×
SCB Omnibus Fund 2024

นักลงทุนแห่เก็งกำไร ‘หุ้นวัฏจักร’ ดักเศรษฐกิจฟื้นตัวปี 64

17.12.2020
  • LOADING...
นักลงทุนแห่เก็งกำไร ‘หุ้นวัฏจักร’ ดักเศรษฐกิจฟื้นตัวปี 64

HIGHLIGHTS

3 mins read
  • ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา หุ้นวัฏจักร (Cyclical Stock) ถือเป็นกลุ่มหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างโดดเด่น โดยจะเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นได้ในระดับ 40-100% 
  • หุ้นหลายอุตสาหกรรมที่ซบเซาไปนานก็วิ่งกลับขึ้นมา อาทิ กลุ่มเหล็ก อสังหาริมทรัพย์ สายการบิน เดินเรือ หรือถ่านหิน 
  • ณัฐชาต เมฆมาสิน บล.ทรีนีตี้ ประเมินว่า ด้วยราคาหุ้นที่ขึ้นมาเร็ว จึงมีความเสี่ยงที่จะเห็นการพักฐานได้ และจากสถิติแล้วหุ้นวัฏจักรมักจะวิ่งขึ้นได้ดีในช่วงเศรษฐกิจขยายตัวชัดเจน ทำให้จังหวะในการเข้าลงทุนที่ดีอีกครั้งอาจจะเป็นช่วงกลางปี 2564 
  • ขณะที่กลุ่มหุ้นวัฏจักรที่น่าสนใจในความเห็นของ ภาดล วรรณรัตน์ บล.หยวนต้า คือ กลุ่มโรงกลั่น และกลุ่มปิโตรเคมี ซึ่งมีโอกาสจะไปต่อได้ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ในปีหน้า

เมื่อลองไล่ดูการฟื้นตัวของหุ้นแต่ละหมวดอุตสาหกรรมในระยะ 1-2 เดือนที่ผ่านมา จะเห็นว่าหุ้นในกลุ่มที่เรียกว่า ‘หุ้นวัฏจักร (Cyclical Stock)’ ถือเป็นกลุ่มที่โดดเด่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งหุ้นวัฏจักรนี้มักจะปรับตัวขึ้นลงตามวัฏจักรของเศรษฐกิจ เมื่อใดที่เศรษฐกิจดี ผลประกอบการของหุ้นเหล่านี้ก็มักจะดีตามไปด้วย แต่เมื่อเศรษฐกิจแย่ หุ้นเหล่านี้ก็มักจะแย่ไปด้วยเช่นกัน อย่างหุ้นกลุ่มธนาคาร และหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 

 

นอกจากนี้ หุ้นวัฏจักรยังรวมถึงหุ้นที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งราคาจะเปลี่ยนแปลงไปตามอุปสงค์และอุปทานในตลาดโลก ทำให้บริษัทแทบจะไม่มีความสามารถในการควบคุมราคาสินค้าได้เลย เช่น ราคาน้ำมันโลก ซึ่งกระทบต่อหุ้นขุดเจาะน้ำมัน หุ้นปิโตรเคมี หุ้นโรงกลั่น หุ้นยางมะตอย หุ้นสายการบิน หุ้นขนส่ง 

 

ขณะที่ราคาถ่านหินก็กระทบต่อหุ้นถ่านหิน เช่นเดียวกับค่าระวางเรือที่ส่งผลต่อหุ้นในกลุ่มเดินเรือ เป็นต้น 

 

หุ้นวัฏจักรที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่นช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา

 

ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า การฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มวัฏจักรในรอบกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา อิงกับความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งหมด แต่ความคาดหวังกับกับความเป็นจริงอาจจะแตกต่างกันอยู่บ้าง เพราะแม้ว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนแล้ว ยังต้องรอให้เริ่มเห็นการเปิดประเทศ ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้ายังไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

 

“เมื่อย้อนดูสถิติในอดีตสำหรับหุ้นวัฏจักร ราคาหุ้นมักจะวิ่งแรงในช่วงเศรษฐกิจขยายตัวชัดเจน แต่ถามว่า 6 เดือนแรกของปีหน้าเศรษฐกิจจะขยายตัวชัดเจน ดอกเบี้ยจะกลับมาเป็นขาขึ้น หรือเงินเฟ้อจะฟื้นตัวหรือไม่ ส่วนตัวมองว่ายังไม่เห็นภาพนั้น”

 

และจากการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์หลายราย ประเมินว่าเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 1/64 อาจจะกลับมาอ่อนตัวจากไตรมาส 4 ปีนี้ ก่อนที่จะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง

 

ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน ด้วยราคาหุ้นที่ขึ้นมาแรงจึงไม่ควรไล่ราคาในบริเวณนี้ โดยอาจจะรอการย่อตัวในช่วง 1-2 ไตรมาสข้างหน้า ซึ่งช่วงที่ดีในการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นวัฏจักรอาจจะเป็นกลางปีหน้า เชื่อว่ายังไม่สายเกินไป เพราะอาจจะเริ่มเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี 2564

 

“กำไรของหุ้นวัฏจักรในช่วง 1-2 ไตรมาสข้างหน้า อาจจะยังไม่ฟื้นชัดเจน ซึ่งหลายคนอาจจะลืมเลือนไปชั่วขณะ และโฟกัสกับเรื่องของวัคซีนมากเกินไป ขณะที่หุ้น Growth และกลุ่มขนาดกลาง-เล็ก ซึ่งถูกขายในช่วงที่ผ่านมา อาจจะยังไม่ได้จบรอบ แต่การสลับมาเข้าหุ้นกลุ่มวัฏจักรด้วยความคาดหวังอนาคต”

 

ทั้งนี้ ยังมีหุ้นที่อิงกับสินค้าโภคภัณฑ์บางกลุ่มที่ราคาไม่ได้ปรับตัวขึ้นมาโดดเด่นเท่ากับดัชนีตลาดในช่วงที่ผ่านมา อย่างหุ้นสินค้าเกษตร เช่น น้ำตาล และยางพารา รวมถึงหุ้นในกลุ่มอาหาร

 

ภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า หากมองต่อไปในปี 2564 หุ้นกลุ่มวัฏจักรน่าจะปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยเฉพาะแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นหลังผ่านวิกฤตโควิด-19 รวมถึงค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่องก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนเข้ามา แต่ด้วยราคาหุ้นเหล่านี้ที่วิ่งขึ้นมาต่อเนื่อง อาจจะต้องรอหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาพักฐาน หรืออาจจะเลือกซื้อเป็นรายตัวที่ยังมี Upside อยู่บ้าง

 

โดยภาพรวม หุ้นกลุ่มโรงกลั่นน่าจะโดดเด่นต่อเนื่อง เนื่องจากค่าการกลั่นโดยเฉลี่ยในปีนี้ที่ยังต่ำมาก อยู่ที่ประมาณ 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งในปีหน้าความต้องการใช้น้ำมันอากาศยานน่าจะฟื้นกลับมาได้ โดยหุ้นที่น่าสนใจคือ บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เนื่องจากไม่มีแผนลงทุนขนาดใหญ่แล้ว ส่วนหุ้นที่น่าสนใจรองลงมาคือ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) แต่บริษัทยังมีแผนลงทุน

 

ส่วนกลุ่มที่น่าสนใจถัดมาคือ ปิโตรเคมี อาทิ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) บมจ.อินโดรามาเวนเจอร์ส (IVL) และบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) จากอุปสงค์ที่น่าจะฟื้นตัวได้ ทำให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ (Spread) น่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อ แต่ด้วยราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นมาเร็ว การเข้าลงทุนอาจจะหาจังหวะในช่วงพักฐาน

 

ส่วนกลุ่มที่อิงกับสินค้าโภคภัณฑ์ มองว่าหุ้นกลุ่มยางพาราซึ่งราคาหุ้นพักฐานในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาเริ่มน่าสนใจ ด้วยโอกาสที่ราคายางพาราจะปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันในปีหน้า ขณะที่กลุ่มเดินเรือเทกองน่าจะยังเติบโตต่อได้ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

 

โดยสรุปแล้ว ธรรมชาติของ ‘หุ้นวัฏจักร’ มักจะปรับตัวขึ้นลงหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ทำให้กลยุทธ์การลงทุนที่มักจะถูกนำมาใช้คือการเก็งกำไร ซึ่งนั่นทำให้นักลงทุนจำเป็นที่จะต้องคอยติดตามการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมทั้งหลายเหล่านี้เป็นอย่างดี

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising