กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นตัดสินใจระงับการใช้งานวัคซีนต้านโควิดจากบริษัท Moderna จำนวนประมาณ 1.63 ล้านโดส ที่ผลิตในโรงงานเดียวกันที่ประเทศสเปน และผลิตในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน หลังตรวจพบการปนเปื้อนของสารแปลกปลอมภายในวัคซีนบางขวด
โดยในช่วง 10 วันที่ผ่านมา มีการตรวจพบการปนเปื้อนของสารแปลกปลอมในขวดวัคซีนที่ยังไม่ถูกนำมาใช้จำนวน 39 ขวด หรือประมาณ 390 โดส ภายในสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีน 8 แห่งทั่วญี่ปุ่น ซึ่งวัคซีนที่ปนเปื้อนทั้งหมดผลิตในสเปนและส่งไปยังญี่ปุ่นตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นระบุว่ายังไม่ได้รับรายงานผลกระทบด้านสุขภาพจากวัคซีนปนเปื้อนดังกล่าว
ทั้งนี้ วัคซีน Moderna จำนวน 1.63 ล้านโดสดังกล่าว ถูกแจกจ่ายไปยังจุดฉีดวัคซีน 863 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงจุดฉีดวัคซีนใหญ่ๆ ของเมืองต่าง และจุดฉีดวัคซีนที่ให้บริการโดยมหาวิทยาลัยหรือภาคเอกชน
โดยการสั่งระงับใช้งานอาจส่งผลให้การฉีดวัคซีนในจุดดังกล่าวต้องหยุดชะงัก ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นได้แจ้งไปยังจุดฉีดวัคซีนเหล่านี้แล้วตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (26 สิงหาคม)
ทางด้านบริษัท Takeda Pharmaceutical ผู้รับผิดชอบการจำหน่ายและแจกจ่ายวัคซีนในญี่ปุ่น ระบุว่า Moderna ได้สั่งระงับการผลิตวัคซีน 3 ชุดแล้ว และคาดว่าการปนเปื้อนของสารแปลกปลอมในขวดวัคซีนที่เกิดขึ้น อาจมีสาเหตุมาจากปัญหาที่เกิดขึ้นภายในโรงงานผลิตตามสัญญาจ้างที่สเปน
“จนถึงตอนนี้ยังไม่พบประเด็นปัญหาด้านความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพ” บริษัท Moderna ระบุ พร้อมยืนยันว่าจะประสานงานกับหน่วยงานกำกับดูแลและบริษัท Takeda Pharmaceutical เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้เพิ่มเติม
สำหรับสารแปลกปลอมตามที่มีรายงานนั้น ทางบริษัท Takeda Pharmaceutical ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดว่าเป็นสารชนิดใด ซึ่งบริษัท Takeda Pharmaceutical ระบุว่ามีลักษณะเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็ก (Particulate Matter) และได้ตรวจสอบฉุกเฉินแล้ว
ภาพ: Photo by Yuichi Yamazaki/Getty Images
อ้างอิง: