องใช้เวลาและขอใบอนุญาตเพิ่มเติมด้วย คาดว่าจะเดินหน้ารุกรายย่อยอีก 2 ปีข้างหน้านี้
