คณะกรรมการของกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น อนุมัติให้สตรีสามารถใช้ยาทำแท้งได้เป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยยกระดับสิทธิด้านการเจริญพันธุ์ในญี่ปุ่น หลังจากที่หลายประเทศทั่วโลกมีการใช้งานยาดังกล่าวกันอย่างแพร่หลายมานานนับทศวรรษ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 เมษายน) โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ประกาศว่า คณะกรรมการเภสัชกรรมของกระทรวงฯ มีคำสั่งอนุมัติให้สามารถใช้งานยา Mefeego Pack ซึ่งเป็นยาทำแท้งที่ผลิตโดย Linepharma บริษัทเภสัชกรรมของอังกฤษ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขได้เริ่มประชุมกันเพื่อทบทวนข้อบ่งใช้และความปลอดภัยต่างๆ เกี่ยวกับการใช้งานยาทำแท้งครั้งแรกในเดือนมกราคม ก่อนที่จะมีการสอบถามความคิดเห็นของประชาชน 12,000 คน ผ่านทางออนไลน์ โดยภายหลังจากนี้จะมีการยื่นเรื่องต่อไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อขออนุมัติในขั้นตอนสุดท้าย
Mefeego Pack ประกอบด้วยยาเม็ด 2 ชนิด สามารถใช้เพื่อยุติการตั้งครรภ์ภายใน 9 สัปดาห์แรก ในการทดลองทางคลินิกของญี่ปุ่นพบว่า ผู้เข้าร่วมการทำแท้ง 93% เสร็จสิ้นกระบวนการยุติการตั้งครรภ์ได้ภายใน 24 ชั่วโมง หลังรับประทานยา ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันว่า ตัวยามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับสตรีที่กำลังตั้งครรภ์
ปัจจุบันญี่ปุ่นมีทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์เพียงแค่ 2 ทางเท่านั้น ทางเลือกแรกคือการขูดมดลูก ส่วนอีกทางเลือกหนึ่งคือการขยายปากมดลูกและใช้เครื่องมือดูดทารกในครรภ์ออก ซึ่ง WHO กล่าวว่า การขูดมดลูกเพื่อทำแท้งนั้นเป็นวิธีการที่ล้าสมัย อีกทั้งยังมีความปลอดภัยต่ำกว่าการใช้ยาเม็ด และสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้หญิงมากกว่า
ข่าวดังกล่าวได้สร้างความยินดีให้กับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ โดย คานาโกะ อินาบะ สูตินรีแพทย์ชาวญี่ปุ่น ได้ทวีตข้อความว่า การอนุมัติยาดังกล่าวถือเป็นโอกาสอันดีที่จะขยายการเรียนรู้ด้านเพศศึกษาให้กับเยาวชน รวมถึงความตระหนักเกี่ยวกับวิธีคุมกำเนิดให้มากขึ้น
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรีในญี่ปุ่นได้พยายามผลักดันให้รัฐบาลอนุมัติการใช้งานยาทำแท้ง ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกได้เปิดกว้างให้มีการใช้งานยาดังกล่าวมาแล้วหลายสิบปี ยกตัวอย่างเช่นฝรั่งเศสที่อนุมัติใช้ยา Mifepristone ตั้งแต่ปี 1988 และสหรัฐอเมริกา ในปี 2000
อย่างไรก็ตาม ประเด็นด้านสิทธิเหนือร่างกายของสตรีในญี่ปุ่นถือเป็นเกมยาวที่จะต้องจับตาดูกันต่อไป เนื่องจากตามกฎหมายยุติการตั้งครรภ์ของญี่ปุ่นนั้น ผู้หญิงจะสามารถทำแท้งได้ก็ต่อเมื่อการตั้งครรภ์มีผลกระทบต่อผู้เป็นแม่อย่างรุนแรง เนื่องจากเหตุผลด้านสุขภาพหรือเศรษฐกิจ และ ‘จะต้องได้รับความยินยอมจากสามีด้วย’ ซึ่งนักเคลื่อนไหวมองว่าข้อกฎหมายดังกล่าวเป็นการปฏิเสธไม่ให้ผู้หญิงมีสิทธิตัดสินใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนร่างกายของตัวเอง
ภาพ: LightField Studios Via Shutterstock
อ้างอิง: