เกิดอะไรขึ้น:
บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา (IP) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2563-2565 เติบโตไม่ต่ำกว่า 25% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการออกสินค้าใหม่และการทำดีล M&A ในด้านอัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิบริษัทตั้งเป้าไว้ไม่ต่ำกว่า 60% และ 16% ตามลำดับ โดยในปีนี้บริษัทได้ซื้อกิจการ บจ.โมเดิร์น ฟาร์มา ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยาเพื่อเป็นการขยายธุรกิจต้นน้ำ โดยบริษัทคาดว่าจะโอนกิจการเสร็จสิ้นในเดือนตุลาคมนี้
กระทบอย่างไร:
ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้น IP ปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 1.7% สู่ระดับ 12.20 บาท Outperform SET Index ที่ปรับตัวลง 2.5% จากเดือนก่อนหน้า (ข้อมูลราคาปิด ณ วันที่ 15 ตุลาคม 2563 เวลา 12.30 น.)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS ประเมินว่าเป้าหมายการเติบโตของบริษัทมีความเป็นไปได้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาดูแลและใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น
รวมถึงความนิยมในการเลี้ยงสุนัขและแมวเป็นเพื่อนมากขึ้น แต่สำหรับการเพิ่มอัตรากำไรให้เป็นไปตามเป้า SCBS มองว่าค่อนข้างยาก เนื่องจากโรงงานที่ซื้อมาใหม่มีอัตรากำไรที่ต่ำกว่าธุรกิจเดิม
ทั้งนี้ SCBS คาดว่า IP จะรายงานกำไรสุทธิปี 2563 ที่ 70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 61% จากการซื้อซ้ำในสินค้าเดิมและการวางขายสินค้าใหม่ นอกจากนี้ ในเดือนพฤศจิกายนบริษัทมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่สำหรับลดไขมันในช่องท้องซึ่งคาดว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดี ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไป
มุมมองระยะยาว:
SCBS มองว่า IP เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องและมีความชัดเจนของกำไรในอนาคต โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการเติบโตโดยการเจาะตลาดโรงพยาบาล และช่องทางออนไลน์ที่ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า
สำหรับกำไรสุทธิปี 2564 SCBS คาดเติบโต 50% จากปีที่แล้ว สู่ระดับ 105 ล้านบาท ซึ่งจะมีการรับรู้รายได้จากโรงงานโมเดิร์น ฟาร์มา เข้ามาเต็มปี สำหรับความเสี่ยงที่สำคัญของบริษัทคือการแข่งขันในตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพที่สูง รวมถึงกระแสความนิยมในสินค้าที่อาจเปลี่ยนแปลงได้
ข้อมูลเพิ่มเติม:
บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา (IP) ดำเนินธุรกิจพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ โดยสินค้าของบริษัทที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Probac7 อาหารเสริมซึ่งช่วยสร้างความสมดุลของระบบขับถ่าย และ PreBo อาหารเสริมเพื่อเพิ่มความสูงในเด็กและป้องกันโรคกระดูกพรุน
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล