×

อิสราเอล-ฮามาสสู้รบเดือด เสียชีวิตสองฝ่ายพุ่ง 500 คน อิสราเอลประกาศ ‘แก้แค้นครั้งใหญ่’

08.10.2023
  • LOADING...
อิสราเอล-ฮามาส

สถานการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสของปาเลสไตน์ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ยังคงทวีความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง 

 

ล่าสุดเช้าวันนี้ (8 ตุลาคม) มีรายงานจากทางการอิสราเอลว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการยิงจรวดและส่งกองกำลังเข้าโจมตีของกลุ่มฮามาสเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 300 คนแล้ว และบาดเจ็บมากกว่า 1,500 คน นอกจากนี้ยังมีรายงานแรงงานไทยถูกจับเป็นตัวประกันหลายคน ขณะที่การสู้รบยังคงมีขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยฮามาสได้ระดมยิงจรวดระลอกล่าสุดโจมตีทั้งกรุงเทลอาวีฟและหลายพื้นที่

 

ขณะที่อิสราเอลเปิดฉากตอบโต้ด้วย ‘ปฏิบัติการดาบเหล็ก’ (Operation Iron Swords) ระดมโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ในฉนวนกาซา ส่งผลให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 232 คน บาดเจ็บมากกว่า 1,600 คน ตามรายงานจากหน่วยแพทย์ในเมืองกาซา

 

เบื้องต้นคาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตของทั้งสองฝ่ายจะยังเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากกองทัพอิสราเอลยังคงระดมทิ้งระเบิดโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ยังมีการปะทะกับกลุ่มฮามาสในหลายพื้นที่ตอนใต้ของอิสราเอล โดยโฆษกกองทัพอิสราเอลระบุว่า ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ในประเทศได้ทั้งหมด

 

ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ได้แถลงผ่านทางโทรทัศน์วานนี้ (7 ตุลาคม) โดยประกาศภาวะสงคราม พร้อมระดมกำลังสำรองและให้คำมั่นว่าจะต่อสู้กับกลุ่มฮามาสจนถึงที่สุด โดยยืนยันว่า จะแก้แค้นครั้งใหญ่ให้กับชาวอิสราเอลทุกคนที่เสียชีวิต และจะเปลี่ยนฉนวนกาซา ซึ่งอยู่ภายใต้การปิดล้อมของอิสราเอล ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางทะเล ให้กลายเป็น ‘เกาะร้าง’ พร้อมเตือนชาวปาเลสไตน์ให้รีบหนีออกจากกาซาในทันที

 

“เราจะแก้แค้นอย่างยิ่งใหญ่สำหรับวันอันดำมืดนี้ เราจะแก้แค้นให้กับคนหนุ่มสาวทุกคนที่เสียชีวิต เราจะกำหนดเป้าหมายไปยังที่ตั้งของกลุ่มฮามาสทั้งหมด เราจะเปลี่ยนฉนวนกาซาให้เป็นเกาะร้าง ผมขอพูดกับพลเมืองกาซาว่า คุณต้องออกไปตอนนี้ เราจะกำหนดเป้าหมายไปยังทุกมุมของฉนวนกาซา” 

 

นักวิเคราะห์ทางการทหารหลายคนคาดการณ์ว่า อิสราเอลจะเปิดฉากการโจมตีภาคพื้นดินครั้งใหญ่ในฉนวนกาซาด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าจะใหญ่กว่าช่วงที่มีการสู้รบในปี 2014 ซึ่งอิสราเอลระดมกำลังสำรองกว่า 80,000 คน และเป็นไปได้ว่าภายใน 1-2 วันนี้กองทัพอิสราเอลจะสามารถระดมกำลังพลได้มากพอที่จะเอาชนะกองกำลังของกลุ่มฮามาสได้

 

ทั้งนี้ การสู้รบปะทุขึ้นหลังกลุ่มฮามาสเปิดฉากยิงจรวดหลายพันลูกโจมตีจากฉนวนกาซาไปยังอิสราเอล และส่งกองกำลังติดอาวุธแทรกซึมเข้าโจมตีในหลายเมืองชายแดนทางใต้ของอิสราเอล ภายใต้ปฏิบัติการ ‘พายุอัลอักซอ’ (Operation Al-Aqsa Storm) โดยอ้างว่า เพื่อตอบโต้ต่อความโหดร้ายทั้งหมดที่ชาวปาเลสไตน์ต้องเผชิญจากอิสราเอลตลอดหลายทศวรรษ ซึ่งรวมถึงการกระทำของทางการอิสราเอลที่บุกมัสยิดอัล-อักซอ (Al-Aqsa) ในนครเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม และการปฏิบัติอันเลวร้ายต่อนักโทษปาเลสไตน์ในเรือนจำอิสราเอล

 

“เราต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศยุติความโหดร้ายในฉนวนกาซา ความโหดร้ายต่อชาวปาเลสไตน์ และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา เช่น มัสยิดอัลอักซอ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุเบื้องหลังการเริ่มการต่อสู้ครั้งนี้” คาเลด กาโดมี โฆษกของกลุ่มฮามาส กล่าว 

 

ขณะที่ โมฮัมหมัด เดอิฟ ผู้บัญชาการกองกำลังฮามาส ระบุว่า กลุ่มฮามาสตัดสินใจแล้วว่า ‘พอคือพอ’ และจะไม่ทนต่อการกระทำอันโหดร้ายของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์ ซึ่งกลุ่มฮามาสยังเรียกร้องให้กองกำลังต่อต้านในเขตเวสต์แบงก์ ตลอดจนชาติอาหรับและอิสลาม เข้าร่วมการต่อสู้กับอิสราเอล

 

ด้าน ซาเลห์ อัล-อารูรี รองหัวหน้าสำนักงานการเมืองของกลุ่มฮามาส เปิดเผยกับสำนักข่าว Al Jazeera ว่า กลุ่มฮามาสได้จับเชลยชาวอิสราเอลไว้จำนวนมาก รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารอาวุโส พร้อมยืนยันว่า มีเชลยมากพอที่จะทำให้อิสราเอลต้องปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดในเรือนจำอิสราเอล

 

ในส่วนของแรงงานไทยในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์สู้รบที่เกิดขึ้น มีรายงานล่าสุดจาก เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งเปิดเผยว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นอย่างไม่เป็นทางการว่า มีคนไทยเสียชีวิตแล้ว 1 คน และถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไว้ 11 คน 

 

โดยก่อนหน้านี้ กิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ระบุว่า มีแรงงานไทย 2 คนที่ถูกจับตัวไป เป็นคู่สามี-ภรรยา ชื่อ บุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 39 ปี และ ศศิวรรณ พันธ์ฆ้อง อายุ 36 ปี จากจังหวัดอุดรธานี ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังพยายามประสานกับทางการอิสราเอลและทุกหน่วยงานอย่างใกล้ชิด โดยทางการอิสราเอลรับปากว่าจะดูแลชาวต่างชาติเทียบเท่ากับประชาชนของตน

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ประกาศเตรียมพร้อมแผนอพยพ 24 ชั่วโมง โดยได้มีการสั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเครื่อง Airbus A340 และ C-130 อพยพคนไทยออกจากอิสราเอลทันที 

 

ขณะที่แผนการนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินใดของอิสราเอลนั้น ทางกองทัพอากาศจะประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อลงจอดยังสนามบินที่มีความปลอดภัยและตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนไว้

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising