โฆเซ อันโตนิโอ คาสต์ (José Antonio Kast) นักการเมืองฝ่ายขวาจัด ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีชิลี หลังได้รับคะแนนเสียงเกือบ 60% จากประชาชน ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 35 ปีที่ชิลีได้ผู้นำฝ่ายขวาจัด นับตั้งแต่สิ้นสุดยุคเผด็จการของ ออกุสโต ปิโนเชต์
วันนี้ (15 ธันวาคม) คาสต์ อดีตสมาชิกรัฐสภาฝ่ายขวาจัดวัย 59 ปี ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศ โดยเอาชนะ เฌอแน็ตต์ ฆารา (Jeannette Jara) อดีตรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานในรัฐบาล กาเบรียล โบริช ประธานาธิบดีชิลีสายซ้าย-กลาง ด้วยคะแนนเสียงอยู่ที่ 58.17% ต่อ 41.83% หากแต่ไม่ได้ครองคะแนนเสียงข้างมากในรัฐสภา ทั้งในระดับสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
ชื่อเสียงของคาสต์เป็นที่รู้จักในนามกลุ่มขวาจัด โดยบิดาของเขาเคยเป็นอดีตสมาชิกพรรคนาซี ส่วนพี่ชายเคยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลปิโนเชต์ ผู้นำเผด็จการที่ปกครองประเทศยาวนานถึง 17 ปี ขณะที่คาสต์มีนโยบายอนุรักษนิยม เช่น ต่อต้านการทำแท้ง สมรสเท่าเทียม อีกทั้งยังเคยแสดงความชื่นชมปิโนเชต์ออกสื่อ
ทั้งนี้ โบริชได้แสดงความยินดีกับคาสต์ที่ชนะการเลือกตั้ง และวางแผนพบเขาเพื่อเริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจที่ทำเนียบประธานาธิบดีในเช้าวันนี้ ซึ่งคาสต์จะเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 มีนาคม 2026
ชัยชนะของคาสต์เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสขวาจัดในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา เช่น อาร์เจนตินา เอกวาดอร์ คอสตาริกา และเอลซัลวาดอร์ โดยเขาได้หยิบยกประเด็นความมั่นคง อาชญากรรม และผู้อพยพ เป็นเรื่องหลักในการหาเสียง พร้อมให้สัญญาณว่า จะใช้นโยบายแบบ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา สร้างความสงบให้กับประเทศ เช่น ขับไล่ผู้อพยพผิดกฎหมาย สร้างกำแพงชายแดน สร้างเรือนจำใหม่ 5 แห่ง รวมถึงมีนโยบายเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมใหม่ เช่น ลดบทบาทรัฐ หรือตัดงบประมาณ
การเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้ชิลีได้ผู้นำขวาจัดในรอบ 35 ปี ตั้งแต่ปิโนเชต์ครองอำนาจในช่วงทศวรรษที่ 1970-1990 โดยผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์หนึ่งในสาเหตุสำคัญ คือ การใช้ระบบบังคับให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในรอบหลายทศวรรษ
ที่ผ่านมา ชิลีมีตัวเลขผู้ใช้สิทธิราว 15 ล้านคน หรือคิดเป็นจำนวนประชากร 1 ใน 3 ของประเทศ โดย คลอเดีย ไฮส์ (Claudia Heiss) นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชิลีอธิบายว่า มีผู้ใช้สิทธิหน้าใหม่ราว 5 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ ‘ไม่เชื่อมั่น’ ในการเมือง อีกทั้งยังถูกดึงดูดด้วยการหาเสียงในลักษณะประชานิยมฝ่ายขวา
จากการสัมภาษณ์ของสื่อ ผู้ลงคะแนนเสียงบางส่วนคิดเห็นว่า ไม่รู้จะเลือกใคร แต่คิดว่า ชิลีต้องการเปลี่ยนแปลง ทำให้เลือกคาสต์ที่เป็นตัวเลือกที่แปลกใหม่ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับของผู้สมัครคนอื่นๆ อย่าง ฟรังโก ปารีซี (Franco Parisi) แคนดิเดตนักเศรษฐกิจวัย 58 ปี ที่ได้คะแนนนำเป็นอันดับ 3 เพราะวางตัวเป็น ‘คนนอกระบบ’ ไม่ใช่ทั้งฟาสซิสต์และคอมมิวนิสต์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่า เขาดึงดูดกลุ่มผู้ชายที่ไม่สนใจการเมือง
อีกสาเหตุที่ทำให้คาสต์ชนะเลือกตั้ง เป็นเพราะความรู้สึกเบื่อหน่ายรัฐบาลฝ่ายซ้าย เห็นได้ชัดจากการที่โบริชลงเลือกตั้งอีกสมัยไม่ได้ หลังเผชิญคะแนนความนิยมตกต่ำ ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งเห็นว่า การขึ้นมาของคาสต์เป็นเรื่องปกติของชิลีอยู่แล้ว ที่มีการสลับขั้วอำนาจฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาในทางการเมือง นับตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญและประชาชนบางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า คาสต์อาจทำตามนโยบายไม่ได้จริง เช่น การไล่ผู้อพยพ 3.6 แสนคน หรือนโยบายด้านเศรษฐกิจที่ดูยังคลุมเครืออยู่
ภาพ: Juan Gonzalez / Reuters
อ้างอิง:


