×

ญี่ปุ่นปราบใหญ่ ‘บริษัทผี’! หลังพบช่องโหว่ ‘วีซ่าผู้จัดการธุรกิจ’ ถูกใช้เป็นเครื่องมือลักลอบอาศัย-ทำงานผิดกฎหมาย

16.08.2025
  • LOADING...
japan-business-manager-visa-crackdown

หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นกำลังยกระดับการปราบปรามการใช้ช่องโหว่ของโครงการวีซ่าผู้จัดการธุรกิจ (business manager visa) อย่างจริงจัง หลังจากพบว่าวีซ่าประเภทนี้ซึ่งออกแบบมาเพื่อดึงดูดผู้ประกอบการต่างชาติ กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการจัดตั้งบริษัทปลอมเพื่อลักลอบอาศัยและทำงานในประเทศอย่างผิดกฎหมาย

 

การตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้นนี้เป็นผลมาจากการจับกุมชายชาวศรีลังกาเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติในการขอวีซ่าผู้จัดการธุรกิจอย่างผิดกฎหมาย ผ่านการใช้บริษัทที่ไม่มีอยู่จริงและเอกสารปลอม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนชี้ว่าวีซ่าประเภทนี้มี ‘ช่องโหว่ในระบบ’ เนื่องจากมีการตรวจสอบดูแลที่น้อยกว่าวีซ่าประเภทอื่น

 

เมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าว Nikkei Asia ได้ร่วมสังเกตการณ์ขณะที่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโตเกียวเข้าตรวจสอบอาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดอิบารากิ ซึ่งถูกใช้เป็นที่อยู่ของบริษัทค้าของมือสองในคำร้องขอต่อวีซ่าของผู้ยื่นรายหนึ่ง แต่กลับพบเพียงบ้านที่เงียบสงัดและป้ายชื่อบริษัทที่เขียนด้วยลายมือแปะไว้หน้าประตู

 

“ฉันไม่เคยเห็นใครเข้าออกเลย ไม่คิดว่าพวกเขาทำธุรกิจอะไรที่นี่” เพื่อนบ้านรายหนึ่งให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน ผู้ยื่นขอวีซ่าก็ได้ปรากฏตัวขึ้น แต่หลังจากการตรวจสอบเอกสารนานสองชั่วโมง เจ้าหน้าที่กลับยิ่งมีข้อสงสัยเกี่ยวกับบริษัทดังกล่าวลึกซึ้งกว่าเดิม

 

วีซ่าผู้จัดการธุรกิจซึ่งเริ่มใช้ในปี 2015 มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนชาวต่างชาติในการจัดตั้งธุรกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจ ผู้ยื่นขอต้องลงทุนอย่างน้อย 5 ล้านเยน (ราว 1.1 ล้านบาท) และจ้างพนักงานเต็มเวลาอย่างน้อยสองคน 

 

สิ่งที่แตกต่างจากวีซ่าสำหรับผู้ประกอบอาชีพเฉพาะทางอย่างวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านมนุษยศาสตร์คือ วีซ่าประเภทนี้ไม่มีข้อกำหนดด้านวุฒิการศึกษา และยังมีอิสระในการดำเนินงานสูงกว่าวีซ่าประเภทอื่น ทำให้ง่ายต่อการถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด

 

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้วีซ่านี้เป็นที่นิยมคือค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับการขอวีซ่าที่คล้ายกันในสหรัฐอเมริกาซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 2-3 แสนดอลลาร์ (ราว 6.49 – 9.74 ล้านบาท) หรือในเกาหลีใต้ที่ประมาณ 300 ล้านวอน (ราว 7.01 ล้านบาท) ทำให้ภายในสิ้นปี 2024 มีผู้ถือวีซ่าประเภทนี้ในญี่ปุ่นมากกว่า 40,000 คน

 

กรณีจับกุมชายชาวศรีลังกาเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมได้เผยให้เห็นถึงเครือข่าย ‘บริษัทผี’ ขนาดใหญ่ โดยชายคนดังกล่าวถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของธุรกิจมากกว่า 600 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นเพียงบริษัทที่จัดตั้งขึ้นเพื่อบังหน้า และได้ช่วยเหลือให้ชาวต่างชาติประมาณ 1,000 คนพำนักในญี่ปุ่นอย่างผิดกฎหมาย โดยหลายคนทำงานในธุรกิจรื้อถอนอาคาร

 

วาโกะ อาซาโต รองศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเกียวโต กล่าวว่า “ผลพวงของระบบที่หละหลวมซึ่งอนุญาตให้พำนักระยะยาวได้โดยไม่มีการคัดกรองที่เพียงพอกำลังปรากฏให้เห็น” เขามองว่าแม้โครงการนี้จะตั้งใจเพื่อส่งเสริมสตาร์ทอัพ แต่ก็ไม่ได้มีความคืบหน้าตามที่วาดฝันไว้แต่แรก

 

การรับมือกับปัญหานี้ถือเป็น ‘ความท้าทายครั้งสำคัญ’ สำหรับหน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งต้องดำเนินการตรวจสอบคำร้องที่เกี่ยวข้องกับวีซ่าประเภทนี้มากกว่า 35,000 ฉบับต่อปี ภายใต้กรอบเวลาที่จำกัด ขณะเดียวกัน ปัญหาแรงงานต่างชาติก็ได้กลายเป็นประเด็นสำคัญในการเลือกตั้งสภาสูงเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา

 

ในขณะที่จำนวนประชากรของญี่ปุ่นลดลงอย่างต่อเนื่อง แรงงานต่างชาติจะมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจมากขึ้น ดังนั้น ‘การจัดการถิ่นที่อยู่’ ที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของญี่ปุ่นในการสร้างสังคมที่เปิดกว้าง ซึ่งหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองกำลังพิจารณาที่จะเพิ่มความเข้มงวดของข้อกำหนดวีซ่าควบคู่ไปกับการสนับสนุนผู้ประกอบการต่างชาติที่แท้จริง

 

ภาพ : Henry Saint John / Shutterstock

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising