วันนี้ (27 พฤษภาคม) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการทหารบก กลุ่มไทยไม่ทน ‘คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย’ นำโดย อดุลย์ เขียวบริบูรณ์, จตุพร พรหมพันธุ์ และวีระ สมความคิด เดินทางมายื่นหนังสือเรียกร้องให้ผู้นำเหล่าทัพลาออกจากการทำหน้าที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กลับไปทำหน้าที่ทหาร ทั้งนี้ ร.ต. บุญโชค นามศรี ตัวแทนกองทัพบก ออกมารับหนังสือ
อดุลย์กล่าวว่า การเดินทางมาในวันนี้เพื่อยื่นหนังสือขอให้ทางผู้บัญชาการทหารบกถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกวุฒิสภา ออกมาแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ไม่ใช่ทำตัวเป็นทหารทางการเมืองเพื่อปฏิวัติและยึดอำนาจคนทั่วไป ตัวเองหวังว่ากองทัพภายใต้การปฏิรูปจะอยู่เคียงข้างประชาชน นำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญ
ด้านจตุพรกล่าวว่า การมายื่นหนังสือในครั้งนี้ไม่ได้เรียกร้องให้ผู้บัญชาการทหารบกยึดอำนาจและกระทำการรัฐประหาร แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมารัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้ผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพมาเป็นสมาชิกวุฒิสภา แม้ผู้บัญชาการทหารบกคนปัจจุบันจะไม่ได้โหวตเลือกให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือรับเงินเดือนจากการเป็นสมาชิกวุฒิสภา
แต่หน้าที่ในการเป็นผู้บัญชาการทหารบกก็ต้องยึดตามหน้าที่ของทหาร การเป็นสมาชิกวุฒิสภาจะเบียดบังเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ส่วนนี้เพราะต้องมีการประชุมอยู่ทุกอาทิตย์ นอกจากนี้ การลาออกก็เพื่อแสดงให้เห็นว่ากองทัพไม่ได้สนับสนุนนายกฯ ที่ไม่ปฏิบัติตามหลักของกองทัพเองที่บอกว่าจะทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ที่ผ่านมาการทำงานของนายกรัฐมนตรีพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าล้มเหลว ไม่รักษาคำพูด ตั้งแต่เรื่องการปฏิวัติ การสืบทอดอำนาจ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการจัดการกับวิกฤตของโรคระบาดโควิด-19
ด้านวีระกล่าวทิ้งท้ายว่า ผู้บัญชาการทหารบกควรถอยออกมาจากการดำรงตำแหน่งวุฒิสภา เพื่อรับใช้ชาติและประชาชน ไม่ใช่การรับใช้กบฏอย่างทุกวันนี้
โดยเนื้อหาในหนังสือระบุว่า ด้วยบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 269 (1) (ค) บัญญัติให้ผู้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่ง ประกอบกับ (4) กำหนดให้มีวาระ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งสมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภา
บัดนี้ สถานการณ์ของประเทศอยู่ในภาวะวิกฤต อันเนื่องจาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไร้ประสิทธิภาพ ขาดวิสัยทัศน์ ไม่มีศักยภาพในการบริหาร และแก้ไขปัญหาประเทศล้มเหลว กระทั่งประชาชนทุกภาคส่วนขาดความเชื่อมั่น พร้อมกับเรียกร้องให้ พล.อ. ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยหวังจะได้บุคคลใหม่ที่มีความสามารถมาแก้ไขปัญหาของชาติ ทั้งจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมาบริการประชาชนให้รอดพ้นจากโรคระบาดโควิด-19 จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทยเป็นการรวมตัวกันของคนทุกภาคส่วนอาชีพ ขอให้ท่าน ‘ลาออก’ จากสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่ง เพื่อใช้เวลาทั้งหมดทำหน้าที่หลักในการควบคุมดูแลบังคับบัญชากำลังพลของกองทัพบกในการป้องกันรักษาความมั่นคงของประเทศ หากท่านอยู่ในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกพร้อมกับมีสมาชิกภาพวุฒิสภาที่มีการประชุมสัปดาห์ละ 2 วัน ก็จะเบียดเบียนเวลาปฏิบัติหน้าที่ราชการทหาร อีกทั้งในยามเชื้อโรคร้ายโควิด-19 ระบาดรุนแรง ประชาชนทั่วหัวระแหงยังคอยรับความช่วยเหลืออยู่
ด้วยเหตุนี้ การลาออกของท่านจึงทำให้มีเวลารับใช้ประเทศชาติอย่างเต็มที่ ได้ใช้ความรู้ความสามารถบัญชาการผู้ใต้บังคับบัญชา ร่วมผนึกกำลังไปป้องกันความมั่นคงให้ประชาชนจะได้รอดพ้นจากโรคระบาดโควิด-19
คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทยเชื่อมั่นว่า การลาออกจากสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่งของท่านสามารถกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 111 (3) ซึ่งมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ รวมทั้งท่านจะไม่ตกเป็นที่ครหาทางการเมืองในการใช้กองทัพไปค้ำบัลลังก์อำนาจของ พล.อ. ประยุทธ์ ซึ่งมีที่มาทางการเมืองไม่ชอบธรรม ขัดหลักจริยธรรมการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น การลาออกดังกล่าวย่อมแสดงถึงจุดยืนอันมั่นคงตามหลักประชาธิปไตย และมุ่งรับใช้ประชาชนมากกว่าไปคุ้มครองผลประโยชน์ส่วนตนของ พล.อ. ประยุทธ์ ที่สำคัญ ระบอบประยุทธ์ไม่ได้ทำหน้าที่ในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่ควรจะเป็น ทั้งที่กำลังมีภัยคุกคามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้นหน้าที่หลักของผู้บัญชาการทหารบกจึงต้องกลับมาทำหน้าที่สำคัญดังกล่าว
ด้วยเหตุนี้ คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทยจึงขอให้ท่านได้ทำตามที่ประชาชนเรียกร้องให้ลาออกจากสมาชิกวุฒิสภา เพราะการลาออกดังกล่าวนั้นจะเป็นส่วนสำคัญให้ พล.อ. ประยุทธ์ ยอมลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และหลีกทางให้ผู้มีความสามารถคนใหม่มาเป็นนายกรัฐมนตรี นำพาประเทศชาติให้หลุดพ้นจากหายนะ
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล