Johnson & Johnson เผยผลการทดสอบวัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาโดย Janssen บริษัทด้านเภสัชกรรมของ Johnson & Johnson ในระยะที่ 3 โดยระบุว่าจากการทดสอบในระดับโลก หลังรับวัคซีนครบ 28 วัน วัคซีนมีประสิทธิภาพโดยรวม 66% ในการป้องกันโควิด-19 ที่มีอาการระดับปานกลางถึงรุนแรง แต่หากพิจารณาเฉพาะการป้องกันโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง วัคซีนตัวนี้จะมีประสิทธิภาพที่ 85% และไม่พบว่ามีผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตจากโควิด-19 หลังรับวัคซีนครบ 28 วันในการทดสอบนี้
ทั้งนี้ การทดสอบดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมการทดสอบเกือบ 44,000 คนจาก 8 ประเทศ โดยในจำนวนนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 468 คน ผู้ติดเชื้อเหล่านี้มีทั้งผู้ที่ได้รับวัคซีนจริงและผู้ที่ได้รับยาหลอก
อย่างไรก็ตาม เมื่อแยกผลการทดสอบดูในระดับประเทศพบว่า ในแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นประเทศที่กำลังมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 ที่มีอาการระดับปานกลางถึงรุนแรง 57% ซึ่งต่ำกว่าประสิทธิภาพจากการทดสอบในสหรัฐอเมริกาซึ่งอยู่ที่ 72%
ผลการทดสอบดังกล่าวยังไม่เผยแพร่ในวารสารที่มีกระบวนการพิจารณาตรวจสอบ (Peer-review) แต่ทางบริษัทระบุว่ากำลังมีแผนที่จะดำเนินการเผยแพร่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ทั้งนี้ จุดเด่นของวัคซีนของ Janssen คือการใช้วัคซีนโดยฉีดเพียงโดสเดียว ซึ่งทำให้ง่ายต่อการแจกจ่ายวัคซีนมากกว่าวัคซีนตัวอื่นที่ต้องใช้การฉีดสองโดส อย่างไรก็ตาม Janssen ยังคงอยู่ระหว่างหาคำตอบว่าการฉีดวัคซีนตัวนี้สองโดสจะช่วยป้องกันโควิด-19 ได้มากกว่าหรือยาวนานกว่าหรือไม่ นอกจากนี้จุดเด่นอีกประการหนึ่งคือวัคซีนตัวนี้ยังสามารถเก็บรักษาในตู้เย็นปกติได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งต่างจากวัคซีนบางชนิดที่ต้องอาศัยความเย็นจัดเป็นพิเศษ เพราะผลิตขึ้นโดยใช้วิธีเดียวกับวัคซีนของ AstraZeneca คือการนำไวรัสหวัดธรรมดามาผ่านกระบวนการทางพันธุกรรมเพื่อทำให้ไม่เป็นอันตราย และนำส่วนของรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ เพื่อทำให้ร่างกายมนุษย์รับรู้ว่าเป็นภัยคุกคาม และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันเรียนรู้ที่จะต่อสู้กับไวรัสได้เมื่อพบกับไวรัสจริง จุดเด่นเหล่านี้ทำให้วัคซีนตัวนี้อาจมีบทบาทสำคัญต่อการป้องกันโควิด-19 ในระดับโลก
มาไทย แมมเมน หัวหน้าหน่วยวิจัยและพัฒนาระดับโลกของแผนกเภสัชกรรม Johnson & Johnson ระบุว่าวัคซีนดังกล่าวที่เริ่มป้องกันโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงง่ายต่อการจัดส่งและเก็บรักษา จะเป็นทางออกที่มีศักยภาพสำหรับการทำให้ผู้คนเข้าถึงวัคซีนได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“ความสามารถในการหลีกเลี่ยงการต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตจะเปลี่ยนเกมในการต่อสู้กับโรคระบาด” แมมเมนระบุ
ทั้งนี้ ทางบริษัทตั้งเป้าว่าจะผลิตวัคซีนให้ได้ 1,000 ล้านโดสในปีนี้ และในแง่ความปลอดภัย Johnson & Johnson เผยว่าผลการตรวจสอบโดยคณะกรรมการตรวจสอบระบุว่าไม่มีข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่สำคัญ ในขณะที่ 9% ของผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนตัวนี้มีไข้ แต่ไม่มีอาการแพ้อย่างรุนแรง
ทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ล้วนสั่งซื้อวัคซีนของ Johnson & Johnson ไว้แล้ว โดยสหราชอาณาจักรสั่งไว้ 30 ล้านโดส สหรัฐอเมริกาสั่งไว้ 100 ล้านโดส และแคนาดาสั่งไว้ 38 ล้านโดส ซึ่ง Johnson & Johnson มีแผนที่จะยื่นขออนุมัติการใช้งานวัคซีนฉุกเฉินในสหรัฐอเมริกาสัปดาห์หน้า และยืนยันว่าจะจัดส่งวัคซีน 100 ล้านโดสนี้ให้สหรัฐอเมริกาได้ภายในครึ่งปีแรกของปีนี้ ส่วนในสหราชอาณาจักร การใช้งานวัคซีนดังกล่าวก็ต้องรอการอนุมัติจากทางการก่อนเช่นกัน แต่รัฐมนตรีสาธารณสุขสหราชอาณาจักรก็ออกมาขานรับการประกาศผลการทดสอบนี้ว่าเป็นข่าวดี
การเปิดเผยผลการทดสอบครั้งนี้เกิดขึ้นหลังบริษัท Novavax ผู้ผลิตวัคซีนสัญชาติอเมริกันเพิ่งเผยผลการทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 3 ไปไม่นานนัก
ภาพ: Pcruciatti via ShutterStock
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- https://www.bbc.com/news/health-55857530
- https://edition.cnn.com/2021/01/29/health/johnson-coronavirus-vaccine-results/index.html
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-01-29/j-j-single-dose-vaccine-provides-strong-shield-against-covid-19
- https://www.prnewswire.com/news-releases/johnson–johnson-announces-single-shot-janssen-covid-19-vaccine-candidate-met-primary-endpoints-in-interim-analysis-of-its-phase-3-ensemble-trial-301218035.html