×

เมื่อ ‘คน’ สำคัญกว่าเทคโนโลยี และ ‘ความเท่าเทียม’ ต้องพิสูจน์ด้วยผลงาน ถอดรหัสวิสัยทัศน์ ‘กานติมา เลอเลิศยุติธรรม’ ผู้พา AIS คว้ารางวัลระดับโลก Stevie Awards 2025 [ADVERTORIAL]

12.12.2025
  • LOADING...
kantima-ais-stevie-awards-first-thai-woman

HIGHLIGHTS

  • AIS ประกาศศักยภาพผู้นำไทยบนเวทีโลก ภายใต้วิสัยทัศน์ของ กานติมา เลอเลิศยุติธรรม ที่คว้ารางวัล Stevie Awards 2025 สาขา Female Thought Leader พิสูจน์มาตรฐานการบริหาร “คน” ของไทยทัดเทียมสากล โดยเชื่อมั่นว่าทรัพยากรมนุษย์คือรากฐานที่เหนือกว่าเทคโนโลยีใดๆ
  • ขับเคลื่อนองค์กรฝ่าคลื่นดิสรัปชันด้วยกลยุทธ์ ‘50:50’ ที่ผสานการสนับสนุนจากองค์กรเข้ากับความรับผิดชอบของพนักงาน พร้อมปั้น Digital Talent ผ่าน AIS Academy และปลูกฝังวัฒนธรรม ‘รู้จักล้ม’ เพื่อสร้างคนให้เป็นนวัตกรที่พร้อมปรับตัวและก้าวล้ำหน้า AI
  • สร้างนิยามใหม่ของความเท่าเทียมผ่านวัฒนธรรม ‘FIT FUN FAIR’ ที่มองข้ามเรื่องเพศหรือร่างกาย แต่วัดกันที่ความสามารถ (Competency) อย่างแท้จริง โดยไม่ใช้ระบบโควต้า พร้อมเปิดโอกาสให้กลุ่มเปราะบางและผู้พิการเข้าทำงาน เพื่อคืนศักดิ์ศรีและสร้างรายได้ที่มั่นคง
  • มุ่งสู่ความยั่งยืนด้วยพันธกิจ ‘การตอบแทนคุณแผ่นดิน’ ที่เชื่อว่าธุรกิจจะอยู่ไม่ได้หากสังคมไม่เข้มแข็ง ผ่านโครงการ ‘ภารกิจคิดเผื่อ’ และ ‘อุ่นใจอาสา’ ที่นำเทคโนโลยีไปยกระดับการศึกษาและคุณภาพชีวิตคนไทย ตอกย้ำการเป็นองค์กรที่เติบโตเคียงคู่สังคมอย่างแท้จริง

ในโลกธุรกิจยุคดิจิทัลดิสรัปชันที่ทุกอย่างหมุนเร็วด้วยเทคโนโลยี หลายองค์กรมักหลงลืมรากฐานที่สำคัญที่สุดไป นั่นคือ ‘มนุษย์’ แต่สำหรับองค์กรโทรคมนาคมเบอร์หนึ่งของไทยอย่าง AIS กลับเลือกเดินในเส้นทางที่ต่างออกไป ด้วยการวางยุทธศาสตร์ที่เชื่อมั่นในศักยภาพของคน เหนือกว่าอัลกอริทึมใดๆ

 

ล่าสุดเวทีระดับโลกอย่าง The Stevie Awards for Women in Business 2025 ได้ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ และหนึ่งในนั้นคือ ‘กานติมา เลอเลิศยุติธรรม’ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ที่สามารถคว้ารางวัล Female Thought Leader of the Year – Business Services มาครองได้สำเร็จ

 

นี่คือก้าวย่างสำคัญ เพราะกานติมาคือผู้บริหารหญิงไทยคนแรกในวงการโทรคมนาคมที่ก้าวไปยืนในจุดนั้น สะท้อนให้เห็นว่ามาตรฐานการบริหารคนขององค์กรไทย มีความแข็งแกร่งและทัดเทียมกับมาตรฐานสากล ซึ่งความสำเร็จนี้เกิดจากการวางแผนและลงมือทำอย่างเข้มข้น

 

กานติมา เลอเลิศยุติธรรม ผู้บริหาร AIS

 

เพื่อให้เห็นภาพความสำคัญของรางวัลนี้ ต้องย้อนกลับไปทำความรู้จักกับ Stevie Awards for Women in Business ซึ่งถือเป็นเวทีออสการ์แห่งโลกธุรกิจ ที่ให้เกียรติและยกย่องความสำเร็จของผู้บริหารหญิงและองค์กรชั้นนำจากทั่วโลก โดยการจัดงานในปี 2025 นี้นับเป็นครั้งที่ 22 แล้ว ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

ความขลังของเวทีนี้อยู่ที่กระบวนการตัดสินที่เข้มข้น โดยผู้ได้รับรางวัลจะต้องผ่านการคัดเลือกจากคะแนนเฉลี่ยของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกว่า 190 คน ที่ร่วมพิจารณาผลงานอย่างรอบคอบตลอดกระบวนการ เพื่อเฟ้นหาผู้ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในแวดวงธุรกิจได้อย่างแท้จริง

 

“รู้สึกดีใจที่ได้รับรางวัลนี้ เพราะมันไม่ใช่รางวัลสำหรับส่วนตัว แต่เป็นรางวัลสำหรับงานที่องค์กรได้ทำ การผ่านด่านกรรมการทำให้รู้สึกภูมิใจว่า ประเทศไทยไม่ได้น้อยหน้าประเทศอื่นๆ ในวันที่ไปรับรางวัล เราเห็นหลายชาติได้รับรางวัล และรู้สึกดีใจที่ชื่อประเทศไทยปรากฏอยู่ในประกาศ”

 

จาก 50:50 สู่ ‘รู้จักล้ม’ สมการปั้นคนให้เหนือกว่า AI

 

เมื่อเทคโนโลยีถูกพัฒนาให้ฉลาดขึ้นทุกวัน คนทำงานย่อมเกิดคำถามถึงความมั่นคงในอาชีพ ทว่าภายใต้วิสัยทัศน์ของกานติมากลับมองเห็นต่างออกไป โดยมองว่าเทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือที่เข้ามาช่วยทุ่นแรง แต่ ‘คน’ คือศิลปะที่มีชีวิต มีประสบการณ์ และมีความสามารถในการพลิกแพลงที่เครื่องจักรเลียนแบบไม่ได้

 

สิ่งสำคัญคือการที่คนทำงานต้องไม่หยุดนิ่งและพร้อมที่จะอัปเกรดตัวเองอยู่เสมอ ‘กลยุทธ์ 50:50’ จึงถูกนำมาใช้เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนคน โดยองค์กรรับหน้าที่สนับสนุนองค์ความรู้และเทคโนโลยี 50% ส่วนอีก 50% พนักงานต้องลุกขึ้นมารับผิดชอบอนาคตของตัวเอง องค์กรยุคใหม่ไม่เชื่อในระบบอุปถัมภ์ที่ทำให้คนอ่อนแอ แต่เชื่อในการสร้างพื้นที่ให้คนเก่งได้ฉายแสง

 

ภารกิจนี้ถูกขับเคลื่อนผ่าน AIS Academy ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการพัฒนาคนทั้งในและนอกองค์กร โดยมุ่งเน้นการสร้าง Digital Talent ผ่านการยกระดับทักษะ (Upskill–Reskill) ด้วยหลักสูตรชั้นนำระดับโลกบนแพลตฟอร์มดิจิทัล เปิดโอกาสให้พนักงานเข้าถึงความรู้ได้อย่างเท่าเทียม ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่มีข้อจำกัด

 

“เราเชื่อว่า คนคือทรัพยากรที่มีมูลค่าสูงที่สุด หากคนล้าสมัยองค์กรจะแย่ เนื่องจากขาดประสบการณ์ เทคโนโลยีมีสิ่งใหม่มาแทนได้ แต่คนมีความเป็นศิลปะ มีทั้งประสบการณ์และความสามารถในการเดินต่อไป เราไม่เชื่อเรื่องชะตากรรม แต่เราเชื่อเรื่องที่คนจะลุกขึ้นมากำหนดชะตาของตัวเอง”

 

กานติมา เลอเลิศยุติธรรม ผู้บริหาร AIS

 

นอกจากความรู้แล้ว Mindset เรื่องการรับมือกับความผิดพลาดก็เป็นเรื่องใหญ่ วัฒนธรรมที่ AIS ปลูกฝังคือ ‘รู้จักล้ม’ ซึ่งเป็นการสื่อสารที่ทรงพลังว่า พนักงานสามารถล้มได้หากกำลังทดลองสิ่งใหม่ๆ เพื่อสร้างนวัตกรรม แต่ต้องไม่ล้มซ้ำในเรื่องเดิม และเมื่อล้มแล้วต้องรีบลุกเพื่อเรียนรู้จากแผลนั้น

 

จากนั้นจึงผันตัวเองมาเป็น Change Agent เพื่อแบ่งปันบทเรียนไม่ให้เพื่อนร่วมงานต้องผิดซ้ำรอยเดิม วิธีคิดเช่นนี้ทำให้องค์กรเกิดความยืดหยุ่น กล้าที่จะเสี่ยง และพร้อมปรับตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว

 

‘FIT FUN FAIR’ นิยามความหลากหลายที่ไร้ขีดจำกัด

 

“ส่วนตัวแล้ว ไม่ค่อยชอบการแบ่งแยกเพศ และไม่ชอบพูดว่าผู้หญิงต้องได้รับอะไรพิเศษ เพราะมีความเชื่อเสมอว่า หากอยากจะเท่าเทียมกับผู้อื่น ก็ต้องทำเหมือนกัน ไม่ว่าจะเพศไหน”

 

วิธีคิดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า คำว่า ‘ความเท่าเทียม’ ในมุมมองของ AIS ไม่ใช่การกำหนดโควต้าตัวเลขว่าต้องมีผู้หญิงกี่คน หรือผู้ชายกี่คน เพื่อให้ดูสวยหรู แต่คือการเปิดกว้างทางโอกาสที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ภายใต้วัฒนธรรมองค์กรที่ชื่อว่า FIT FUN FAIR โดยมีคำว่า FAIR เป็นหัวใจหลักในการยอมรับความแตกต่างในทุกมิติ

 

การบริหารความหลากหลาย คือการมองเห็นความสวยงามของความแตกต่าง หากทุกคนในองค์กรคิดเหมือนกันหมด นวัตกรรมใหม่ๆ คงไม่เกิด AIS จึงผลักดันนโยบายที่จับต้องได้จริง เช่น การสนับสนุนสมรสเท่าเทียม การมอบสวัสดิการแต่งงานสำหรับทุกเพศ หรือแม้แต่สิทธิการลากิจเพื่อการผ่าตัดเปลี่ยนเพศสภาพ

 

กานติมา เลอเลิศยุติธรรม ผู้บริหาร AIS

 

ยิ่งไปกว่านั้น การให้โอกาสยังขยายไปถึงกลุ่มผู้เปราะบาง ด้วยการจ้างงานผู้พิการเข้ามาเป็นพนักงานในส่วนงาน AIS Contact Center โดยมีการนำเทคโนโลยีและเครื่องมืออัจฉริยะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก ทำให้พนักงานกลุ่มนี้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับพนักงานทั่วไป

 

สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ข้อจำกัดทางร่างกายไม่ใช่อุปสรรคของการทำงาน หากองค์กรมีความเข้าใจและพร้อมสนับสนุน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช่แค่เนื้องาน แต่คือการมอบรายได้ที่มั่นคงและการคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้กับพวกเขา ให้สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างภาคภูมิ

 

“ความหลากหลายของ AIS คือการที่ทุกคนได้รับการปฏิบัติและโอกาสที่เท่ากัน สิ่งเดียวที่ตัดสินคือตัวพนักงานเองว่าจะพิสูจน์ความสามารถได้อย่างไร เราไม่ใช้วิธีการกำหนดโควต้าสำหรับผู้หญิงเพื่อสร้างความเท่าเทียม เพราะเชื่อว่าผู้หญิงจะภูมิใจที่ได้ตำแหน่งจากความสามารถ ไม่ใช่จากโควต้าที่เหลืออยู่”

 

เติบโตเคียงคู่สังคม จาก ‘ภารกิจคิดเผื่อ’ สู่ความยั่งยืน

 

รางวัลระดับโลกที่ได้รับ ไม่ใช่แค่เครื่องการันตีความสำเร็จทางธุรกิจ แต่เป็นเครื่องยืนยันถึงพันธกิจ ‘การตอบแทนคุณแผ่นดิน’ ที่องค์กรยึดถือ การเติบโตของบริษัทต้องเดินหน้าไปพร้อมกับความแข็งแรงของสังคม เพราะหากสังคมอยู่ไม่ได้ ธุรกิจก็ไม่อาจไปรอด แนวคิด ‘ภารกิจคิดเผื่อ’ จึงถูกนำมาใช้เพื่อลดช่องว่างทางสังคม

 

โครงการที่เห็นภาพชัดเจนคือการต่อยอดองค์ความรู้จากภายในสู่ภายนอก ผ่านโครงการ Academy for Thais เวทีที่คัดสรรองค์ความรู้ระดับโลกมาแบ่งปันให้กับคนไทย ควบคู่ไปกับการสร้างห้องสมุดดิจิทัล AIS ReadDi เพื่อเปิดทางให้ผู้ขาดโอกาสสามารถเข้าถึงหนังสือและสื่อการเรียนรู้ได้อย่างทั่วถึง เป็นการปิดช่องว่างทางการศึกษาอย่างยั่งยืน

 

กานติมา เลอเลิศยุติธรรม ผู้บริหาร AIS

 

นอกจากนี้ ยังมีการผนึกกำลังกับภาครัฐอย่าง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อขับเคลื่อนสังคมภายใต้แนวคิด ‘เปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง’ โดยมองว่ากลุ่มเปราะบางไม่ใช่ภาระของสังคม แต่เป็นพลังที่สามารถพัฒนาได้หากได้รับโอกาสที่เหมาะสม

 

รูปธรรมที่เกิดขึ้นคือโครงการ อุ่นใจอาสาพัฒนาอาชีพ ที่พนักงาน AIS ลงพื้นที่ถ่ายทอดทักษะดิจิทัลเพื่อสร้างอาชีพ หรือโครงการ JUMP THAILAND HACKATHON ที่เปิดเวทีให้คนรุ่นใหม่มาระดมสมองพัฒนาเทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและผู้พิการ นำไปสู่โอกาสการทำงานและรายได้ที่มั่นคง

 

สิ่งเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่า การได้รับรางวัล Female Thought Leader of the Year ในครั้งนี้ ไม่ได้มาจากความสำเร็จเพียงชั่วข้ามคืน แต่เกิดจากการสั่งสมความมุ่งมั่นที่จะยกระดับ ‘คน’ และสร้าง ‘ความเท่าเทียม’ ให้เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย

 

กานติมา กล่าวทิ้งท้ายถึงเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อตอบแทนสังคมไว้ว่า “ส่วนตัวเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการสร้างแบรนด์ที่ดีกว่าการให้แล้วจบไป เพราะเราจะเติบโตไม่ได้หากสังคมไม่เข้มแข็ง แม้หลายสิ่งทำไปแล้วอาจไม่เห็นผลตอบแทนเชิงพาณิชย์ แต่ตอบแทนในแง่ของสังคมที่แข็งแรงขึ้น”

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising