ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เราดูรีวิวสินค้าและบริการเกือบทุกอย่าง เพราะโฆษณาไม่ซื้อใจเราเหมือนวันก่อน แต่ความคิดเห็นของเพื่อนๆ หรือคนที่ใช้จริงมากกว่าที่ทำให้เราเชื่อจนหมดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอาหารการกิน แหล่งการรีวิวที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยอย่าง ‘วงใน’ จึงขึ้นแท่นกลายเป็นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันในใจใครหลายคนไปในเวลาอันรวดเร็ว เราจึงชวนคุยกับ ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท วงใน มีเดีย จำกัด ถึงการก่อตั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชันวงใน วิถีทางการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ รวมถึงการทำธุรกิจให้เป็นที่รักของผู้ใช้บริการด้วย
“ความกล้าเสี่ยงเป็นคุณลักษณะของการทำงานที่ดี ถ้าไม่กล้าเสี่ยงก็คงไม่ได้ทำอะไรนอกกรอบ แล้วก็จะไม่มีใครกล้าทำธุรกิจอะไร แล้วคุณก็จะไม่รู้ว่าสิ่งที่คิดมันจะสำเร็จหรือเปล่า เพราะไม่เคยลงมือทำ”
The Beginning
• ปี 2551-2552 ระหว่างที่เราเรียนต่อที่อเมริกา มันมี tech startup เกิดขึ้นมากผมก็เคยลองทำธุรกิจครั้งหนึ่งแล้วไม่ประสบความสำเร็จแต่ความที่ยังอยากทำอยู่พอกลับมาเมืองไทยก็เลยตั้งต้นทำอีกครั้ง
• ที่ผมเริ่มตัดสินใจทำเว็บไซต์รีวิวร้านอาหาร เพราะเว็บแบบนี้มีอยู่ทุกประเทศอยู่แล้ว ที่อเมริกามี yelp.com มี tripadvisor.com ที่ญี่ปุ่นก็มี travelog.com แต่เมืองไทยกลับไม่มี
• การรีวิวเป็นแก่นของวงในมาตั้งแต่แรก เพราะเริ่มต้นเรามีทีมงาน 5-10 คนเท่านั้น มันต้องใช้เวลานานกว่าที่เราจะได้การรีวิวหลายๆ ร้าน
• ผมเชื่อว่าคนที่เริ่มสร้างธุรกิจทุกคนมีความฝัน แล้วก็ตั้งใจว่าจะสำเร็จแน่นอน ตอนที่เริ่มทำธุรกิจอีกครั้งก็เลยไม่กลัว เพราะเชื่อว่ายังไงก็น่าจะไปได้
• การมองโลกในแง่ดี การมีสปิริตในการเป็นเจ้าของกิจการมันเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ถ้าทุกคนกลัวหรือไม่กล้าเสี่ยง ธุรกิจหรือโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมันก็จะ
ไม่มีทางเกิดขึ้น
• การรีวิวแบบเมืองนอกไม่เหมือนเมืองไทย เพราะนิสัยคนไทยจะติดเล่นอยู่บ้าง อย่างแรกที่ต้องเปลี่ยนเลยคือ มู้ดแอนด์โทน เพราะคนไทยใช้ทุกอย่างด้วยคำว่า
‘เล่น’ หมดเล่นเฟซบุ๊กเล่นไลน์เล่นอินสตาแกรมมันจึงต้องมีความสนุกเข้าไปเพื่อให้เข้ากับคนไทย
Hard Time
• วงในมีเวลาที่ยากลำบากเหมือนกัน เพราะไม่ได้เป็นเว็บรีวิวในใจคนมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ตอนแรกที่เราก่อตั้งมีคนใช้แค่หลักพันคน ไม่มีรายได้ พอเข้าช่วงปี 2555-2556 ทุกคนเริ่มมีสมาร์ตโฟนใช้ มีอินเทอร์เน็ตที่ดีขึ้น และสิ่งสำคัญคือเริ่มมีนักลงทุนเข้ามาคุยกับเรา ก็เลยทำให้วงในเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
• ผมเคยคิดที่จะเลิกธุรกิจนี้ด้วย เพราะตอนแรกโปรดักต์ยังไม่ดีพอ รายได้ก็ยังไม่มี เราก็เริ่มเครียดว่าจะไปทำอย่างอื่นดีกว่าไหม แต่ความรู้สึกนั้นมันอาจจะไม่ได้ใหญ่พอจนเราจะเลิกทำมันจริงๆ คือเราคิดแต่ไม่ได้พูดออกมา เพราะเรามีความเชื่อว่าถ้าเราพูดออกมาให้ใครได้ยิน ก็อาจจะเลิกไปแล้วจริงๆ ก็ได้ เราก็ตั้งเป้าหมายทีละเล็กละน้อย แล้วก็ทำไปเรื่อยๆ มันก็ไปต่อได้ทีละจุด แล้วเราก็ไม่ได้ล้มเลิกมันในที่สุด
Game Changing
• การพัฒนารูปแบบบริการของเราจะดูจากการเติบโตของบริษัท อย่างเรื่องรีวิวร้านอาหารมันเป็นอันดับหนึ่งในช่วง 3-4 ปีแรก แต่หลังจากนั้นก็โตช้าลงเรื่อยๆ เปรียบง่ายๆ ก็เหมือนวัวที่โตแล้ว เริ่มอ้วน อุ้ยอ้าย แล้วก็เชื่องช้า เราก็เลยต้องหาลูกวัวตัวเล็กๆ มาเลี้ยง คือค่อยๆ เลี้ยงให้มันโตขึ้นอีกครั้ง เพื่อให้โตเร็วขึ้น
• การหาวัวตัวเล็กๆมาเพิ่มคือการแตกไลน์ไปทำวงในเชียงใหม่ภูเก็ตฯลฯหรือทำหมวดบิวตี้
• ช่วงปี 2559 ไลน์เข้ามาชวนเราเป็นพาร์ตเนอร์ในการทำบริการเดลิเวอรี การทำงานสเกลใหญ่แบบนี้ ถ้าเป็นตัวเราเองน่าจะอีก 2-3 ปีกว่าจะทำได้ แต่การมีพาร์ตเนอร์เข้ามาช่วยมันก็เป็นโอกาสที่เราไม่ควรพลาดการมีพาร์ตเนอร์มันช่วยให้เราทำในสิ่งที่เราไม่สามารถทำได้อย่างเช่นถ้าวงในทำเดลิเวอรีเองเราก็คงไม่มีลูกค้าเยอะขนาดนั้น
The Secret Source
วงในไม่ค่อยทำ user research เพราะเราไม่ได้รู้คำตอบที่แท้จริง 100% เว้นแต่ว่าเราจะเป็นสินค้าและบริการที่มีอยู่แล้ว แต่พอเป็นบริการใหม่ที่ไม่เคยมีใครใช้มาก่อน
อย่างธุรกิจประเภท tech startup การเซอร์เวย์อาจให้ผลที่เป็นลบ เช่น หาก Uber มีการทำแบบสอบถามว่า ถ้ามีคนแปลกหน้ามาขับรถให้จะโอเคไหม ซึ่งคนทั่วไปก็คงตอบว่าไม่โอเคหรอก แล้วถ้าเชื่อเซอร์เวย์ Uber ก็คงไม่เกิดขึ้น
Do
สุดท้ายสิ่งที่จะชนะในตลาดได้ ไม่ใช่บริษัทที่มีมาร์เก็ตติ้งที่ดีที่สุด ไม่ใช่บริษัทที่มีผู้บริหารที่เก่งที่สุด แต่เป็นการทำสินค้าและบริการให้ดีด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุด
เช่น พอระบบ Google มันดีมากๆ จึงกลายเป็นเว็บไซต์ค้นหาที่ดีที่สุด
Don’t
ธุรกิจ tech startup นั้นไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน เพราะมันเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงมากที่สุด ต้องใช้เงินทุนเยอะในการสร้าง แต่กว่าจะเห็นกำไรก็ใช้เวลารอนานกว่า 2-3 ปี ผมรู้สึกว่าช่วงนี้มีกระแส tech startup เยอะ ผมเลยอยากเตือนว่ามันไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน เพราะคนที่ประสบความสำเร็จ มันก็คงมีอยู่แค่หยิบมือเดียวเท่านั้น