The Japan Times รายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเหตุภัยพิบัติครั้งใหญ่ในหลายจังหวัดแถบภาคกลางและภาคตะวันตกของญี่ปุ่นที่ถูกพายุฝนพัดกระหน่ำอย่างต่อเนื่องพุ่งแตะที่ 104 คนแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (9 ก.ค.) หลายพื้นที่ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมเกิดเหตุดินโคลนถล่ม สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานได้รับความเสียหาย มีผู้สูญหายอีกกว่าครึ่งร้อย
กรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ ที่พักอาศัยจำนวนมากได้รับผลกระทบเกือบทั้งหมด บริษัทผลิตยานยนต์ชื่อดังของญี่ปุ่นทั้ง Mazda, Daihatsu รวมถึง Toyota ต่างได้รับผลกระทบในส่วนงานผลิตแทบทั้งสิ้น รถไฟกว่า 17 ขบวน 56 เส้นทางระงับการให้บริการชั่วคราว
ทางการเร่งให้ประชาชนกว่า 5.9 ล้านคนใน 19 จังหวัดที่สถานการณ์ภัยพิบัติยังไม่ทุเลาลงอพยพไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย โดยหน่วยงานที่จัดการเรื่องไฟป่าและภัยพิบัติเผย มีชาวญี่ปุ่นมากกว่า 30,000 คนอยู่ในแหล่งพักพิงชั่วคราวที่ทางรัฐบาลได้จัดสรรไว้ให้
จังหวัดโอกายามะ ในภูมิภาคชูโงกุ คือหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ชาวบ้านมากกว่า 1,000 คนติดอยู่บนหลังคาบ้าน หลังจากตัวอาคารจมอยู่ใต้น้ำเรียบร้อยแล้ว และกำลังเฝ้ารอการช่วยเหลือทางเรือและทางอากาศจากทีมกู้ภัยโดยเร็ว นอกจากนี้พื้นที่ในเขตมาบิโชมากกว่า 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมด (ราว 7,500 ไร่) ถูกกลืนไปกับกระแสน้ำเรียบร้อยแล้ว บ้านเรือนมากกว่า 4,600 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมสูง
นับเป็นการประสบเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น หลังมียอดผู้เสียชีวิตแตะหลักร้อย นำหน้าเหตุการณ์ดินถล่มที่จังหวัดฮิโรชิมาเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินถล่มในครั้งนั้นอย่างน้อย 74 คน ทางการคาดการณ์ว่าตัวเลขของยอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีกในระยะเวลาอันสั้น
อ้างอิง: