×

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ เปิดภาพวงจรปิดบ้านกำนันนก ชี้พยานหลักฐานมัดตัว เผยไม่พบนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ช่วยผู้บาดเจ็บ เตรียมพิจารณาเอาผิด ม.157

โดย THE STANDARD TEAM
16.09.2023
  • LOADING...

วานนี้ (15 กันยายน) เวลา 21.40 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางมาดูกล้องวงจรอีก 2 ตัวจาก 15 ตัว ภายในบ้านของ ประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก วินาทีเกิดเหตุการณ์ที่ ‘หน่อง’ ผู้ใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต. ศิวกร สายบัว จนเสียชีวิตระหว่างงานเลี้ยงภายในบ้าน โดยใช้เวลาดูประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาแถลงต่อสื่อมวลชน

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวว่า ได้เปิดภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดให้ดู โดยภาพแรกเป็นภาพขณะที่ตำรวจ 3 นายคือ ด.ต. สราวุธ, ด.ต. ชนาณัฐ และ พ.ต.ต. ณรงค์ อุ้มร่างสารวัตรศิว หลังถูกยิงบาดเจ็บขึ้นรถ โดยมีพลขับวิ่งไปนำรถเก๋งแล้วพาตัวสารวัตรศิวนั่งเบาะหน้าข้างคนขับ ส่วนตำรวจอีกคนนั่งเบาะหลังแล้วคอยเอามืออุดบาดแผลจากรอยกระสุน แล้วพลขับก็พาไปโรงพยาบาล จากนั้นเป็นภาพหลังจากสารวัตรวศินถูกยิง จากนั้น สารวัตรอำนวยการไปช่วยสารวัตรวศินที่ล้มอยู่ แล้วมีตำรวจอีก 4 นายคือ ด.ต. สราวุธ, พ.ต.ต. ณรงค์, ร.ต.ท. จตุรวิทย์ และ พ.ต.ท. ภทร ไปช่วยพาขึ้นรถกระบะ รวมทั้งมีผู้กำกับเบิ้มอยู่ด้วย

 

ส่วนอีกภาพ เป็นช่วงก่อนเกิดเหตุเวลา 20.00 น. หน่องอยู่ในงาน ในกระเป๋ากางเกงมีปืนที่ใช้ก่อเหตุ และอีกภาพเวลาประมาณ 19.40 น. เด้ง ญาติของกำนันนก กับ ต๋อง เดินเข้ามาในงาน และมีภาพส่งปืนให้เด้งเข้าไปในงานด้วย หลังมือปืนลั่นไก เด้งชักปืนออกมา ลักษณะปกป้องกำนัน จากนั้นก็เป็นภาพ 1 ใน 6 ตำรวจที่ถูกจับในชุดแรก ถอดเสื้อ โดยมีปืนเหน็บไว้ที่เอว หลังอ้างว่าไม่มีปืน อีกคนก็มีปืนพกไว้ที่เอวเช่นเดียวกัน

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวว่า ภาพแรกสิ่งที่สังคมสงสัย ตำรวจคนให้การเท็จจะเห็นว่าคนช่วยเหลือผู้บาดเจ็บมีแค่นี้เอง ที่ให้การว่าช่วยก็ไม่ได้ช่วย คำให้การขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ส่วนการดำเนินคดีจะร่วมกันพิจารณาแจ้งข้อหาให้การเท็จ ว่ามีตำรวจคนใดบ้างที่ต้องถูกแจ้งข้อหานี้

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า วันนี้ดำเนินคดีเด้งกับต๋องในกรณีพกปืน ต๋องเอาปืนมาให้เด้ง โดนแจ้งข้อหาไปแล้วทั้งคู่ และวันนี้ได้ดูกล้องทั้งหมด สิ่งที่สังคมคาใจใครช่วย-ไม่ช่วยบ้าง ตำรวจในงานส่วนใหญ่มีปืน แต่ไม่ช่วย ทั้งที่เป็นเหตุซึ่งหน้า ซึ่งเตรียมดำเนินคดี หลังเกิดเหตุแล้วตำรวจกลับไปช่วยผู้กระทำผิด แทนที่จะอยู่ข้างตำรวจช่วยตำรวจ กลับไปช่วยผู้กระทำผิด ส่วนนายตำรวจระดับสูงเผ่นแล้วบอกว่าไปช่วย แต่ก็ไม่ได้ช่วยเลย แบบนี้ย่ำแย่มาก ซึ่งจะดำเนินคดีทั้งอาญาและวินัย 

 

ส่วนกล้อง 2 กล้องที่สับสนกันตั้งแต่เช้า เพิ่งได้ข้อเท็จจริง ที่กู้ได้ 100% มีแค่ 13 ตัว ส่วนกล้องอีก 2 ตัว โดยตัวแรก กล้องไม่ได้ใช้งานตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม อีกตัวเวลาเดินมาที่ 10.16 น. วันเกิดเหตุ และไม่มีภาพหลังจากนี้ สรุปแล้วไม่มีการดึงปลั๊ก ไม่มีการถอดสาย หลังถอดบอร์ดออกตรวจสอบสรุปแล้ว กำนันนกไปกดสวิตช์ปิดตอนเวลา 10.16 น. เหตุเพราะอาจมีคนมาเตือน ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาจัดสถานที่งานเลี้ยง คาดว่ามีคนไปเตือนเรื่องการจัดงาน กล้องต้องไม่ให้เห็นว่ามีใครมานั่งบ้าง จึงไปปิดกล้องเลยไม่มีการบันทึกภาพตั้งแต่นั้นมา 

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า เหตุการณ์การยิงในงานวันนั้นคงไม่มีใครคิดว่าจะรุนแรงแบบนี้ หลังทะเลาะกันกำนันไปคุยกับหน่อง มีพยานหลักฐานชัดเจนว่ากำนันสั่งยิง หลังยิงแล้วลูกน้องกำนันยืนคุมเชิงทุกจุด แต่ตำรวจต่างคนต่างออก ต่างคนต่างทิ้งหน้าที่ ตำรวจบางส่วนเห็นความผิดซึ่งหน้าแต่ไม่จับกุม อันนี้มีความผิดชัดเจน

 

เดิมทีที่สอบปากคำตำรวจในงานบอกว่า ไปส่งคนเจ็บที่โรงพยาบาลเป็น 10 คน แต่ความจริงแล้วมีแค่ 5 คนเท่านั้น ตามภาพวงจรปิดที่ปรากฏ เป็นสิ่งบ่งบอกว่านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ไม่มีใครไปช่วยเลย ต่างคนต่างเอาตัวรอด ส่วนจะแจ้งข้อหาใครบ้างพรุ่งนี้พิจารณากัน พยานหลักฐานมัดกำนันนก ตอนนี้มันจบแล้ว หลังจากนี้จะไล่ขยายผลต่อ ความร่ำรวยผิดปกติ เส้นทางการเงินมาจากไหน ต้องตอบให้ได้ และเรื่องธุรกิจ การประมูลงานต่างๆ ทั้ง 1,500 โครงการ มันยิ่งกว่าผิดปกติ ต้องตรวจสอบ ถ้าผิดต้องถูกดำเนินการฟอกเงินยึดทรัพย์ รวมถึงดำเนินการเรื่องภาษี

 

การปิดกล้องต้องตั้งใจปิด คงไม่ได้คิดจะสังหารในตอนนั้น แค่ไม่อยากให้เห็นว่ามีใครบ้างในงาน คาดว่ามีคนเตือน ซึ่งสารวัตรศิวกรเข้ามาในงานได้แป๊บเดียวก็มีการยิงเกิดขึ้น ในงานลูกน้องกำนันมีปืนหมด ตำรวจก็มีปืน ส่วนหน่องก็พกปืนตลอด สรุปเป็นความฮึกเหิม เป็นความคึกคะนอง ในงานต๋องส่งปืนให้เด้ง ซึ่งก็รู้แน่ว่าถ้ามีเรื่องต้องมีการใช้อาวุธ คนในงานรู้ว่าลูกพี่มีปัญหากับสารวัตรคนนี้ ถ้ามีปัญหาก็ต้องยิงกัน จึงตระเตรียมไว้ก่อน วงจรปิดมีมากกว่านี้ ก่อนยิงมีการเคลียร์กัน มีการเอาคนแก่ออกจากงานไปก่อน เปิดทางให้รถเตรียมออก จากนั้นกำนันนกออกมาคุยกับหน่อง และกำนันนกส่งสัญญาณให้ยิง 

 

มูลเหตุสำคัญ 1. การขอลูกน้องให้มาทำหน้าที่ จยย.สายตรวจ 2. มีปัญหาเรื้อรัง สารวัตรศิวกรเข้ามาปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ทำให้รถบรรทุกน้ำหนักเกินวิ่งไม่ได้ ทำให้กำไรน้อยลง เป็นมูลเหตุให้มีการลุแก่อำนาจ ใช้ปืนสั่งยิง มูลเหตุมาจากเรื่องนี้ 

 

ส่วนปัญหาเรื่องการดวลเหล้านั้น มีการดวลเหล้ากันระหว่างสารวัตรศิวกรกับกำนันนก เรื่องดวลเหล้านั้นเป็นแค่ส่วนเดียว เรื่องหลักเป็นเรื่องการไม่พอใจสารวัตรคนนี้อยู่แล้ว เรื่องทำให้รถเขาวิ่งลำบาก และเรื่องย้ายลูกน้อง รวมถึงการดวลเหล้า ซึ่งสารวัตรศิวกรไปบ้านนี้ครั้งแรก ผู้กำกับเบิ้มชวนไปเพื่อให้รู้จักมักคุ้นกับกำนัน เพราะตัวเองก็สนิทอยู่แล้ว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

...
X
...
Close Advertising