วันนี้ (1 ตุลาคม) โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี (สคช.) กล่าวถึงกรณีที่ปรากฏข้อมูลว่ามีดาราและอินฟลูเอ็นเซอร์ไปร่วมไลฟ์ขายทองออนไลน์กับ กรกนก หรือ แม่ตั๊ก และ กานต์พล หรือ ป๋าเบียร์ ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญา ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน-พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ว่าจะมีส่วนร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่
โกศลวัฒน์กล่าวว่า คดีนี้เมื่อประชาชนผู้เสียหายเข้าแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีอำนาจสอบสวนตามที่กฎหมายกำหนดทันที โดยการสอบสวนจะต้องสอบสวนทั้งผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาให้ได้ความจริง ในส่วนที่จะมีใครไปเกี่ยวข้องในการกระทำผิดด้วยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการสอบสวนข้อเท็จจริง
ส่วนลักษณะที่ว่า คนที่ร่วมไลฟ์อาจโดนข้อกล่าวหาว่าร่วมกระทำความผิด คือกรณีที่คุณรู้ว่าเป็นความเท็จแล้วคุณยังไลฟ์หลอกลวง กรณีนั้นสุ่มเสี่ยงที่จะผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มีบางกรณีที่รู้ว่าเป็นความเท็จแต่ไม่ได้ประโยชน์จากการซื้อขายก็อาจผิดบางข้อหา ไม่ได้เป็นตัวการร่วมฉ้อโกงฯ เพราะไม่ได้ผลประโยชน์ แต่อาจโดนฐานสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดได้ ขึ้นอยู่กับการสอบสวน
โกศลวัฒน์กล่าวว่า ผู้ถูกกล่าวหามีโอกาสพิสูจน์ในชั้นสอบสวนของตำรวจ ชั้นพิจารณาคดีของอัยการ หรือแม้กระทั่งเมื่อฟ้องแล้วก็ไปพิสูจน์ในศาล แต่ก่อนอื่นต้องพิสูจน์ในขั้นสอบสวนก่อน จึงจะบอกได้ว่าใครเข้าข่ายร่วมกันกระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนหรือเป็นผู้สนับสนุนหรือไม่