ความเป็นมากระเป๋าในตำนาน It Bag ของแบรนด์ดังที่ใครๆ ก็อยากได้!

มีคนบอกว่าสิ่งที่วัดความเป็น It Bag ไม่ใช่การใช้งาน แต่คือจำนวนของกระเป๋าต่อความต้องการต่างหาก

‘กระเป๋า’ ถือว่าเป็นอีกองค์ประกอบสำคัญในการแต่งตัวของสาวๆ โดยเฉพาะกระเป๋าแบรนด์ดีไซเนอร์ที่เราต่างคุ้นตากันดี ซึ่งเป็นไอเท็มหลักที่ใครๆ ก็อยากมีไว้ครอบครอง

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แบรนด์ดังต่างขุดกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อที่จะพัฒนากระเป๋ารุ่นใหม่ของตัวเองให้กลายเป็น It Bag หรือกระเป๋าที่ต้องถือประจำซีซัน ซึ่งคำว่า It Bag ถูกตั้งขึ้นในยุค 90s ก่อนที่คำนี้จะกลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในช่วงปลายยุคจนไปถึงต้นยุค 2000 ที่สินค้าแบรนด์เนมเฟื่องฟูสุดๆ แม้ว่าตอนนี้คำว่า It Bag อาจจะถูกใช้น้อยลง แต่สถานะของ ‘กระเป๋าประจำซีซัน’ ยังใช้ได้อยู่เสมอ

สิ่งที่บ่งบอกถึงความนิยมของกระเป๋าแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อนั้น นอกจากจะวัดจากความต้องการของตลาด หรือพื้นที่สื่อที่ดาราเซเลบหิ้วกระเป๋าลงตีพิมพ์แล้ว ยังรวมไปถึงการกล่าวถึงบทละครทีวี ภาพยนตร์ และอิทธิพลของงานดีไซน์ที่เป็น ‘แรงบันดาลใจ’ ให้กับแบรนด์เล็กแบรนด์น้อยอีกด้วย

THE STANDARD เลือกกระเป๋า 5 รุ่นมาเล่าความเป็นมาและเกร็ดน่ารู้น่าสนใจของแต่ละใบ มีตั้งแต่ It Bag รุ่นออริจินัลจนถึงยุคปัจจุบันที่เห็นกันเกลื่อนถนน

Fendi Baguette

หากเอ่ยปากถึง It Bag แต่ไม่มี Baguette จากแบรนด์ Fendi Baguette คงไม่ใช่เรื่อง รุ่นนี้ออกแบบโดย ซิลเวีย เวนตูรินี เฟนดิ ในปี 1997 กระเป๋ารุ่น Baguette เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กๆ มาพร้อมสายสะพายไหล่ที่ไม่ยาวมากนัก เป็นหนึ่งในกระเป๋าที่ขายดีที่สุดในช่วงนั้น โดยนิตยสาร Vogue คาดการว่า Fendi ขายกระเป๋ารุ่นนี้มากถึง 100,000 ใบภายในปีแรกที่เปิดตัว

ความพีกของ Baguette อยู่ที่กระเป๋าใบนี้ใส่ของได้ไม่เยอะ แถมราคาก็แพง แต่ผู้หญิงทุกคนต่างอยากได้มาครอบครองเพราะความเก๋ ชิค ไม่แคร์เวิลด์ของมัน นอกจากนี้ Baguette ยังเป็นกระเป๋าประจำตัวของแคร์รี แบรดชอว์ จากซีรีส์ Sex and the City ที่เธอยอมอดข้าวเพื่อเอาเงินไปซื้อกระเป๋าที่ไม่ได้มีฟังก์ชันอะไรดีเด่น แต่เพราะลวดลายและวัสดุที่ถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในทุกคอลเล็กชัน ทำให้ Baguette ยังเป็นที่ต้องการอยู่เสมอ นอกจากนั้นเราจึงเห็นความคิดสร้างสรรค์ในเชิงนักออกแบบและความฉลาดในมุมนักธุรกิจของซิลเวียที่คงแพตเทิร์นกระเป๋า แต่ปรับเปลี่ยนวัสดุ งานปักต่างๆ ไปตลอดเวลาเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์อีกด้วย

Louis Vuitton Speedy

กระเป๋าถือระดับตำนานที่หญิงสาวทุกคนน่าจะรู้จัก และยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่เสมอ Louis Vuitton Speedy ออกแบบจากรุ่น Keepall กระเป๋าเดินทางลายโมโนแกรมที่ปรับให้มีขนาดเล็กลง ใช้สะพายได้ทุกวัน โดย Speedy รุ่นแรกที่ออกแบบมาในยุค 30s มีขนาด 30 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าเป็นกระเป๋าถือรุ่นแรกของแบรนด์ และยังคงเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน

ความนิยมใน Speedy เพิ่มมากขึ้นในยุค 60s เมื่อนักแสดงสาว ออเดรย์ เฮปเบิร์น ได้ขอให้ทางแบรนด์ปรับขนาดให้เหลือ 25 เซนติเมตร และหลังจากนั้นกระเป๋า Louis Vuitton ก็กลายเป็นแอ็กเซสซอรีคู่กายของเฮปเบิร์น Speedy มีให้เลือก 4 ขนาด ตั้งแต่ 25-40 เซนติเมตร ในผ้าแคนวาสเคลือบลายโมโนแกรม หรือลายตารางหมากรุก Damier ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นอกจากนั้น Speedy ยังถูกจับแปลงโฉมตลอดเวลาตามคอลเล็กชันที่ร่วมออกแบบกับศิลปินต่างๆ เนื่องจากเป็นงานออกแบบสุดคลาสสิก และถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์จาก Louis Vuitton ที่คนจดจำได้มากที่สุดอีกด้วย

Chloé Paddington

หลายคนน่าจะคุ้นตากระเป๋ารุ่น Marcie หรือ Nile จาก Chloé อยู่ไม่น้อย เพราะยังมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ แถมรุ่นหลังยังเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มแฟชั่นบล็อกเกอร์ต่างชาติ แต่มีคนบอกว่าสิ่งที่วัดความเป็น It Bag ไม่ใช่การใช้งาน แต่คือจำนวนของกระเป๋าต่อความต้องการต่างหาก

Paddington กระเป๋าถือประดับพวงกุญแจใหญ่ยักษ์เปิดตัวครั้งแรกในคอลเล็กชัน Spring 2005 แม้ว่าจะหนักถึง 1.3 กิโลกรัม แต่หลังจากโชว์จบ กระเป๋า 8,000 ใบในล็อตแรกได้รับการพรีออร์เดอร์ทันทีจนเกิดกระแส ‘waitlist’ ลงชื่อจองซื้อกระเป๋ากันอย่างจริงจัง ทำให้กว่ากระเป๋าจะได้วางโชว์หน้าร้านก็ผ่านไป 2 ซีซันเต็มๆ แน่นอนว่าดีไซเนอร์ผู้อยู่เบื้องหลังคือ ฟีบี ไฟโล ที่ไม่ว่าจะจับอะไรก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า นอกจากตัวกระเป๋าจะมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน การตลาดและการส่งกระเป๋าให้ ‘It Girl’ ในยุคนั้นถือยิ่งเพิ่มความต้องการในตลาดมากขึ้นกว่าเดิม

Chanel 2.55

กระเป๋าในฝันอีกหนึ่งใบที่หญิงสาวทั่วโลกพยายามจะเก็บเงินซื้อ แต่ราคาก็เพิ่มขึ้นทุกๆ ปีเช่นกัน Chanel 2.55 มีที่มาที่ไม่ธรรมดา และไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงเป็นที่นิยมมาจนถึงยุคปัจจุบัน โคโค่ ชาแนล ออกแบบกระเป๋าใบนี้ครั้งแรกในปี 1929 แต่ด้วยสภาพสังคมในตอนนั้นที่ผู้หญิงในสังคมชั้นสูงยังนิยมใช้กระเป๋าถือหรือคลัตช์ที่ต้องเหน็บกับตัว หลังจากที่กลับมาเปิดตัวแบรนด์ใหม่อีกครั้งและประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 1954 ชาแนลตัดสินใจอัพเดตกระเป๋าของเธอให้เหมาะกับผู้หญิงยุคใหม่ โดยมีสายโซ่ไว้คล้องตัว ไม่ต้องใช้มือหิ้ว สามารถทำอะไรได้สะดวกขึ้น ส่วนชื่อของ 2.55 นั้นก็มาจากเดือนกุมภาพันธ์และปี 1955 ที่ออกแบบนั่นเอง

จุดเด่นของกระเป๋า นอกจากจะเป็นการเย็บบุลายกะรัตเพชร ยังมีหนังสีแดงเบอร์กันดีด้านในที่ชาแนลได้แรงบันดาลใจจากเครื่องแบบของบ้านเด็กกำพร้าที่เธอเคยอาศัยอยู่ ส่วนฝาล็อกด้านหน้าเป็นสี่เหลี่ยมเรียบหรู หรือรุ่น Reissue ที่หลายคนน่าจะคุ้นชื่อคุ้นตา ซึ่งจริงๆ ชื่อนี้มาจากกระเป๋าในปี 2005 ที่ตั้งใจทำให้เหมือนกับ 2.55 รุ่นแรก ส่วนรุ่น Classic ที่มีโลโก้ล็อก CC ไขว้นั้นถูกออกแบบขึ้นมาในยุค 80s

Mansur Gavriel Bucket Bag

ปี 2013 แบรนด์เครื่องหนังน้องใหม่ในวงการแฟชั่นได้เปิดตัวกระเป๋าทรงถัง หรือ Bucket Bag บุพื้นข้างในสีแดงสด หน้าตาดูเรียบ มีความมินิมัล ไม่โจ่งแจ้ง โดยหารู้ไม่ว่าตัวเองจะกลายมาเป็นผู้กำหนดเทรนด์ Bucket Bag ที่แบรนด์น้อยแบรนด์ใหญ่ต่างก็ขนกระเป๋าทรงเดียวกันออกมาขายตามความต้องการของคนซื้อ

Mansur Gavriel ก่อตั้งโดยสองดีไซเนอร์สาว ราเชล มันซูร์ และฟลอเรียนา กาฟเรียล ในนิวยอร์ก พวกเธอต้องการผลิตเครื่องหนังคุณภาพที่ราคาจับต้องได้ หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน ของก็หมดสต็อกจนต้องลงชื่อจองไว้ไม่ต่างจากกระเป๋าแบรนด์ดังราคาเป็นแสน จุดเด่นของแบรนด์นี้นอกจากราคาที่เอื้อมถึงได้อยู่บ้างก็คืองานดีไซน์ที่ดูน้อยแต่มาก มาในหลายสีสัน เป็นสีพื้นหมดทั้งใบ ทำให้เป็นที่จดจำได้ง่าย ปัจจุบันนี้แบรนด์ก็ได้ขยายไลน์สินค้าเป็นรองเท้าด้วย ซึ่งก็แน่นอนว่ารองเท้าทรงมินิมัลที่เราเห็นก็ได้อิทธิพลมาจากงานออกแบบของ Mansur Gavriel เช่นกัน

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่

อ้างอิง: