แรงกดดันด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนและไต้หวันที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความคืบหน้าในการพัฒนาจรวดวิถีไกลของเกาหลีเหนือ ทำให้ญี่ปุ่นยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลและภาษีรายได้ครัวเรือนในปีงบประมาณหน้า เพื่อนำเงินไปเพิ่มงบประมาณด้านการทหาร
“สถานะการคลังของญี่ปุ่นในปัจจุบันอยู่ในจุดที่ไม่สู้ดีนัก ทำให้รัฐบาลต้องจัดลำดับความสำคัญในการใช้จ่ายงบประมาณตามความจำเป็น ท้ายที่สุดเราอาจต้องแตะเรื่องภาษีรายได้ เพื่อให้มีรายได้เพียงพอ” โยอิชิ มิยาซาวะ ประธานคณะกรรมาธิการด้านภาษีของพรรค LDP ซึ่งทำหน้าที่บริหารประเทศกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ร้านโอมากาเสะทั่วโลกขาดแคลน ‘เชฟซูชิชาวญี่ปุ่น’ แย่งตัวกันอุตลุด ยิ่งได้ภาษาจะถูกเสนอค่าจ้างสูงถึง 2.2 ล้านบาทต่อปี
- ญี่ปุ่นแทรกแซงค่าเงินแล้ว! ครั้งแรกในรอบ 24 ปี หลังเยนอ่อนค่าหลุด 145 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ
- โปรดเช็กราคาก่อนจะช็อกตอนจ่ายเงิน! ‘โอมากาเสะ’ ในนิวยอร์กดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ 35,000 บาทต่อคน หลังค่าขนส่ง วัตถุดิบ และค่าแรงพุ่งสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี มิยาซาวะปฏิเสธความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นภาษีจากการขายหรือภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายด้านการทหาร โดยระบุว่าเม็ดเงินของภาษีจากการขายมีเป้าหมายเพื่อใช้จ่ายเกี่ยวกับประกันสังคม
มิยาซาวะกล่าวอีกว่า เสถียรภาพทางการคลังของญี่ปุ่นถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ญี่ปุ่นจึงต้องพยายามรักษาสุขภาพทางการคลัง เพื่อป้องกันความล้มเหลวทางการเงินที่จะเกิดขึ้น
กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นได้ของบประมาณในปีหน้าเพิ่มขึ้น 3.6% หรือ 5.6 ล้านล้านเยน ซึ่งเท่ากับประมาณ 1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของญี่ปุ่น
ก่อนหน้านี้ พรรค LDP ได้ให้คำมั่นที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศสู่ระดับ 2% ของ GDP ในช่วง 5 ปี ซึ่งหมายความว่าจะมีการใช้จ่ายทางการทหารเพิ่มขึ้นประมาณ 5 ล้านล้านเยน
อ้างอิง: