วันนี้ (18 กุมภาพันธ์) จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และแกนนำพรรค ร่วมกันเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร (กทม.)
จุรินทร์กล่าวว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีการพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ แต่มีบางพรรคคิดว่าไม่ควรจะให้สภาเปิด กังวลการอภิปรายและการตรวจสอบ แต่สำหรับประชาธิปัตย์ ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล แต่ไม่เคยกลัวการตรวจสอบ เราจึงเป็นพรรคการเมืองที่ยืนหยัดมั่นคงชัดเจนว่า เราสนับสนุนให้มีการพิจารณาญัตติเปิดอภิปราย เพราะนี่คือวิถีประชาธิปไตยรัฐสภา ที่ประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อไป และนี่คือวิถีประชาธิปัตย์ของเรา
“ไม่ว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะมีท่าที พฤติกรรมในการทำหน้าที่อย่างไรก็ตาม ผมมั่นใจว่าประเทศของเราจะต้องเดินหน้าต่อไปด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามวิถีทางรัฐสภา 4 ปีที่ผ่านมา และอดีตอันยาวนาน เราพิสูจน์แล้วว่าประชาธิปัตย์คือผู้นำในระบอบประชาธิปไตยรัฐสภาของประเทศไทย จึงมีนโยบายเพื่อแก้รัฐธรรมนูญให้ไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
จุรินทร์กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ถือเป็นอีกกิจกรรมสำคัญที่เป็นความคืบหน้าของการเดินหน้ารับใช้ชาวกรุงเทพฯ ของพรรค ก็คือการเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งที่เขตบางซื่อ พร้อมกับถือโอกาสเปิดตัว 3 นักบินที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในนามพรรค
- ภูเบศร์ อภัยวงศ์ (กัปตันเบศร์) ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กทม. เขตบางซื่อ
- วัทธิกร หรุ่นศิริ (กัปตันแพท) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตสายไหม
- พันธ์พิสุทธิ์ นุราช (กัปตันไมเคิล) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบึงกุ่ม
“ทั้ง 3 คนถือว่าเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการเป็นตัวแทนพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครที่เป็นคนรุ่นใหม่ โดยหวังว่าจะได้รับเสียงตอบรับจากพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ขอถือโอกาสนี้ฝากพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ทั้ง 3 เขต ทั้งเขตบางซื่อ เขตสายไหม และเขตบึงกุ่ม ขอความกรุณาให้โอกาสนักบินรุ่นใหม่ทั้ง 3 คน และให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้เราได้มีโอกาสคัมแบ็ก มาทำหน้าที่รับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ เหมือนที่เราเคยมีโอกาสหลายครั้งในการเลือกตั้งที่ผ่านในอดีต” จุรินทร์กล่าว
จุรินทร์กล่าวต่อไปว่า ถัดจากนี้ก็เข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัวแล้ว เพราะนายกรัฐมนตรีก็พูดแล้วว่าจะยุบสภา เพียงแต่ยังนึกอยู่ว่าจะยุบวันไหน อย่างไร ซึ่งท่านก็บอกว่ามีในใจแล้ว และพวกเราก็พอทราบว่าสุดท้ายก็จะเดินหน้าเข้าสู่การยุบสภา ซึ่งถ้ายุบสภาก็ต้องเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน นับไปนับมาก็คงอยู่ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ส่วนวันที่เท่าไรก็น่าจะตรงกับวันอาทิตย์ เพราะเท่าที่เราเคยมีการเลือกตั้งมาก็จะเลือกตั้งวันอาทิตย์ แล้วก็มีการคาดการณ์กันว่าจะเป็นวันที่ 7 พฤษภาคม แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเป็นผู้กำหนดวันเลือกตั้ง ดังนั้นก็น่าจะเป็นไปตามนี้โดยประมาณ
“ถัดจากนี้การเมืองจะเข้มข้นขึ้น หมายถึงการแข่งขันกันระหว่างพรรคการเมืองก็จะเข้มข้นขึ้น ผมจะถือโอกาสนี้ฝากพี่น้องชาวกรุงเทพฯ และคนไทยทั้งประเทศ ให้พิจารณาเลือกพรรคการเมืองที่จะเป็นสถาบันหลักในทางการเมืองต่อไปได้ พาการเมืองเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืนได้ในอนาคต ไม่ใช่แค่การเมืองเฉพาะกิจ ส่วนใครจะเป็นรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านนั้น พี่น้องประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบว่า เมื่อหลังเลือกตั้งแล้ว ใครรวมเสียงข้างมากได้ พรรคไหนรวมกับพรรคไหน พรรคนั้นก็เป็นรัฐบาล เสียงข้างน้อยก็ไปเป็นฝ่ายค้าน แต่หัวใจสำคัญก็คือต้องยึดเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก” จุรินทร์กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหากดูจากตัวผู้สมัครที่พรรคเตรียมไว้ คาดว่าครั้งนี้จะได้ที่นั่งใน กทม. หรือไม่ จุรินทร์กล่าวว่า ตนมั่นใจ มั่นใจจากเสียงตอบรับในการเลือกผู้ว่าฯ กทม. กับสภากรุงเทพมหานครที่ผ่านมา และเสียงตอบรับจากการลงพื้นที่จริง ซึ่งทั้งตนและรองหัวหน้าพรรค รวมทั้งผู้สมัครทุกคน คนรุ่นใหม่ พวกเราทุกคนที่ลงพื้นที่ใน กทม. มีความมั่นใจ เพราะเราสัมผัสกับโลกของความเป็นจริงว่าเสียงตอบรับเป็นอย่างไร
