นักลงทุนทั่วโลกแห่ขายพันธบัตรรัฐบาล ทำให้บอนด์ยีลด์รัฐบาลหลายประเทศพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุด นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินช่วงปี 2008 แม้ตลาดเดิมพันว่าธนาคารกลางต่างๆ จ่อกลับทิศดอกเบี้ยก็ตาม
ในวันนี้ (17 สิงหาคม) อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ (U.S. 10 Year Yields) ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.31% ไม่ไกลจากจุดสูงสุด (Peak) เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2007
เช่นเดียวกับพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ (Gilt) อายุ 10 ปี ก็เพิ่มขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 15 ปี ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีก็เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2011 เช่นกัน
นอกจากนี้ดัชนีอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกของ Bloomberg ก็ปรับตัวแตะ 3.3% ในวันพุธที่ผ่านมา (16 สิงหาคม) นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2008 ขณะที่ราคาพันธบัตรโดยรวมลดลงไปแล้ว 1.2% ตั้งแต่ต้นปี ส่งผลให้สินทรัพย์ประเภทนี้กลายเป็น Asset ที่มี Performance แย่ที่สุดในบรรดาตราสารหนี้หลักๆ ในดัชนีของ Bloomberg
รายงานของ Bloomberg ยังระบุว่า การแห่ขายพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกส่วนใหญ่มาจากอิทธิพลของการแห่ขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นจะหมายถึงราคาพันธบัตรลดลง ซึ่งอาจสะท้อนว่านักลงทุนออกจากตลาด
พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai Global Markets ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ปัจจัยแรกที่ทำให้บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุยาวเพิ่มขึ้น มาจากความกังวลประเด็นเรื่องอุปทาน (Supply) ของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเฉพาะหลังจากการประมูลบอนด์อายุ 30 ปีของรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งผลลัพธ์ออกมาว่าความต้องการ (Demand) ของนักลงทุนไม่ค่อยดีเท่าไร ทำให้บอนด์ยีลด์อายุ 30 ปีของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมามาก และทำให้บอนด์อายุยาวตัวอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาด้วยเช่นกัน
ปัจจัยต่อมาคือโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่งของ Fed ภายในปีนี้ค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้น จากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่ไม่ได้ออกมาแย่ และดีกว่าคาดบางตัว เช่น เงินเฟ้อและค้าปลีก นอกจากนี้ Fed Minutes ฉบับล่าสุด ยังแสดงให้เห็นว่า Fed กังวลว่าหากหยุดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนดจะทำให้เงินเฟ้อไม่จบ สอดคล้องกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์บางแห่งที่ระบุว่า Fed อาจคงดอกเบี้ยนานกว่าที่คิด หรือค่อยเริ่มลดในเดือนที่ 3 และ 4 ของปีหน้า ไม่ใช่ต้นปี
อ้างอิง:
