เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา เมื่อวานนี้ (10 พฤษภาคม) ตามเวลาท้องถิ่น โดยทางการอิสราเอลระบุว่า กองกำลังปาเลสไตน์ยิงจรวดกว่า 460 ลูกเข้ามายังเขตพื้นที่ของตน ขณะที่กองกำลังอิสราเอลเองก็โจมตีเป้าหมายในฉนวนกาซาไปมากกว่า 130 จุด นับเป็นการปะทะกันที่หนักสุดในรอบ 9 เดือน
ขณะที่หน่วยแพทย์ในพื้นที่รายงานว่า เหตุปะทะกันดังกล่าวทำให้ในฉนวนกาซามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 คน และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 45 คน ขณะที่ผู้คนในฟากฝั่งอิสราเอลต่างวิ่งหาที่หลบภัย โดยจรวดส่วนใหญ่ตกลงในพื้นที่เปิดโล่ง ซึ่งการปะทะกันครั้งใหญ่นี้มีขึ้นหลังจากที่ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 15 คน เสียชีวิตจากการโจมตีใส่ฉนวนกาซาของกองกำลังอิสราเอล ซึ่งในจำนวนนี้มีสมาชิกระดับสูงของกลุ่มญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ (PIJ) รวมอยู่ด้วย
โดย PIJ ถือเป็นกลุ่มติดอาวุธของชาวปาเลสไตน์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสอง รองจากกลุ่มฮามาส (Hamas) ซึ่งพวกเขาสาบานว่าจะล้างแค้นกองกำลังอิสราเอลให้กับบรรดาสมาชิก PIJ ที่ต้องจบชีวิตลง
ทางด้าน เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลชี้ว่า การเดินหน้าปราบปรามกลุ่มกองกำลังติดอาวุธชาวปาเลสไตน์ยังไม่แล้วเสร็จ หลังจากกองกำลังอิสราเอลโจมตีกลุ่ม PIJ ด้วยการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมทั้งกล่าวถึงความสำเร็จในการสังหารสมาชิกระดับสูงของกลุ่ม PIJ อีกด้วย
การประกาศจุดยืนของผู้นำอิสราเอลมีขึ้น ภายหลังจากที่สถานีโทรทัศน์ของอียิปต์ ซึ่งเป็นประเทศผู้ไกล่เกลี่ยในความขัดแย้งครั้งนี้รายงานว่า ความพยายามในการเจรจาหยุดยิงเพื่อสงบศึกดูเหมือนจะสะดุดลง หลังจากที่ทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ยังคงเดินหน้าใช้ความรุนแรงโจมตีใส่กันอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีทีท่าว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะยอมก้าวถอยแต่อย่างใด
นับเป็นปัญหาความขัดแย้งที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมอิสราเอล-ปาเลสไตน์มานานหลายทศวรรษ และเฝ้ารอการคลี่คลายและหาทางออกที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่ายจวบจนถึงปัจจุบัน
ภาพ: Jack Guez / AFP
อ้างอิง: