วันนี้ (20 มิถุนายน) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ลงพื้นที่ตลาดสดห้วยขวาง ติดตามการลอกท่อระบายน้ำ ด้วยความร่วมมือของกรมราชทัณฑ์ สังกัดกระทรวงยุติธรรม กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่จัดผู้ต้องขังจาก 3 เรือนจำ คือ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร, เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และเรือนจำจังหวัดปทุมธานี จำนวน 77 ราย มาทำการลอกท่อระบายน้ำเป็นวันแรก
ชัชชาติกล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่กรมราชทัณฑ์มาลอกท่อตามที่ได้ขอความร่วมมือไว้ก่อนหน้า ตนขอขอบคุณ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มอบหมายให้กรมราชทัณฑ์มาช่วยรับผิดชอบงานลอกท่อระบายน้ำในพื้นที่ กทม. ทั้งหมด 530 กิโลเมตร จากแผนงานประจำปีจำนวนทั้งหมด 2,856 กิโลเมตร ทำให้จะมีการลอกท่อระบายน้ำรวมทั้งหมด 3,390 กิโลเมตร ในงบประมาณปี 2565
ทั้งนี้ จำนวนท่อระบายน้ำกว่า 530 กิโลเมตร จะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 3 เดือน และเชื่อว่าการระบายน้ำน่าจะได้ผลดีขึ้น เพราะจากการสังเกตพบว่ามีขยะรวมถึงไขมันอยู่เต็มท่อระบายน้ำ โดยเฉพาะบริเวณหน้าตลาดสดที่มีจำนวนมาก
ชัชชาติกล่าวต่อว่า ขอให้ทุกคนช่วยเข้าใจและอดทน เพราะในช่วงที่มีการปฏิบัติงานอาจจะมีปิดถนน 1 ช่องการจราจร ทำให้เกิดการเดินทางที่ไม่สะดวกสบาย ทั้งนี้ ยังขอให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานช่วยกันดูแลผู้ต้องขังที่มาร่วมกันลอกท่อด้วย ซึ่งการปฏิบัติงานของผู้ต้องขังวันนี้พบว่ามีการป้องกันมากขึ้น เช่น ผู้ปฏิบัติงานมีการสวมหมวกนิรภัย สวมใส่แว่นตา ถือว่าเป็นสิ่งดี
ชัชชาติกล่าวว่า ตลาดห้วยขวางเป็นจุดที่ขึ้นชื่อเรื่องปัญหาน้ำท่วม และวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่เกิดการร่วมมือกันของ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนี้ต้องไปแก้ไขในจุดเปราะบางอีกหลายจุด แต่ก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้ได้ทุกจุด แต่ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือจากภาคประชาชนที่มีส่วนสำคัญในการไม่ทิ้งขยะและคัดแยกขยะ เพื่อช่วยให้ท่อระบายน้ำสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ชัชชาติกล่าวว่า ปัญหาใหญ่ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากการไม่ได้ลอกท่อมานาน เมื่อมีขยะมาติดค้างก็จะติดต่อเนื่อง เพราะมีความฝืด อัดแน่น หากทำการลอกระบายอย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้การระบายของน้ำไหลลื่นได้เช่นกัน
ชัชชาติกล่าวถึงการประชุมผู้บริหาร กทม. เมื่อช่วงเช้าว่า มีการหารือเรื่อง ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่ให้เลื่อนการพิจารณาการถอดหน้ากากอนามัยออกไปก่อน โดยข้อมูลสำคัญที่พบในที่ประชุม ศบค. คือมีผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนบูสเตอร์เข็ม 3 จำนวนมาก ทำให้ยังเป็นจุดเสี่ยง กทม. ก็จะต้องช่วยกระตุ้น และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไปรับบูสเตอร์ให้มากขึ้น
อีกทั้ง ศบค. มีการรายงานด้วยว่า นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเที่ยวในประเทศมากขึ้น อันดับหนึ่งคืออินเดีย รองลงมาคือมาเลเซีย และสิงคโปร์ ทั้งนี้ ตนสั่งการให้ส่วนวัฒนธรรมกรุงเทพมหานครติดต่อสถานทูตอินเดีย ในการหาแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ หาช่องทางให้คนอินเดียเดินทางมาเมืองไทยให้มากขึ้น
นอกจากนี้ชัชชาติกล่าวว่า ได้มีการหารือเรื่องงบประมาณปี 2566 ที่จะใส่รายละเอียดงบประมาณทั้งหมดลงเว็บไซต์หลังส่งให้สภากรุงเทพฯ แล้ว เพื่อให้ประชาชนได้ทราบว่า กทม. จะใช้จ่ายอะไร อย่างไรบ้าง ตามนโยบาย Open Bangkok
ขณะที่การหารือเรื่องสายสื่อสารและการก่อสร้างที่ล่าช้า ในวันพรุ่งนี้ (21 มิถุนายน) ได้มอบหมายให้สำนักการโยธาสั่งยุติการก่อสร้างชั่วคราวของถนนวิทยุและถนนสารสิน กรณีที่มีการเอาสายไฟฟ้าลงดิน แต่พบว่าดำเนินการปิดฝาท่อไม่เรียบร้อย ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบและเสี่ยงอันตรายในการใช้รถใช้ถนน โดยจะให้แก้ไขฝาท่อให้เสร็จสิ้นก่อน จึงจะเปิดให้ก่อสร้างต่อได้