กระทรวงกฎหมายและสิทธิมนุษยชน (Ministry of Law and Human Rights) ของอินโดนีเซีย ออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 สิงหาคม) ระบุว่า กระทรวงฯ เตรียมนำเสนอโครงการวีซ่าทองคำ หรือ Golden Visa เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
Silmy Karim อธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมืองของอินโดนีเซีย ระบุในแถลงการณ์ว่า Golden Visa จะอนุญาตให้ผู้ถือสามารถพำนักอยู่ในอินโดนีเซียเป็นระยะยาว 5-10 ปี โดยในส่วนของนักลงทุนรายย่อยต้องจัดตั้งบริษัทมูลค่า 2.5 ล้านดอลลาร์สำหรับวีซ่าอายุ 5 ปี ในขณะที่วีซ่าอายุ 10 ปีต้องใช้เงินลงทุน 5 ล้านดอลลาร์
ในส่วนของนักลงทุนสถาบันจะต้องลงทุน 25 ล้านดอลลาร์เพื่อรับวีซ่า 5 ปี ขณะที่วีซ่า 10 ปี จะต้องลงทุนเพิ่ม 2 เท่า หรือที่ 50 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ผู้ถือ Golden Visa ยังไม่จำเป็นต้องยื่นขอใบอนุญาตในการอยู่ในอินโดนีเซียอีกต่อไป
สำหรับนักลงทุนต่างชาติรายย่อยที่ต้องการเข้ามาลงทุน แต่ไม่ต้องการจัดตั้งบริษัทใดๆ ในอินโดนีเซีย แถลงการณ์ของกระทรวงฯ ระบุว่า ทางการได้กำหนดเงื่อนไขที่ต่างออกไป โดยกำหนดให้ลงทุนในกองทุนที่สามารถใช้เพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาลอินโดนีเซียตั้งแต่ 350,000-750,000 ดอลลาร์
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของอินโดนีเซียมีขึ้นท่ามกลางความพยายามของประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา, ไอร์แลนด์, นิวซีแลนด์ และสเปน ที่มีการเปิดตัว Golden Visa ที่คล้ายกันสำหรับนักลงทุน เพื่อดึงดูดนักลงทุนและผู้ประกอบการให้เข้ามาพำนักอาศัยอยู่ในประเทศ
อ้างอิง: