ที่ชั้น 4 โซน D ศูนย์การค้าเอ็มบีเคเซ็นเตอร์ หรือที่เราเรียกกันอย่างคุ้นชินว่ามาบุญครอง ถูกดัดแปลงพื้นที่ส่วนหนึ่งให้เป็นตลาดขายของสำหรับพี่น้องสื่อมวลชนไทยจากทุกโต๊ะข่าวในชื่องาน ‘คนข่าวมาขายของ’ ซึ่งถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 เปิดให้ขายและช้อปกันตั้งแต่วันที่ 11-13 กันยายนนี้ เพียง 3 วันเท่านั้น
งานคนข่าวมาขายของอาจเป็นดัชนีบ่งชี้ถึงทิศทางและอนาคตของวิชาชีพที่เรียกว่า ‘สื่อมวลชน’ และในทัศนะผู้เขียนซึ่งประกอบอาชีพนี้เช่นเดียวกัน งานนี้เหมือนกำลังส่งเสียงบอกสาธารณชนว่าพี่น้องสื่อมวลชนด้วยกันกำลังมีความเดือดร้อนจากพิษภัยอย่างใดอย่างหนึ่งต่อวิชาชีพนี้
พี่น้องสื่อมวลชนหลายคนต้องออกจากงาน ไม่ใช่เพราะต้องการละทิ้งจากวิชาชีพที่เขารัก แต่เป็นเพราะสาเหตุที่รุมเร้าต่อธุรกิจสื่อที่พวกเขาสังกัด ไม่ว่าจะเป็นกรณีการเกิดขึ้นของทีวีดิจิทัลจำนวนมากจนเกิดการแข่งขันและการลงทุนที่ไม่คุ้มต่อเม็ดเงินที่ประมูลคลื่น ทำให้ทีวีดิจิทัลรวม 7 ช่องตัดสินใจคืนใบอนุญาตต่อ กสทช. หรือการลดจำนวนพนักงานในสายงานสื่ออย่างหนังสือพิมพ์ สื่อสิ่งพิมพ์ ที่ตัดสินใจลาแท่นพิมพ์ปิดตัวลงถาวร เลิกผลิตด้วยกระดาษแล้วขยับไปสู่โลกออนไลน์
หลายคนไม่ทราบล่วงหน้าว่าตนเองจะถูกให้ออกจากงาน แต่ทว่าทุกชีวิตล้วนมีปากท้องและครอบครัวที่ยังเป็นภาระใหญ่ให้ต้องหารายได้มาดูแลครอบครัว
ข้อมูลของสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทยระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2562 จนถึงปัจจุบัน มีบุคลากรในอุตสาหกรรมสื่อสารมวลชนในตำแหน่งต่างๆ จากทุกสังกัดประเภทสื่อต้องตกงานรวมมากกว่า 800 คน และยังมีโอกาสที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นได้อีก
ของส่วนหนึ่งที่คนข่าวนำมาขายวันนี้มีตั้งแต่ของสุดหวงที่สะสมมานานในวิชาชีพสื่อ หรือสินค้าประเภทอาหารที่พี่น้องสื่อมวลชนหลายคนมีเสน่ห์ปลายจวัก รักในการเข้าครัว แต่สุดท้ายกลายเป็นสิ่งที่ต้องปรุงเพื่อหาเลี้ยงชีพ หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่นำมาขายเหมือนการเปิดท้ายขายของที่เราเคยเห็นกันทั่วไปตามตลาดนัดต่างๆ
งานวันนี้มีเป้าหมายเพื่อบรรรเทาทุกข์พี่น้องสื่อ อย่างน้อยให้สามารถมีกำลังใจ เห็นช่องทางในการเดินหน้าต่อ แต่ก็มีนัยที่กำลังบอกเราว่าวิชาชีพนี้ถูกท้าทายต่อความมั่นคงอย่างหนัก และเป็นการเปิดเปลือยให้เห็นถึงทุนที่จัดการกับคนในองค์กรไปพร้อมกันด้วย
THE STANDARD ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องสื่อมวลชนในการดำเนินชีวิตต่อไป วันที่ฟ้าสดใสจะต้องมาถึงในเร็ววันนี้แน่นอน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
