วันนี้ (19 เมษายน) ที่พรรคประชาธิปัตย์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค แถลงข่าวกรณีที่ปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีการเกี่ยวข้องกับคดีข่มขืนอนาจารหญิงสาวหลายรายว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตนเองเสียใจอย่างสุดซึ้ง และกราบขอโทษทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่เกี่ยวข้องกับปริญญ์
จุรินทร์ยังยอมรับว่า ตนเองมีส่วนสำคัญที่พาปริญญ์เข้ามาทำงานในพรรค แม้จะมีผู้ทักท้วง แต่ผ่านการตรวจสอบจนถึงการลงคะแนนให้ความเห็นชอบในที่ประชุมใหญ่แล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่ทราบล่วงหน้า และเมื่อเกิดในวาระที่ตนเองเป็นหัวหน้าพรรคจึงหนีไม่พ้นที่จะต้องแก้ปัญหาให้ดีที่สุด
“ผมรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง และต้องขอถือโอกาสนี้กราบขอโทษต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในกรณีที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรพรรคของประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคต้องขอเรียนว่าผมมีส่วนสำคัญในการนำคุณปริญญ์เข้าพรรค”
จุรินทร์ยังย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนชัดเจนที่ต่อต้านการคุกคามทางเพศ ที่ผ่านมาพรรคชัดเจนว่าต่อต้านความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และคนในครอบครัว รวมถึงการเลือกปฏิบัติต่อความต่างระหว่างเพศ พรรคไม่ปกป้อง และขอให้สบายใจว่าพรรคไม่แทรกแซงใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ยอมรับได้ของพี่น้องประชาชน รวมถึงไม่เพิกเฉยต่อสถานการณ์
จุรินทร์กล่าวว่า หลังจากนี้จะให้ รัชดา ธนาดิเรก เป็นประธานคณะตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่จะมาทำงานกับพรรคนอกเหนือจากคุณสมบัติ 21 ข้อ
จุรินทร์ยังย้ำว่าพรรคให้ความสำคัญกับระบบการคัดสรรคน ซึ่งหลังจากที่มีแชตเรื่องชู้สาวหลุดออกไปก็สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของพรรค จึงได้ตั้งคณะกรรมการมาสอบเรื่องนี้เพื่อหาตัวคนที่ปล่อยแชต
จุรินทร์ยังย้ำตลอดการให้สัมภาษณ์และตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่ไม่ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพราะไม่อยากจะทิ้งปัญหา เป็นความรับผิดชอบของหัวหน้าพรรคที่จะต้องแก้ไขเรื่องนี้ให้กระจ่าง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีคนกล่าวอ้างว่าผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์เคยทักท้วงและคัดค้านการนำปริญญ์มาทำงาน จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียหายเพราะมีพฤติกรรมเรื่องชู้สาว แต่จุรินทร์ไม่รับฟังและสั่งให้เคลียร์ประวัติของปริญญ์ก่อนมารับตำแหน่งนั้น จุรินทร์ไม่ขอตอบและจะไม่เอ่ยย้อนไปเรื่องก่อนหน้านี้แล้ว และยอมรับว่าคดีนี้สร้างความเสื่อมเสียและเสียหายกับพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างมาก วันนี้จึงตัดสินใจมาแถลงขอโทษและยอมรับ ขณะเดียวกันเรื่องนี้อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการเลือกตั้งในวันข้างหน้า แต่ก็จะพยายามกู้ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของพรรคประชาธิปัตย์มาให้ดีที่สุด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องนี้ส่งผลต่อการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคทำให้เก้าอี้สั่นคลอนหรือไม่ จุรินทร์ก็ตอบเหมือนเดิมว่าไม่ขอย้อนกลับไปตอบเรื่องที่มันเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นแล้ว
ขณะเดียวกัน จุรินทร์ยังขอลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการส่งเสริมการเท่าเทียมระหว่างเพศ และประธานคณะกรรมการระดับชาติส่งเสริมสถานภาพสตรี ขณะที่วันนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีก็จะแจ้งให้กับพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้รับทราบด้วย