***เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของซีรีส์***
คนผิวสี, อดีตนักเลง, ทรานส์เจนเดอร์, เด็กกำพร้า, ลูกนอกสมรส, ลูกชายเอาแต่ใจ, พ่อจอมเผด็จการ, เถ้าแก่ที่หัวแข็งยิ่งกว่าลูกเกาลัด ฯลฯ คือตัวละครที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและมาช่วยสร้างสีสันให้กับ ‘จักรวาล’ Itaewon Class ได้อย่างน่าสนใจ
ในจักรวาลที่เต็มไปด้วยความหลากหลายนั้น เรารู้สึกว่า โชอีซอ (รับบทโดย คิมดามี) ที่หลายคนตกหลุมรัก (และอีกหลายคนที่รู้สึกหมั่นไส้) คือ ‘ดวงดาว’ ที่โดดเด่นและเปล่งประกายมากที่สุด ในฐานะตัวละครที่ปรากฏตัวเป็นคนแรก และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเรื่องราวไปข้างหน้าไม่น้อยไปกว่าพระเอกอย่าง พัคแซรอย (รับบทโดย พัคซอจุน)
“อาจจะแปลกๆ หน่อย คุณอาจจะคิดว่าฉันบ้า ถ้าโลกนี้แตกสลายไปได้ก็คงจะดี ชีวิตก็วนเวียนซ้ำๆ เดิมๆ ตั้งใจเรียนเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ พออายุมากขึ้นก็ต้องพยายามหาผู้ชายดีๆ สักคน แล้วก็แต่งงาน มีชีวิตอยู่ไปก็น่ารำคาญ”
คือประโยคแรกที่เราได้ยินจากเด็กสาวผมสองสีที่ตอบคำถามนักจิตวิทยาด้วยท่าทางเย็นชา สีหน้าเรียบเฉย ก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะให้กับคำตอบของตัวเองอย่างไม่ยี่หระ ทั้งที่หลายคนได้แต่อิจฉาและอยากเป็นให้ได้อย่างเธอใจจะขาด แต่เธอกลับดูเหมือนไม่สนใจสิ่งใดในชีวิตและโลกนี้อีกต่อไป
ถึงแม้จะอยู่กับแม่เพียงคนเดียว แต่โชอีซอก็เติบโตมาพร้อมกับหน้าตาที่สะสวย ฐานะดี ไอคิวสูงถึง 162 มีพรสวรรค์ทั้งการเรียน กีฬา ศิลปะ ดนตรี ที่โดดเด่นไปหมดทุกอย่าง แถมยังเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีคนติดตามมากกว่า 7 แสนคน
แต่ในขณะเดียวกัน ความสมบูรณ์แบบก็เป็นเหมือน ‘คำสาป’ ที่ทำให้เธอจะไม่ยอมใช้ชีวิตแบบครึ่งๆ กลางๆ ทุกอย่างต้องเป็นที่หนึ่ง ยึดติดกับชัยชนะ ถึงขนาดเคยผลักเพื่อนให้ล้มตอนวิ่งแข่งเพราะไม่อยากเห็นใครนำอยู่ข้างหน้า สิ่งเหล่านี้สั่งสมเรื่อยมาจนกลายเป็นคนเฉยชา และนำไปสู่ภาวะ ‘ต่อต้านสังคม’
โชอีซอเหมือนรูปสลักน้ำแข็งที่สวยงาม แต่ก็เปราะบาง พร้อมแตกสลาย เธอสร้างเกราะกำบังให้ดูเหมือนเข้มแข็ง ไม่ยอมอ่อนข้อ และพร้อมทำลายชีวิตคนที่ทำร้ายเธอได้อย่างไม่ไยดี คบกับคนที่มีผลประโยชน์ตามที่เธอต้องการ เธอทำได้ทุกอย่างเพื่อใช้ชีวิตที่แสนน่ารำคาญให้ผ่านพ้นจนถึงวันจากโลกนี้ไป
กระทั่งวันที่เธอได้เจอกับพัคแซรอย เถ้าแก่แห่งร้าน ‘ทันบัม’ ที่ตอนแรกเธอรู้สึกรำคาญในท่าทีชอบทำตัวเป็นคนดี แถมยังดูเงอะงะ ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง ขัดกับคนที่ติดกับความสมบูรณ์แบบของเธออย่างสิ้นเชิง
แต่ถึงแม้จะไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง ทำการตลาดไม่เป็น ไม่เด็ดขาด จัดร้านไม่สวย แต่พัคแซรอยมีอะไร ‘บางอย่าง’ ที่ทำให้เธอไม่อาจละสายตาไปจากผู้ชายที่ชอบเอามือลูบผมทรงเกาลัดอยู่บ่อยๆ ได้จริงๆ
บางอย่างที่ว่าอาจจะหมายถึงความมุ่งมั่นตั้งใจแบบยอมถวายชีวิตเพื่อทำให้ร้านประสบความสำเร็จ อาจหมายถึงการเป็นที่พักพิงที่แข็งแกร่งในยามยาก อาจหมายถึงอดีตอันแสนเจ็บปวดที่ทำให้เธอใจสั่น อาจหมายถึงคนที่ทำให้หัวใจเต้นแรง อาจหมายถึง ‘จูบแรก’ ที่เธอแอบขโมยเจ้าของมาโดยไม่รู้ตัว
อาจหมายถึงการที่คนแข็งแกร่งและพึ่งพาตัวเองได้มาตลอดอย่างเธอได้เจอคนที่ ‘สัญชาตญาณ’ บอกว่าสามารถฝากชีวิตเอาไว้ได้ และพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อคนคนนั้นโดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองว่าเธอก๋ากั่น น่าหมั่นไส้ ใจร้าย เพราะเธอสนใจแค่คนที่เธอรักเพียงคนเดียว
“ถ้าอยากรวยเหรอ ฉันจะทำให้รวย ชางกาทำให้ลำบากเหรอ ฉันจะทำลายมันให้ ฉันจะทำให้ฝันของเถ้าแก่เป็นจริง ไม่ใช่แค่คนธรรมดา แต่จะทำให้เป็นยอดคน”
แต่ก็เช่นเดียวกับทุกครั้งที่ผ่านมา เมื่อโชอีซอตั้งเป้าหมายอะไรแล้ว เธอไม่สนใจผู้คนหรือปัจจัยรอบข้าง แต่จะมุ่งไปสู่ปลายทางนั้นอย่างแน่วแน่ ขับเคลื่อนทุกอย่างด้วยเหตุผล เน้นที่ผลลัพธ์สูงสุด แม้จะต้องทำให้หลายคนที่เดินอยู่บนเส้นทางเดียวกันต้องเสียใจ
แน่นอนว่าสิ่งที่เธอทำไม่ใช่เรื่องที่ใครจะแปะป้ายว่าเป็น ‘ความผิด’ ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ในเรื่องธุรกิจ เพียงแต่สิ่งที่เธอเป็นตรงกันข้ามกับสมาชิกทุกคนในร้านทันบัมที่ใช้อารมณ์เป็นตัวขับเคลื่อน โดยเฉพาะเถ้าแก่ที่เชื่อมั่นจนถึงขั้น ‘ดื้อด้าน’ แบกความรู้สึกและความหวังของทุกคนไว้บนบ่า พร้อมให้อภัยในทุกๆ ความผิดพลาด โดยไม่สนใจว่าผลลัพธ์ที่ตามมาจะเป็นอย่างไร
และสุดท้ายก็เป็นตัวของเธอเองที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย เช่นเดียวกับสมาชิกทุกคนที่พัฒนาตัวเองมากขึ้นไปพร้อมๆ กัน
เธอเคยดุเรื่องที่ ชเวซึงกวอน (รับบทโดย รยูคยองซู) เสิร์ฟอาหารผิดวิธี จนภายหลังอดีตนักเลงหัวไม้ที่ถนัดใช้มือทำร้ายคนอื่นก็รู้ว่าสิ่งที่มือของเขาทำได้ดีที่สุดคือการเสิร์ฟอาหาร
เคยพูดจาทำร้ายจิตใจ คิมโทนี่ (รับบทโดย คริส ลีออน) เรื่องสัญชาติเกาหลี แต่สุดท้ายเธอก็ยินดีช่วยเพื่อนผิวสีตามหาพ่อ
เคยบอกให้ ชางกึนซู (รับบทโดย คิมดงฮี) ที่แอบชอบเธอมาตลอดออกจากทันบัมไปยึดบริษัทชางกา แม้จะดูเหมือนการหลอกใช้ แต่สุดท้ายก็ทำให้ลูกนอกสมรสที่เคยมีความฝันกล้าที่จะมีความทะเยอทะยานเป็นครั้งแรกในชีวิต
เข้มงวดกับ มาฮยอนอี (รับบทโดย อีจูยอง) ที่เคยทำอาหารไม่อร่อย อ่านบทกวีให้กำลังใจแม่ครัวทรานส์เจนเดอร์ที่คนไม่ยอมรับว่า “ฉันเป็นหินที่ส่องประกายได้เอง ฉันไม่สนกฎธรรมชาติ ไม่แตกสลาย มอดไหม้ ผุผัง ฉันรอดชีวิตมาได้ ฉันคือเพชร” จนสุดท้ายกลายเป็นเชฟอันดับหนึ่งในรายการแข่งทำอาหารระดับประเทศ
ตลอดระยะเวลามากกว่า 4 ปี โชอีซอคือกำลังสำคัญที่ทำให้ร้านทันบัมและบริษัท IC เติบโตแบบก้าวกระโดด เธอทำงานหนักจนแทบไม่ได้พักผ่อน ศึกษาจนเชี่ยวชาญด้านการตลาดและธุรกิจ นิตยสาร Forbes ยกให้เป็นนักธุรกิจหญิงแห่งเอเชีย ฯลฯ
เธอมีความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ทุกอย่าง ยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือ ‘ความรัก’ ที่ต่อให้งัดกลยุทธ์ทุกสรรพความรู้ที่มีออกมาใช้มากขนาดไหน เถ้าแก่หัวแข็งก็ไม่ยอมใจอ่อนยอมรับความรักของเธอเสียที
หากแต่การไม่ยอมรับไม่ได้หมายความว่า ‘ไม่รัก’ เพราะหัวใจที่ยึดติดกับคำสัญญาในความรักครั้งแรกสมัยมัธยมกับ โอซูอา (รับบทโดย ควอนนารา) และหัวสมองที่ยึดติดกับการแก้แค้นพ่อลูกชางกาทำให้พัคแซรอยไม่ทันรับรู้ถึง ‘หัวใจ’ ที่เริ่มเปลี่ยนไปของตัวเอง
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับโชอีซอคือถึงแม้เธอจะไม่เคยแสดงออกว่ายอมแพ้
“รู้ว่าไม่ชอบก็ชอบอยู่ดี อย่าบอกให้ตัดใจ หัวใจเป็นของฉัน เถ้าแก่ไม่มีสิทธิ์มาบอกว่าห้ามชอบ”
เธอยังคงยืนยันที่จะบอกรักพัคแซรอยต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ลึกๆ ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เหมือนที่เธอสารภาพความในใจกับมาฮยอนอีออกมาว่า
“ช่วงนี้ฉันบอกรักท่านประธานบ่อยมากเลยนะ ที่แสดงออกได้เพราะเป็นคนทำงานเก่ง จำเป็นต่อบริษัท ฉันต้องเป็นคนที่จำเป็นต่อท่านประธาน เรียกว่าเป็นข้ออ้างหรือเปล่า แต่ฉันรู้สึกว่าต้องมีคุณสมบัติพอที่จะบอกรักได้”
ความรักที่หลายคนเชื่อว่าไม่มีเงื่อนไข แต่กลับต้องมี ‘คุณสมบัติ’ เพียงพอถึงจะคู่ควรที่จะบอกรัก เธอเคยเชื่อว่าถ้าพยายามมากพอ ต่อให้เป็นยากขนาดไหน คนเก่งอย่างเธอสามารถทำได้ทุกอย่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่กับสิ่งที่เรียกว่าความรักของเธอ
จนกระทั่งวันที่อาจต้องเสียเธอไป พัคแซรอยถึงได้รู้จริงๆ ว่าคำตอบของคำถามตามโปรโมชันของร้านทันบัม ไม่ว่าจะเป็นคนที่อยากขอบคุณ, คนที่รู้สึกผิดด้วยมากที่สุด, ช่วงเวลาที่รู้สึกกลัวที่สุด, สิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิต, ตอนนี้คุณมีรักหรือเปล่า
คำตอบทั้งหมดมีเพียงหนึ่งเดียวคือคนที่โอบกอดความเจ็บปวดของเขาในอดีต, คนที่อยู่เคียงข้างเขามาตลอดไม่เคยจากไปไหน, คนที่เคยอยากตาย แต่สอนให้เขาได้รู้ความหมายของชีวิต, คนที่เปลี่ยนค่ำคืนที่ขมขื่นให้กลายเป็นคืนที่แสนอบอุ่น, คนที่ทำให้เขาได้ลิ้มรสชาติของเหล้าที่แสนหวาน
หญิงสาวที่รักเขามากกว่าใคร
โชอีซอ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์