ลงทุนกับรองเท้าผ้าใบเริ่มต้นอย่างไรดี?

รองเท้าผ้าใบกลายเป็นหนึ่งในของสะสมยอดนิยม โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ เพราะมันสร้างปรากฏการณ์สำคัญในวัฒนธรรมป๊อปจนขับเคลื่อนวัฒนธรรมสนีกเกอร์เฮดไปทั่วโลก หลายปีที่ผ่านมารองเท้าผ้าใบได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นการลงทุนและสร้างผลกำไรได้ แต่กว่าจะไปถึงตรงนั้นต้องมีหลายปัจจัยเป็นส่วนประกอบ

อย่างที่พอจะรู้กันว่าถ้าได้เป็นเจ้าของรองเท้าผ้าใบรุ่นพิเศษในราคาขายปลีก แล้วรอให้ราคาในตลาดขายต่อสูงขึ้นค่อยนำออกมาขายก็กลายเป็นกำไร แต่สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจก็คือรองเท้าไม่ใช่ทุกแบรนด์และทุกรุ่นที่จะมีมูลค่าสำหรับการลงทุน ดังนั้นถ้าคิดจะลงทุนในรองเท้าผ้าใบก็ต้องติดตามเทรนด์รวมทั้งวันวางจำหน่ายผ่านแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับรองเท้าผ้าใบ เช่น Hypebeast, SneakerNews, Highsnobiety และ KicksOnFire เพื่อวางแผนล่วงหน้าว่าจะซื้อรองเท้ารุ่นใด

ส่วนต่อมาก็คือการดูถึงคุณลักษณะพิเศษของรองเท้ารุ่นนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ารุ่นลิมิเต็ดที่การันตีได้ว่ามีอุปทานจำนวนน้อยอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นผลงานร่วมกับคนดังและดีไซเนอร์ก็จะยิ่งเพิ่มมูลค่าให้กับรองเท้าคู่นั้น ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ เช่น Vans Era 95 DX Fear of God White Black ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง Vans และ Fear of God โดยมูลค่าลงทุนเฉลี่ยของแบรนด์โดยรวมสูงพอสมควร แต่สำหรับรุ่นนี้ราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 13 เท่าจากราคาขายปลีกในปี 2017 ที่ราคา 90 ดอลลาร์ หรือราว 3,200 บาท ส่วนในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมาราคาอยู่ที่ 500-1,200 ดอลลาร์ หรือราว 17,700-42,600 บาทใน StockX

อย่างไรก็ตาม อุปทานต่ำเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสมการการลงทุน ความต้องการของตลาดก็เป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งต้องอาศัยข้อมูลว่ารองเท้าผ้าใบรุ่นใดกำลังได้รับความนิยม นอกจากนั้นสีก็มีส่วนในโลกของการลงทุนรองเท้าผ้าใบ จากการศึกษาของ Money.co.uk พบว่ารองเท้าผ้าใบสีดำให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) สูงสุดที่ 614.8% รองลงมาคือสีขาว (558%) และสีแดง (503%)

เราอาจเคยได้ยินเรื่องการลงทุนในรองเท้าผ้าใบที่ประสบความสำเร็จด้วยราคาสูงลิ่ว อย่างเช่น Air Jordan 1 OG Chicago ที่เปิดด้วยราคา 47 ดอลลาร์ หรือราว 1,600 บาทในปี 1985 ซึ่งตอนนี้ราคาพุ่งสูงขึ้นมาก และบางคู่ราคาแตะหลักล้านบาทก็มี แต่นั่นก็ไม่ใช่บรรทัดฐานทั้งหมด สำหรับนักลงทุนมือใหม่กำไรจะอยู่ที่ประมาณ 2,000-3,500 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและช่วงเวลาที่ตัดสินใจขายด้วย อีกอย่างที่ต้องลงทุนคือต้นทุนแฝงจากการฝากขาย ตัวอย่างเช่น StockX เรียกเก็บเงินจากผู้ขาย 10% บวกกับอัตราการประมวลผลการชำระเงิน 3% ซึ่งก็อาจมีผลกับคนที่คิดจะเทรดรองเท้าในตลาดใหญ่ๆ แต่สำหรับนักลงทุนชาวไทยส่วนใหญ่มักเป็นการซื้อขายผ่านกลุ่มทางออนไลน์ หรือติดต่อกันโดยตรงของผู้ซื้อและผู้ขายมากกว่า และนี่คือตัวอย่างรองเท้า 5 รุ่นกับราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน

Nike Dunk High Pro SB Supreme Blue Stars

รองเท้าผ้าใบลิมิเต็ด Nike Dunk High Pro SB Supreme Blue Stars เกิดจากความร่วมมือครั้งที่สองของ Supreme กับ Nike SB ในปี 2003 โดยหยิบเอาสามสีจากคอลเลกชัน Be True To Your School College Dunk ของ Nike ในปี 1985 มาใช้ โดยคู่นี้เป็นโทนสี University Blue โดดเด่นด้วยอัปเปอร์หนังสีขาว หุ้มชั้นนอกด้วยหนังสีน้ำเงิน และลวดลายดาวสีทอง ผลิตออกมาจำนวนจำกัด ขายปลีกที่ 75 ดอลลาร์ หรือราว 2,600 บาท แต่ในปีที่ผ่านมาขายในราคา 930-10,000 ดอลลาร์ หรือราว 33,000-354,000 บาทใน StockX

Vans Era 95 DX Fear of God White Black

รองเท้ารุ่นพิเศษจากความร่วมมือระหว่าง Vans และ Fear of God โดดเด่นด้วยโทนสีขาว Marshmallow ใส่รายละเอียดสีดำและโลโก้ Fear of God ทั่วทั้งรองเท้า มาพร้อมอัปเปอร์หนังพรีเมียมและพื้นรองเท้าของ Vans วางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2017 ด้วยราคา 90 ดอลลาร์ หรือราว 3200 บาท ส่วนในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมาราคาอยู่ที่ 500-1,200 ดอลลาร์ หรือราว 17,700-42,600 บาทใน StockX

Supreme x Nike Air Force 1 Low White

Supreme x Air Force 1 Low เปิดตัวในคอลเล็กชัน Spring/Summer 2020 ในรูปแบบมินิมัล โดดเด่นด้วยโลโก้สีแดงเอกลักษณ์ของ Supreme ที่ส้นด้านข้าง และเชือกรองเท้าสีแดง จากข้อมูลของ Business Insider รองเท้าคู่นี้ขายปลีกครั้งแรกที่ราคา 96 ดอลลาร์ หรือราว 3,400 บาทในเดือนมีนาคม 2020 ส่วนตอนนี้ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ราว 146-218 ดอลลาร์ หรือราว 5,200-7,700 บาทในตลาดขายต่อ

Air Jordan 4 Retro Military Black

Air Jordan 4 Retro Military Black ใช้วัสดุแบบเดียวกับ OG ‘Military Blue’ ในปี 1989 ส่วนบนเป็นหนังเรียบสีขาว ที่ปลายเท้าเป็นหนังกลับสีเทา มีโลโก้ Jumpman แบบทอที่ลิ้นรองเท้า วางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม 2022 ในราคา 210 ดอลลาร์ หรือราว 7,400 บาท ส่วนราคาในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 201-927 ดอลลาร์ หรือราว 7,100-32,900 บาทใน StockX

Nike Air Jordan 1 Retro High OG Patent Bred

Air Jordan 1 Retro High OG Patent Bred โดดเด่นด้วยการใช้หนังแบบมันวาวในโทนสีแดง-ดำ มาพร้อมโลโก้ Wings ที่ส่วนหุ้มข้อ ขายในราคา 170 ดอลลาร์ หรือราว 6,000 บาทตอนเปิดตัวในเดือนธันวาคม 2021 ตอนนี้ราคาเฉลี่ยใน StockX อยู่ที่ราว 230-290 ดอลลาร์ หรือราว 8,100-10,200 บาท

อ้างอิง: