‘ความเรียบง่าย’ แต่แฝงไว้ด้วย ‘ความสดใหม่’ กลายเป็นสองคำตั้งต้นที่ ISSEY MIYAKE แบรนด์แฟชั่นจากประเทศญี่ปุ่นเลือกหยิบมาเป็นส่วนผสมสำคัญในการสร้างไลน์อัพผลิตภัณฑ์นาฬิกาข้อมือแบบเข็มอะนาล็อก (Analog Watch)
จุดแข็งของ ISSEY MIYAKE WATCH นอกเหนือจากดีไซเนอร์ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นนักออกแบบระดับโลกที่มีเอกลักษณ์ในงานออกแบบของตัวเองที่ชัดเจนแล้ว การออกแบบนาฬิกาแต่ละเรือนยังมีข้อแม้อีกด้วยว่าจะต้องผลิตในญี่ปุ่นเท่านั้น
ส่วนตัวดีไซเนอร์เองก็ต้องมีส่วนร่วมในการออกแบบตั้งแต่ตัวเรือน หน้าปัด ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ใส่นาฬิกา
สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สะท้อนให้เห็นว่า ถึงแม้จะเน้นความเรียบง่ายแค่ไหน แต่ ISSEY MIYAKE WATCH ก็ไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่านาฬิกาทุกเรือนจะได้คุณภาพและทรงคุณค่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
จาก ‘รถยนต์’ สู่ ‘นาฬิกา’ ของสองสิ่งเข้ากันได้อย่างไร
ในปี 2012 ISSEY MIYAKE WATCH มีโอกาสได้ร่วมงานกับ ซาโตชิ วาดะ ดีไซเนอร์ผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ ที่มีประสบการณ์การทำงานร่วมกับแบรนด์รถยนต์ระดับโลก ตั้งแต่ Nissan ไปจนถึง Audi ที่เขามีส่วนร่วมพัฒนา ‘Audi A5’ รถยนต์สมรรถนะสูง ซึ่งได้รับการขนานนามว่า เป็นรถ Coupé ที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวสวยงามมากที่สุดคันหนึ่งของโลก
ซาโตชิ วาดะ
ในเวลานั้นวาดะได้นำประสบการณ์ที่สั่งสมจนสุกงอมมาพัฒนางานออกแบบนาฬิกาข้อมือ ISSEY MIYAKE WATCH โดยเบลนด์ส่วนผสมความเรียบแบบมินิมัลกับความล้ำสมัยของโลกอนาคตมาจัดวางร่วมกันได้แบบพอดิบพอดี จนเกิดเป็น ‘W’ หนึ่งในซีรีส์นาฬิกาข้อมือที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากของแบรนด์
ความเจ๋งของ W คือการที่มันเป็นนาฬิกาโคโนกราฟ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจการวางตำแหน่งหน้าปัดมาจากมาตรวัดรถยนต์ที่มีความแม่นยำ ส่วนตัวเรือนสเตนเลสสตีลได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบมาจากล้ออะลูมิเนียมของรถยนต์
https://www.youtube.com/watch?v=aH1Hr9KkhBM
U สานต่อความสำเร็จของความล้ำค่าเหนือกาลเวลา
9 ปีผ่านไป วาดะกลับมาสานต่อความสำเร็จของ W อีกครั้ง ด้วยการเปิดไลน์อัพซีรีส์นาฬิกาข้อมือในตระกูลใหม่อย่าง ‘U’ ที่ถูกออกแบบขึ้นมาโดยเน้นความ Timeless ให้มากที่สุด เพื่อให้ตัวนาฬิกามีความคลาสสิก เท่ ล้ำสมัย โดยไร้กรอบเวลามาเป็นตัวกำหนด ที่สำคัญดีไซน์ของมันยังเป็นแบบ Unisex นั่นหมายความว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็สามารถสวมใส่มันบนข้อมือ แล้วออกมาดูดีได้ไม่แพ้กัน
สาเหตุที่เลขบอกเวลาบนหน้าปัดของ U เป็นเลขโรมัน ก็เพื่อที่จะบอกเราว่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานนับพันปี แต่มนต์ขลังและความสง่างามเหนือกาลเวลาจะยังคงอยู่ต่อไปอีกนาน
ส่วนพื้นที่อื่นๆ บนหน้าปัดถูกปล่อยให้ว่าง (ไม่ใช้ดีไซน์โคโนกราฟแบบ W) เพื่อสื่อถึงความสวยงามที่เรียบง่าย ดูธรรมดา แต่ยังแฝงไว้ด้วยอารมณ์ความรู้สึกลึกลับผ่านวัสดุกระจกแบบโค้งเว้าบนหน้าปัด
วาดะเล่าว่า พื้นที่ด้านข้างของตัวเรือนนาฬิกาข้อมือที่บางลง ได้กลายเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของนาฬิกาข้อมือที่ท้าทายเหล่านักออกแบบและกระบวนการผลิตนาฬิกามาโดยตลอด แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันก็ช่วยให้เขาสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างหมดจด
นั่นจึงทำให้พื้นที่ด้านข้างของนาฬิกาข้อมือ U มีลักษณะที่บางลง ตัวเรือนและกระจกทรงโค้งมนคล้ายกับแนวเส้นสายการออกแบบรูปทรงของตัวถังรถยนต์ตามหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งเปรียบเสมือนเอกลักษณ์ของงานออกแบบอันโฉบเฉี่ยวของวาดะ ให้ความรู้สึกลึกลับ สวยงาม แต่ขณะเดียวกันก็ยังชวนให้รู้สึกน่าค้นหา
สำหรับตัวเรือน U ใช้วัสดุสเตนเลสสตีล ช่วยให้คุณมั่นใจเรื่องความคงทนแข็งแกร่ง สายมีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ คือ สายหนังลูกวัวและสายสเตนเลสสตีลแบบง่ายต่อการปรับระดับความยาว ขณะที่หน้าปัดขนาด 41.1 มม. มาให้เลือก 2 สี คือ ขาวและดำ
วาดะยังได้ให้นิยามทิ้งท้ายว่า U เปรียบเสมือนนิยายเล่มหนึ่งที่ให้อารมณ์ความรู้สึกนิ่งสงบ และเผยให้เห็นอนาคตที่สวยงามที่รออยู่ข้างหน้า มากกว่าแค่ความรู้สึกตื่นเต้นหวือหวา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่จีรัง เกิดขึ้นแค่ชั่วครู่ชั่วคราว
ว่ากันว่า ‘ความเรียบง่าย’ แม้บางครั้งจะดูนิ่งเรียบ ไม่หวือหวา คาดเดาได้ไม่ยากนัก แต่ในท้ายที่สุด ไม่ว่าจะเวลาผ่านไปนานแค่ไหน มันจะกลายเป็นสิ่งที่ล้ำค่า ซึ่งไม่มีสิ่งอื่นใดมาทดแทนได้เช่นเดียวกับ U ที่จะคงความเท่ นิ่ง และเรียบหรูเหนือกาลเวลาเอาไว้ตลอดไป
สัมผัสนาฬิกา ‘U’ Series เรือนจริงได้ที่เคาน์เตอร์นาฬิกา ISSEY MIYAKE ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรคาเดโร ไทม์ 0 2163 0555