ญี่ปุ่นให้สถานะผู้ลี้ภัยที่ถูกเลือกปฏิบัติทางเพศจากประเทศต้นทางเป็นครั้งแรก

เมื่อวันอังคารที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา แหล่งข่าวท้องถิ่นของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติสถานะผู้ลี้ภัยให้แก่ชาวต่างชาติรายหนึ่งเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา หลังจากที่เขาหวาดกลัวบทลงโทษของประเทศต้นทางที่เลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองระบุว่า ถือเป็นครั้งแรกที่มีการอนุมัติสถานะนี้ ด้วยเหตุผลนี้แก่ชาวต่างชาติ

แต่อย่างไรก็ตามไม่มีการเปิดเผยสัญชาติ เพศ รวมถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ร้องขอสถานะผู้ลี้ภัยรายนี้แต่อย่างใด เพียงแต่ระบุว่า การมีเพศสัมพันธ์หรือการกระทำเชิงชู้สาวระหว่างคนเพศเดียวกันในประเทศต้นทางถือว่าเป็นความผิดทางกฎหมาย ซึ่งอาจต้องโทษจำคุก โดยผู้ร้องขอสถานะรายนี้เคยถูกจับกุมด้วยเหตุแห่งเพศ และถูกจำคุกเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี ก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวและเดินทางมายังญี่ปุ่น

จากข้อมูลของ International Lesbian, Gay, Bisexual, Trans and Intersex Association (ILGA) พบว่า ในปัจจุบันมีราว 70 ประเทศ ที่แบนและกำหนดมาตรการลงโทษแก่บุคคลผู้มีความสัมพันธ์ทางเพศกับบุคคลเพศเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางและทวีปแอฟริกา

อิชิกาวะ เอริ หัวหน้าองค์กรที่ดูแลเรื่องผู้ลี้ภัยของญี่ปุ่น ระบุว่า “พวกเราดีใจที่ได้ก้าวไปข้างหน้าอีกขั้น โดยพลเมืองโลกทุกคนควรมีสิทธิ์ได้รับสถานะผู้ลี้ภัย เนื่องจากรสนิยมทางเพศของพวกเขา”

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันสังคมญี่ปุ่นยังคงเป็นสังคมที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยมอยู่มาก แต่ก็มีความพยายามในการผลักดันการสนับสนุนสิทธิ์ของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศในประเทศแห่งนี้ โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จังหวัดอิบารากิกลายเป็นจังหวัดแรกในญี่ปุ่นที่รับรองสิทธิ์ของคู่ชีวิตเพศเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมของญี่ปุ่นเองก็มีมติยกเลิกการผลักดันให้เกย์ชาวไต้หวันที่มีคู่ชีวิตเป็นชาวญี่ปุ่นเดินทางกลับประเทศต้นทาง อีกทั้งอนุญาตให้เขาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ในท้ายที่สุด โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองระบุว่า มีชาวต่างชาติยื่นเรื่องขอสถานะผู้ลี้ภัยในญี่ปุ่นถึง10,493 คน ในจำนวนนี้ 42 คน ได้รับสถานะผู้ลี้ภัย เนื่องจากหวาดกลัวบทลงโทษที่เลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ ศาสนา อุดมการณ์ทางการเมือง และอื่นๆ

ภาพ: Alessandro Di Ciommo / NurPhoto via Getty Images

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: