×

อินเตอร์ ไมอามี บ้านหลังสุดท้ายของ ลิโอเนล เมสซี?

07.06.2023
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • ตามรายงานของ The Athletic และ Forbes เป็นไปในทิศทางตรงกันว่า อินเตอร์ ไมอามี กลับมาเป็นทีมที่มีโอกาสมากที่สุดที่จะได้เมสซีมาร่วมทีม หลังจากที่ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังวัย 35 ปี หมดสัญญากับปารีส แซงต์ แชร์กแมง และสามารถย้ายทีมได้โดยอิสระ
  • ปัญหาสำหรับเมสซีคือ การกลับมาบาร์เซโลนานั้นมีความยุ่งยากและสลับซับซ้อนอย่างมากจากสถานการณ์ทางการเงินของสโมสรที่ยังอยู่ในขั้นวิกฤต อีกทั้งยังมีระเบียบการของลาลีกาที่เคร่งครัดในเรื่องของระเบียบทางการเงินอย่างมาก
  • ก่อนหน้านี้เมสซีเองก็มีแนวคิดที่จะปิดฉากชีวิตการเล่นที่ MLS อยู่แล้ว โดยคาดหวังว่าจะได้กลับมาเล่นร่วมกับ หลุยส์ ซัวเรซ เพื่อนรัก อีกทั้งยังเป็นสโมสรของ เดวิด เบ็คแฮม ที่ต้องการจะสร้างปรากฏการณ์ให้เกิดขึ้นในดินแดนอเมริกาเหนือ

ภาพของ ฮอร์เก เมสซี ผู้เป็นทั้งพ่อและตัวแทนของ ลิโอเนล เมสซี เดินทางมาเจรจากับ โจน ลาปอร์ตา ประธานสโมสรบาร์เซโลนา เมื่อวันก่อน ได้จุดกระแสความหวังของเหล่าบาร์เซโลนิสตาที่อยากจะเห็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดตลอดกาล กลับมายังสโมสรที่เป็นเหมือน ‘บ้าน’ ของพวกเขาอีกครั้ง

 

โดยเฉพาะหลังจากที่เมสซีต้องตกเป็นแพะรับบาปในความล้มเหลวของปารีส แซงต์ แชร์กแมง กลายเป็นเป้าที่แฟนบอลโจมตีอย่างหนักหน่วง ถึงขั้นโห่ไล่ในเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่ผ่านมา ยิ่งทำให้ความต้องการที่อยากจะเห็นนักฟุตบอลที่ได้รับการยกย่องว่าเก่งที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ได้รับเกียรติที่คู่ควรเพิ่มมากขึ้นไปอีก

           

เมสซีเองก็ไม่ได้ปิดบังความต้องการของตัวเอง ความรู้สึกของเขาบอกผ่านทั้งคำพูดและการกระทำของ ฮอร์เก เมสซี อย่างชัดเจนว่า บาร์เซโลนาคือตัวเลือกแรกสำหรับเขาเสมอ

           

ต่อให้คัมป์นูอยู่ระหว่างการปิดปรับปรุง แต่สถานที่ไม่ได้มีความหมายมากไปกว่าผู้คน เมสซีต้องการที่จะกลับมาอำลาแฟนบอลบาร์ซาที่เขารักและคิดถึงเสมออีกสักครั้งเป็นครั้งสุดท้าย และพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อจะกลับมาให้ได้ ขอแค่ชัดเจนว่าบาร์ซาจะพาตัวเขากลับมาได้จริงๆ

           

แต่ดูเหมือนว่าต่อให้ทำขนาดนี้ โอกาสที่เมสซีจะได้กลับมาบาร์ซาอีกครั้งนั้นกลับน้อยลงทุกนาทีที่ผ่านไป และดูเหมือนตอนนี้บ้านหลังใหม่ที่อาจจะเป็นบ้านหลังสุดท้ายของเขาคืออินเตอร์ ไมอามี ในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ (MLS) แทน

 

 

ตามรายงานของ The Athletic และ Forbes เป็นไปในทิศทางตรงกันว่า อินเตอร์ ไมอามี กลับมาเป็นทีมที่มีโอกาสมากที่สุดที่จะได้เมสซีมาร่วมทีม หลังจากที่ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังวัย 35 ปี หมดสัญญากับปารีส แซงต์ แชร์กแมง และสามารถย้ายทีมได้โดยอิสระ

 

โดยในรายงานข่าวอ้างว่ามีแหล่งข่าวหลายแหล่งระบุตรงกันว่า โอกาสที่เมสซีจะย้ายมาอยู่ที่ฟลอริดามีสูง แม้ว่าสถานการณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจเลือกทีมใหม่ของเขาจะมีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่รายสัปดาห์ แต่เป็นหลายวัน หรืออาจจะเป็นรายชั่วโมง

 

นอกจากปัจจัยเรื่องความปรารถนาที่จะกลับบ้านที่บาร์เซโลนาแล้ว ยังมีหลายทีมที่อยากลองยื่นข้อเสนอให้ราชาลูกหนังแห่งยุคด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีรายงานว่า มีสโมสรในระดับท็อปของยุโรป โดยหนึ่งในนั้นเป็นสโมสรจากพรีเมียร์ลีกที่ยื่นข้อเสนอมาให้พิจารณาด้วย

 

แต่ดูเหมือนเมสซีจะมีทางเลือกแค่ 2 ทางเท่านั้นคือ หากไม่สามารถกลับบาร์ซาได้ เขาจะไป MLS ตามคำมั่นที่เคยให้กับอินเตอร์ ไมอามี และ เดวิด เบ็คแฮม 

 

โดยข้อเสนอจากซาอุดีอาระเบียที่เคยมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ไม่อยู่ในเกณฑ์การพิจารณาแต่อย่างใด แม้ว่าจะมีการทุ่มงบประมาณแบบไม่อั้นหลังจากการทำให้ลีกซาอุดีอาระเบียเป็นซูเปอร์ลีก กลายเป็นนโยบายสำคัญของประเทศ โดย PIF กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ที่เข้ามาซื้อหุ้นและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 75% ของ 4 สโมสรใหญ่ อัล อาลี, อัล อิตติฮัด, อัล นาสเซอร์ และอัล ฮิลาล ซึ่งกระชากตัว คาริม เบนเซมา มาร่วมทีมอัล อิตติฮัด และใกล้จะได้ เอ็นโกโล ก็องเต มาจากเชลซีอีกราย

 

ปัญหาสำหรับเมสซีคือ การกลับมาบาร์เซโลนานั้นมีความยุ่งยากและสลับซับซ้อนอย่างมากจากสถานการณ์ทางการเงินของสโมสรที่ยังอยู่ในขั้นวิกฤต อีกทั้งยังมีระเบียบการของลาลีกาที่เคร่งครัดในเรื่องของระเบียบทางการเงินอย่างมาก

           

ความเคร่งครัดของลาลีกา ทำให้บาร์ซาต้องพยายามอย่างหนักหน่วงในการเสนอแผนงบประมาณทางการเงินล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 2 ปี ว่าสโมสรจะมีการบริหารจัดการอย่างไร เพื่อให้สามารถประคับประคองสโมสรให้รอดพ้นจากสถานการณ์วิกฤตทางการเงินที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ได้ แม้ว่าเมื่อปีกลายจะมีความพยายามอย่างมากในการใช้ทางลัดด้วยการใช้ ‘Palancas’ หรือ ‘คานทางเศรษฐกิจ’ เพื่อลดวิกฤตทางการเงินของสโมสร และทำให้สโมสรมีความสามารถในการปรับทัพเสริมทีมด้วยการขายสินทรัพย์ถึง 4 ครั้ง

 

 

แผนการนี้มีการนำเสนอไปก่อนหน้านี้ แต่มีความล่าช้าในการพิจารณา จนกระทบต่อการเจรจาดึงตัวเมสซีกลับมาอีกครั้ง และมีกระแสข่าวว่า สตาร์วัย 35 ปีอาจไม่รอ โดยอาจจะพิจารณาข้อเสนอจากซาอุดีอาระเบียทันที แต่สุดท้ายทางด้านลาลีกาได้มีการอนุมัติแผนนี้

 

แต่การอนุมัติแผนทางการเงินไม่ได้หมายความว่าบาร์ซาจะสามารถดึงตัวเมสซีกลับมาได้จริง ต่อให้ตอนนี้สามารถ ‘ยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการ’ ให้กับเมสซีได้ก็ตาม

 

เบน เจค็อบส์ ผู้สื่อข่าวทางการเงินในวงการฟุตบอลได้แจกแจงรายละเอียดในเรื่องนี้ โดยระบุว่า เขา ‘เข้าใจว่า’ บาร์ซานั้นจะอยู่เกินเกณฑ์ข้อจำกัด Squad-Cost Limit 200 ล้านยูโร ในความหมายคือ จะทำให้ทีมใช้จ่ายได้แค่ 40% ของรายรับที่จะเกิดขึ้น

 

บาร์ซาจะใช้จ่ายได้มากขึ้นก็ต่อเมื่อมีการผ่องถ่ายขายนักเตะออกไป หรือมีการลดจำนวนค่าเหนื่อยของผู้เล่นลง

 

ประเด็นนี้เองที่เป็นปัญหาในการเซ็นสัญญากับเมสซี ต่อให้ราชาลูกหนังยินดีที่จะกลับมาลงเล่นให้แบบฟรีๆ ก็ตาม เพราะบาร์ซาจะไม่ยื่นข้อเสนออย่างเด็ดขาดจนกว่าพวกเขาจะได้รับการยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า ข้อเสนอของพวกเขาเป็นที่พึงพอใจของเมสซีจริงๆ

 

หรือต่อให้เมสซียอมรับข้อเสนอที่เหมาะสมกับสถานะทางการเงินของสโมสรจริง บาร์ซาก็ยังไม่สามารถขยับตัวเซ็นสัญญาได้ทันที เนื่องจากปัญหาของพวกเขาทำให้การตัดสินใจทุกเรื่องของสโมสรจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการอิสระที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน ที่ถูกแต่งตั้งมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทำทุจริตปิดบังทางการเงินใดๆ

 

คณะกรรมการซึ่งประกอบไปด้วยนักกฎหมายและนักเศรษฐศาสตร์จะใช้เกณฑ์พิจารณาเรื่องนี้โดยอิงจากไกด์ไลน์ 105 ข้อที่มีการระบุไว้ ซึ่งจะมีเกณฑ์ในการพิจารณาร่วมประกอบสัญญา อาทิ อายุของเมสซี จากนั้นจึงจะมีการเสนอ ‘ตัวเลขขั้นต่ำ’ ที่บาร์ซาสามารถเสนอให้เมสซีได้ (ห้ามต่ำกว่าตัวเลขนั้น)

 

ที่ขั้นนี้จึงถือว่าเป็นขั้นที่บาร์ซาเสนอสัญญาให้เมสซีได้จริงๆ ซึ่งกระบวนการพิจารณาจะใช้ระยะเวลาเท่าไรยังไม่มีใครทราบ

 

ทางฝ่ายบาร์ซาพวกเขาเองรับรู้กระบวนการนี้เป็นอย่างดีและรู้ว่ามีอุปสรรคมากมาย แต่ยังพยายามขอประวิงเวลาจากฝ่ายของเมสซี ซึ่งล่าสุดคือการขอให้เมสซีอดทนรอจนกว่าจะถึงเดือนสิงหาคม ว่าจะสามารถยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการได้ไหม ในวงเล็บว่า สโมสรจะต้องแก้ปัญหาเรื่อง Squad-Cost Limit ให้ได้ก่อน

 

 

อย่างไรก็ดี ทางด้าน กีเยม บาลาเก กูรูบอลสเปนชื่อดัง ได้วิเคราะห์เรื่องนี้ทาง BBC ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วว่า เมสซีจะไม่มีวันได้กลับบาร์ซา เพราะไม่ต้องการที่จะอดทนทำเพื่อบาร์ซาขนาดนั้น

 

บาร์ซาในมุมมองของบาลาเก (ผู้เขียนหนังสือชีวประวัติให้เมสซี) ก็เชื่อว่า แค่พยายามจะสร้าง ‘สตอรี’ ว่าพวกเขาได้พยายามถึงที่สุดแล้วที่จะพาเมสซีกลับมา แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นคือ พวกเขาไม่เคยยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการเลย และไม่สามารถการันตีใดๆ ได้ว่าพวกเขาจะยื่นข้อเสนอก่อนวันที่ 1 กันยายน

 

ปัญหาในกฎการเงินของบาร์ซาทำให้การพาเมสซีกลับบ้านเป็น Mission Impossible

 

หากสุดท้ายพวกเขาทำไม่สำเร็จ อย่างน้อยก็ได้ภาพว่าพยายามแล้ว และสามารถโยนความผิดให้กับลาลีกา หรือแม้แต่กับเมสซีที่ไม่สามารถอดทนรอได้

 

อย่าลืมว่าเมื่อ 2 ปีก่อน เมสซีเองเคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เคยคิดฝัน เมื่อเขาพร้อมจะต่อสัญญากับบาร์ซา แต่สุดท้ายสโมสรบอกว่า ‘เซ็นสัญญาไม่ได้แล้วนะ’ จนทำให้ต้องระเห็จไปอยู่ปารีสถึง 2 ฤดูกาล ซึ่งนั่นพอจะอนุมานได้ว่า เรื่องแบบนี้อาจเกิดขึ้นกับตัวเขาอีกครั้งก็ได้ และนั่นทำให้เมสซีไม่ต้องการที่จะรอเพื่อจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันอีก

 

หากบาร์ซาตั้งใจอยากจะให้เขากลับมาจริง ก็แค่แสดงความจริงใจด้วยการยื่นข้อเสนอ และให้คำมั่นว่าจะพาเขากลับมาให้ได้ผ่านแผนการที่ชัดเจน สเต็ป 1-2-3-4

 

จากสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้โอกาสกลับบาร์ซาแทบเป็นไปไม่ได้ และนั่นหมายถึงทางเลือกที่เหลืออยู่สำหรับเมสซีคือการไปอินเตอร์ ไมอามี ซึ่งก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่แย่นัก แม้ว่าเงินรายได้ที่ได้รับจะน้อยกว่าที่ซาอุดีอาระเบียเสนอให้หลายเท่าก็ตาม

 

          

นอกจากนี้ยังมี ‘จิ๊กซอว์’ ให้ประกอบตามจินตนาการ ดังนี้

 

  1. ตามรายงานจาก The Athletic เปิดเผยว่า ฝ่ายของเมสซีได้เจรจาในระดับสูงกับ MLS และ Apple ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีของโลก ซึ่งเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ในระยะเวลา 10 ปีให้ MLS ในมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  

 

  1. ทั้ง MLS และ Apple ยินดีที่จะแบ่งเงินรายได้ของผู้สมัครใช้บริการ MLS Season Pass ซึ่งเป็นแพ็กเกจเสริมที่ทาง Apple TV+ ให้กับเมสซี

 

  1. เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (6 มิถุนายน) Apple บรรลุข้อตกลงกับเมสซีในการสร้างสารคดีเรื่องราวชีวิตของเขาที่ไปคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรกมาได้ ซึ่งจะออกฉายจำนวน 4 ตอน ทาง Apple TV+

 

  1. adidas ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์รายใหญ่ที่สุดของ MLS เตรียมปรับข้อตกลงพิเศษให้กับเมสซีในกรณีที่ย้ายมาสหรัฐอเมริกา โดยเชื่อว่าจะมีเรื่องของส่วนแบ่งรายได้กับทาง adidas หากมาเล่นใน MLS ซึ่งยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีเป็นสปอนเซอร์หลักมาตั้งแต่ปี 1996 ทำชุดแข่งให้ 29 ทีมใน MLS และเพิ่งต่อสัญญายาวกันไปอีก 6 ปีเมื่อต้นปีที่ผ่านมาในมูลค่า 830 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

        

  1. เดวิด เบ็คแฮม เพิ่งเดินทางไปเยี่ยมเมสซีที่ศูนย์ฝึกของเปแอสเชเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา (แต่ก็เป็นสโมสรเก่าของเบ็คแฮมด้วยเช่นกัน)

 

  1. อินเตอร์ ไมอามี มีข่าวพร้อมดึง เกราร์โด ตาตา มาร์ติโน กุนซือที่เคยร่วมงานกับเมสซีในทีมบาร์ซา

 

  1. ในอินเตอร์ ไมอามี มีคนเก่าแก่ของบาร์ซาร่วมงานอยู่อย่าง ชาบี อาเซนซี อดีตบิ๊กการเงินของบาร์ซาที่เคยนั่งแท่นบอร์ดบริหาร

 

ก่อนหน้านี้เมสซีเองก็มีแนวคิดที่จะปิดฉากชีวิตการเล่นที่ MLS อยู่แล้ว โดยคาดหวังว่าจะได้กลับมาเล่นร่วมกับ หลุยส์ ซัวเรซ เพื่อนรัก อีกทั้งยังเป็นสโมสรของ เดวิด เบ็คแฮม ที่ต้องการจะสร้างปรากฏการณ์ให้เกิดขึ้นในดินแดนอเมริกาเหนือ

           

เมื่อครั้งที่อินเตอร์ ไมอามี เปิดตัวในปี 2018 เมสซีเคยโพสต์ข้อความอวยพรเบ็คแฮมว่า “ใครจะรู้ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าคุณอาจจะสวมแหวนให้ผมก็ได้”

 

ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่เมสซีจะตัดสินใจเลือกใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายของการเล่นที่ไมอามี ซึ่งอาจจะเป็นบ้านหลังสุดท้ายของราชาลูกหนังยุคนี้

 

เหมือนที่ เปเล่ ราชาลูกหนังคนก่อน ก็เคยปิดฉากการเล่นกับนิวยอร์ก คอสมอส เช่นกัน

           

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising