ทางการอิตาลีเผย เรือผู้อพยพลำหนึ่งล่มกลางทะเลหลังจากชนเข้ากับโขดหินใกล้พื้นที่ชายฝั่งทางตอนใต้ของอิตาลี เมื่อวานนี้ (26 กุมภาพันธ์) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 59 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กมากถึง 12 ราย
โดยเรือไม้ลำดังกล่าวแล่นออกจากเมืองท่าอิซเมียร์ของตุรกี บรรทุกผู้อพยพจากอัฟกานิสถาน อิหร่าน ปากีสถาน และโซมาเลียมุ่งหน้าสู่ทวีปยุโรป ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของบรรดาผู้อพยพที่ต้องการจะเริ่มต้นชีวิตใหม่
เบื้องต้นหน่วยลาดตระเวนชายฝั่งสามารถช่วยเหลือผู้อพยพได้บางส่วนแล้ว ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีกราว 30 ราย ทางการอิตาลียังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีผู้อพยพจำนวนเท่าใดที่โดยสารเรือลำนี้มา แต่คาดการณ์ว่าอาจจะมีมากกว่า 200 ราย
หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่าวิกฤตผู้อพยพในยุโรป โดยเฉพาะในอิตาลีจะยิ่งซับซ้อนและรุนแรงมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ผู้นำหญิงคนใหม่จากฝ่ายขวาจัดอย่างนายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี ประกาศจะสกัดกั้นการเดินทางของบรรดาผู้อพยพที่ต้องการจะมาขึ้นฝั่งที่อิตาลี พร้อมเดินหน้าผลักดันกฎหมายใหม่ที่เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการให้ความช่วยเหลือบรรดาผู้อพยพอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เมโลนีได้ร่วมแสดงความเสียใจและชี้ว่าขบวนการค้ามนุษย์เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากเหตุการณ์ในลักษณะนี้
โดยอิตาลีถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สำคัญของบรรดาผู้อพยพที่พยายามจะเดินทางเข้ายุโรปผ่านช่องทางทางทะเล ซึ่งหลายคนพยายามจะเดินทางต่อไปยังประเทศทางตอนเหนือของยุโรปที่มีฐานะมั่งคั่งกว่า แต่การที่จะไปถึงจุดนั้นได้จะต้องเผชิญหน้ากับเส้นทางที่อันตรายอย่างมาก
ปัจจุบันโครงการผู้อพยพสูญหายภายใต้สหประชาชาติเผยว่า มีผู้อพยพที่เสียชีวิตและสูญหายกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางอพยพที่สำคัญ สูงกว่า 20,000 ราย นับตั้งแต่ปี 2014 พร้อมทั้งคาดการณ์ว่าในปี 2023 มีผู้อพยพที่เสียชีวิตหรือสูญหายไปแล้วกว่า 220 ราย
ภาพ: Marco Cantile / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: