กระทรวงการท่องเที่ยวของอิสราเอลเปิดเผยวานนี้ (5 กันยายน) ว่ารัฐบาลเตรียมเปิดประเทศ ต้อนรับกรุ๊ปทัวร์ชาวต่างชาติ แม้ว่าจะยังเผชิญสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดที่รุนแรง
โดยทางการอิสราเอลจะอนุญาตให้มีการจัดกรุ๊ปทัวร์เข้ามาในประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับอนุญาต จะต้องผ่านการฉีดวัคซีนต้านโควิดและแสดงผลตรวจเชื้อแบบ PCR เป็นลบ ก่อนเดินทาง รวมถึงเข้ารับการตรวจเชื้อทั้งแบบ PCR และตรวจจากเซรุ่มในตัวอย่างเลือด เมื่อเดินทางถึงอิสราเอล โดยจำเป็นต้องเข้ารับการกักตัวในโรงแรมเพื่อรอผลตรวจ ซึ่งคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศในกลุ่ม ‘สีแดง’ ที่มีอัตราการติดเชื้อสูง เช่น ตุรกีและบราซิล จะยังไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศ ซึ่งในส่วนของไทยนั้น รัฐบาลอิสราเอลจัดให้อยู่ในกลุ่มสีส้มหรือประเทศมีความเสี่ยง
ทั้งนี้ รัฐบาลอิสราเอลเคยพยายามเปิดประเทศต้อนรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติมาแล้วในเดือนพฤษภาคม แต่ต้องระงับแผนดำเนินการทั้งหมด เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่แพร่ระบาดอย่างรุนแรง
ปัจจุบันอิสราเอลมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เฉลี่ยวันละเกือบ 10,000 คน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในวันเดียวมากกว่า 20,000 คน ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมสูงกว่า 1.1 ล้านคน
ขณะที่อัตราผู้เสียชีวิตจากโควิดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเฉลี่ยวันละ 30-50 คน ซึ่งทางการอิสราเอลระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปแล้วมากกว่า 14.1 ล้านโดส โดยมีประชาชนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วมากกว่า 60%
ภาพ: Photo by David Silverman/Getty Images
อ้างอิง:
