อิตาลีสั่งจำกัดการเข้าออกทั่วประเทศ หลังผู้ป่วยโควิด-19 ใกล้แตะหลักหมื่น ตาย 463 ราย มากสุดรองจากจีน

เมื่อวานนี้ (9 มีนาคม) นายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต้ของอิตาลี มีคำสั่งขยายมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 สั่งจำกัดการเข้าเมืองต่างๆ ทั่วประเทศชั่วคราว หลังยอดผู้ป่วยสะสมโควิด-19 สูงถึง 9,172 ราย เข้าใกล้หลักหมื่นมากขึ้นทุกขณะ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 463 ราย มากสุดรองจากจีนแผ่นดินใหญ่ ขณะที่มีผู้รักษาหายแล้วราว 720 ราย

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ส่งผลให้จำนวนยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอิตาลีเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วคือ การที่อิตาลีเริ่มเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ โดยกระทรวงสาธารณสุขอิตาลีระบุว่า อายุเฉลี่ยของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 81.4 ปี ซึ่งกลุ่มช่วงอายุ 80 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิตสูงมากหากติดโควิด-19

คำสั่งดังกล่าวส่งผลให้พลเมืองอิตาลีราว 60 ล้านคนจะถูกจำกัดเรื่องการเดินทาง โดยทางการจะอนุญาตให้เดินทางได้เฉพาะกรณีต้องไปทำงาน ไปโรงพยาบาล หรือเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น แม้ระบบขนส่งสาธารณะจะยังคงเปิดให้ใช้บริการตามปกติ แต่ผู้นำอิตาลีแนะให้พลเมืองอยู่แต่ภายในที่พักอาศัยในช่วงเวลานี้ เพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดให้อยู่ในวงจำกัดมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

หากผู้ใดต้องการจะเดินทางท่องเที่ยว จำเป็นต้องระบุเหตุผลและชี้แจงต่อทางการ หากตรวจพบข้อมูลที่เป็นเท็จอาจต้องโทษตามกฎหมาย โดยคำสั่งดังกล่าวครอบคลุมถึงการปิดให้บริการชั่วคราวของเหล่าบรรดาสถานศึกษา ร้านอาหาร ยกเลิกกิจกรรมที่มีการชุมนุมกันของผู้คนจำนวนมาก โดยจะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 3 เมษายน หากผู้ใดไม่ปฏิบัติตามอาจต้องโทษจำคุก 3 เดือนและปรับเป็นเงิน 206 ยูโร (ราว 7,400 บาท)

มาตรการในลักษณะนี้ทางการจีนเคยประกาศใช้กับเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยมาแล้ว เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก่อนที่อีก 6 สัปดาห์ต่อมายอดผู้ติดเชื้อสะสมในจีนเริ่มมีแนวโน้มคงที่มากขึ้น ขณะที่นอกจีนแผ่นดินใหญ่กลับมียอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ภาพ: Marco Bertorello / AFP

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: