×

เลอันโดร ทรอสซาร์ด คือการซื้อแบบ Panic Buy สำหรับอาร์เซนอลหรือไม่?

20.01.2023
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 MIN READ
  • เมื่ออาร์เซนอลพลาดตัว มิไคโล มูดริก ในวินาทีสุดท้ายเพราะเจ้าตัวปันใจเลือกจะย้ายไปเชลซีแทน ทำให้ทีมงานของอาร์เซนอลจำเป็นต้องมองหานักเตะ Plan B เป็นการทดแทน
  • ทรอสซาร์ดไม่ใช่คนอื่นคนไกลเพราะเป็นนักเตะที่อาร์เตตา รวมถึงทีมงานรู้จักเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ อัลเบิร์ต สตีเวนเบิร์ก ผู้ช่วยของผู้จัดการทีมชาวสเปนก็เคยเป็นผู้จัดการทีมเกงค์ ที่ทรอสซาร์ดเป็นลูกทีมเมื่อปี 2017 (และเกงค์จะได้ค่าตัวจากการย้ายทีมครั้งนี้ราว 15 เปอร์เซ็นต์ด้วย)

แค่ไม่กี่วันหลังจากที่พลาดการได้ตัว มิไคโล มูดริก ตัวทำเกมอนาคตไกลที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งจากดินแดนยุโรปตะวันออก ซึ่งเลือกจะย้ายมาเชลซีด้วยเหตุผลเรื่อง ‘ข้อเสนอที่ดีกว่า’ ดูเหมือนแฟนๆ ชาวกูนเนอร์สจะไม่ติดใจอะไรแล้ว เมื่อทีมกำลังจะได้กองหน้าใหม่เข้ามาเสริมทีมตามเป้าหมาย

 

ที่สำคัญคือเป็นกองหน้าที่ไม่ใช่ไก่กา ในทางตรงกันข้าม นี่คือหนึ่งในกองหน้าที่โดดเด่นที่สุดของพรีเมียร์ลีกที่พิสูจน์ฝีเท้าให้เห็นมาหลายปี ที่มาพร้อมกับค่าตัวที่ถูกจนไม่น่าเชื่อเมื่อเทียบกับมาตรฐานค่าตัวนักฟุตบอลในเวลานี้

 

แต่มีคำถามที่น่าสนใจคือ เลอันโดร ทรอสซาร์ด คือตัวเลือกที่ดีสำหรับอาร์เซนอลจริงๆ หรือเป็นแค่การซื้อแบบ Panic Buy เอาใครก็ได้ไว้ก่อนหรือไม่?

 

มิไคโล มูดริก ทิ้งอาร์เซนอลไปอยู่กับเชลซี

 

ทรอสซาร์ดมาได้อย่างไร?

ความจริงแล้ว เลอันโดร ทรอสซาร์ด ไม่ได้เป็นนักเตะที่อยู่ในข่าวกับอาร์เซนอลสำหรับช่วงตลาดการซื้อขายรอบนี้

           

ในทางตรงกันข้าม เดอะ กันเนอร์ส ต้องการนักเตะในระดับ Marquee Signing หรือนักเตะดาวดังที่จะเข้ามาสร้างความฮือฮา ซึ่งก็คาดหวังเอาไว้กับรายของมูดริก เพชรเม็ดงามของวงการฟุตบอลยูเครนที่พยายามตามจีบมาเป็นระยะเวลานาน โดยที่สตาร์วัย 22 ปีเองก็เหมือนมีใจด้วย

           

แต่เมื่อสุดท้ายแล้วพวกเขาพลาดตัวมูดริกในวินาทีสุดท้าย เพราะเจ้าตัวปันใจเลือกจะย้ายไปเชลซีแทน ทำให้ทีมงานของอาร์เซนอลจำเป็นต้องมองหานักเตะ Plan B เป็นการทดแทน

           

โดยเหตุผลที่พวกเขาจำเป็นต้องหากองหน้าเข้ามาเสริมทีมนั้น เนื่องจากทีมยังจะต้องขาด กาเบรียล เชซุส ที่ได้รับบาดเจ็บที่เข่าไปอีกระยะหนึ่ง ขณะที่ตัวที่เหลืออย่าง กาเบรียล มาร์ติเนลลี, เอ็ดดี เอ็นเคเทียห์ หรือ บูกาโย ซากา แม้จะทำหน้าที่ได้ดี แต่ตอนนี้พรีเมียร์ลีกเพิ่งผ่านมาแค่ครึ่งทางเท่านั้น การยืนระยะในช่วงหลังจากนี้ต่างหากที่จะเป็นจุดชี้วัดว่าพวกเขาคู่ควรกับการแย่งแชมป์จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้หรือไม่

           

ในฤดูกาลที่แล้วอาร์เซนอลเคยพลาดมาก่อน หลังทีมยอมตัดขาดกับ ปิแอร์ เอเมอริก โอบาเมยอง อดีตกัปตันทีมที่ปล่อยตัวฟรีจากสโมสรเพื่อตัดปัญหา และเมื่อไม่สามารถหาตัวแทนที่ดีได้ก็ตัดสินใจที่จะไม่หาใครเข้ามาเสริม เพราะกลัวจะเป็นการซื้อแบบ Panic Buy ที่นอกจากจะเสียเงินเปล่าแล้วยังไม่สามารถแก้ปัญหาให้ทีมได้

           

สุดท้ายพวกเขาโดนท็อตแนม ฮอตสเปอร์ แซงหน้าคว้าอันดับ 4 ไปครองอย่างเจ็บปวด ซึ่งเป็น ‘บทเรียน’ สำคัญที่ มิเกล อาร์เตตา และทีมงานฝ่ายจัดหาจำขึ้นใจ

           

ดังนั้นเมื่อพลาดมูดริกแล้วจึงต้องหาใครสักคนเข้ามาให้ได้ ซึ่งประจวบเหมาะกับที่ทรอสซาร์ดมีปัญหากับไบรท์ตันพอดี

           

ทุกอย่างจึงเข้าล็อก

 

โรแบร์โต เด แซร์บี (ขวา) แตกหักกับทรอสซาร์ดอย่างรุนแรง 

 

หมอนี่มันนักเตะมีปัญหา?

เรื่องที่ทำให้หลายคนประหลาดใจคือการแตกหักกันระหว่างทรอสซาร์ดกับไบรท์ตัน ซึ่งมีการยืนยันจากทางด้าน โรแบร์โต เด แซร์บี ผู้จัดการทีมคนใหม่ที่กำลังพาทีมนกนางนวลบินสูง​ (ล่าสุดถล่มลิเวอร์พูลขาดลอย 3-0) ว่ากองหน้าชาวเบลเยียมมีปัญหาในเรื่องของ ‘ทัศนคติ’

           

เหตุการณ์ที่ถูกกล่าวถึงคือการออกจากสนามซ้อมโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ในประเด็นนี้เอเจนต์ของทรอสซาร์ดได้โต้ตอบว่า การออกจากสนามซ้อมนั้นเกิดจากอาการบาดเจ็บ อีกทั้งนายใหญ่ไบรท์ตันเองก็ไม่ยอมคุยกับทรอสซาร์ดตั้งแต่มีปัญหาเล็กน้อยกับเพื่อนในช่วงก่อนหน้านี้

           

The Athletic เล่าในประเด็นนี้เพิ่มเติมว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้ทรอสซาร์ดมีปัญหาคือความผิดหวังจากฟุตบอลโลก เพราะคาดหวังเอาไว้สูงว่าจะได้โอกาสในการลงสนามและทำผลงานได้ดี เพื่อโอกาสในการสร้างความประทับใจให้แก่ทีมใหญ่ๆ เพราะสัญญากับไบรท์ตันกำลังจะหมดลง และจะไม่มีการต่อสัญญาอีก

           

อีกทั้งช่วงนี้เป็นช่วงที่ท็อปฟอร์มด้วย หากเล่นได้ดีในฟุตบอลโลกก็น่าจะมีโอกาสย้ายไปทีมใหญ่สูงขึ้น แต่สุดท้ายกลับได้โอกาสในการเล่นน้อยมาก โดยที่ไม่สามารถแจ้งเกิดอะไรได้เลย

           

ความผิดหวังจากฟุตบอลโลกทำให้ทรอสซาร์ดกลับมาในสภาพอารมณ์ที่ไม่ดีนัก บวกกับมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน ซึ่งเด แซร์บี เองก็เตือนให้เอาชนะปัญหาอาการบาดเจ็บและพิสูจน์ตัวเองเพื่อกลับสู่ทีมให้ได้อีกครั้ง เพราะเวลานี้ไบรท์ตันกำลังเข้าฝัก ถึงจะเป็นตัวหลักมาก่อนก็ต้องพิสูจน์ผลงานก่อนว่าคู่ควรกับโอกาส

           

สุดท้ายเมื่อทั้งสองฝ่ายต่อกันไม่ติด ก็ต้องมีคนหนึ่งที่เป็นฝ่ายไป ซึ่งก็แน่นอนว่าต้องเป็นทรอสซาร์ด

           

โดยมีสเปอร์สและนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่แสดงความสนใจอยู่ แต่เป็นอาร์เซนอลที่ปาดหน้าชาวบ้านบ้างในนาทีสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะมีการยืนยันอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้

 

เล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก เข้าใจเกมฟุตบอลสมัยใหม่เป็นอย่างดี คือคุณสมบัติเด่นของทรอสซาร์ด

 

ทรอสซาร์ดไม่ใช่นักเตะในสไตล์อาร์เซนอล?

สิ่งที่น่าสนใจคือทรอสซาร์ดดูจะไม่ใช่นักเตะในสไตล์อาร์เซนอลยุคนี้เลย เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เอดู อดีตกองกลางชุด ‘The Invincibles’ กลับมารับหน้าที่ในการบริหารสโมสร พวกเขาจะเน้นไปที่นักเตะดาวรุ่งอนาคตไกลเป็นหลัก

           

กรณีความสนใจในตัวมูดริกก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในเรื่องนี้ เพราะถูกมองว่าจะเป็นกำลังสำคัญของทีมได้อีกหลายปีนับจากนี้ ขณะที่ทรอสซาร์ดปัจจุบันอายุ 28 ปีแล้ว เรียกได้ว่า ‘แหวกขนบ’ ในการซื้อตัวอยู่ไม่น้อย

           

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาปัจจัยอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ

 

  • ค่าตัวในการย้ายทีมที่ต่ำมาก ตัวเลขที่จะจ่ายอยู่ที่ 21 ล้านปอนด์เท่านั้น บวกกับออปชันอีก 6 ล้านปอนด์
  • ทรอสซาร์ดมีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกสูง พิสูจน์ตัวเองมาแล้วว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าสมองไวที่ไม่ใช่แค่ทำประตูได้ดี แต่ยังสร้างสรรค์เกมได้ด้วย
  • สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก อุดรูรั่วได้ทุกจุด อีกทั้งมีความเข้าใจเกมฟุตบอลสมัยใหม่สูง
  • เล่นได้ดีทั้งสองเท้า ซึ่งหาได้ยาก
  • อายุ 28 ปี คือเวลาที่นักฟุตบอลกำลังเข้าสู่ช่วงท็อปพีคของฟอร์มการเล่น และหากเป็นไปตามคาดจะพีคไปต่อเนื่องอีกราว 2-3 ปี

 

อีกทั้งทรอสซาร์ดก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เพราะเป็นนักเตะที่อาร์เตตา รวมถึงทีมงานรู้จักเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ อัลเบิร์ต สตีเวนเบิร์ก ผู้ช่วยของผู้จัดการทีมชาวสเปนก็เคยเป็นผู้จัดการทีมเกงค์ ที่ทรอสซาร์ดเป็นลูกทีมเมื่อปี 2017 (และเกงค์จะได้ค่าตัวจากการย้ายทีมครั้งนี้ราว 15 เปอร์เซ็นต์ด้วย)

           

สุดท้ายคือการที่ทั้งสองฝ่ายมองตรงกันว่าไม่จำเป็นต้องเซ็นสัญญาผูกพันกันในระยะยาว (เหมือนมูดริกที่มีสัญญายาว 8 ปีครึ่ง ซึ่งเป็นการเล่นกับกฎ FFP ของเชลซี) เอาแค่ระยะสั้นก็พอ

           

ทั้งหมดนี้ทำให้การคว้าตัวทรอสซาร์ดมานั้นเป็นการซื้อที่มีความเสี่ยงน้อยมาก อาจมองได้ว่าเสี่ยงน้อยกว่าการทุ่มเงินร่วม 100 ล้านยูโรเพื่อแลกกับมูดริกด้วยซ้ำไป

           

อาร์เซนอลจะได้นักเตะที่ฝีเท้าดี มีประสบการณ์ เพื่อใช้งานในระยะสั้น โดยเป้าหมายชัดเจนคือการเป็นกองหนุนในการพาทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้

 

ส่วนจะเป็น Panic Buy หรือเป็น Smart Buy นั้น สิ้นสุดฤดูกาลก็จะรู้เอง

 

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising