“ดีใจที่ส่งไปถึงอังกฤษ บ่นึกบ่ฝัน ดีใจมาก” คือความรู้สึกตื้นตันของยายสำหรัด สุนาพรม ประธานกลุ่มทอผ้าฝ้ายย้อมครามบ้านนาขาม จังหวัดสกลนคร เมื่อทราบว่าผลงานผ้าครามของชาวบ้านบินไปไกลถึงประเทศอังกฤษ
แม้คุณยายสำหรัดจะไม่ใช่คนไทยคนแรกที่นำภูมิปัญญาท้องถิ่น ‘ผ้าคราม’ สู่สากล แต่การที่คิง พาวเวอร์ นำสินค้าของบ้านนาขามไปวางขายในร้านขายของที่ระลึกสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ (The City Fanstore at King Power Stadium) เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ นั่นคือการนำภูมิปัญญาไทยสู่สากลอย่างเป็นรูปธรรมที่สุดเป็นครั้งแรก
ทีมงาน THE STANDARD มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมตอนที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ภายใต้โครงการเพื่อสังคม ‘คิง เพาเวอร์ ไทยเพาเวอร์ พลังคนไทย’ อวดโฉมของที่ระลึกใหม่ล่าสุดประจำสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้ชื่อ INDIGO (อินดิโก้) ครั้งแรก เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ทางร้านค้ามอบพื้นที่ส่วนหนึ่งให้กับคอลเล็กชันสุดพิเศษนี้ มีสินค้าวางจำหน่าย 7 หมวด ได้แก่ เสื้อยืดลายปัก, เสื้อยืดลายสกรีน, เสื้อโปโล, หมวกแก็ป, หมวกไหมพรม, กระเป๋าใส่ของอเนกประสงค์ และผ้าพันคอ การได้เห็นคนอังกฤษมากมายเดินเยี่ยมชมผ้าครามอย่างใกล้ชิดด้วยความสนใจ พร้อมจับจ่ายใช้สอยสินค้าบางชิ้นที่ชื่นชอบ ท่ามกลางสินค้าแฟชั่นและเครื่องกีฬาอื่นๆ นับเป็นความรู้สึกที่คนไทยอย่างเราก็อดปลื้มใจแทนชาวบ้านนาขามไม่ได้
คำถามสำคัญคือทำไมคิง เพาเวอร์ จึงตัดสินใจนำผ้าครามคนไทยมาวางขายในสนามฟุตบอลที่อังกฤษ
เชื่อในไทยพาวเวอร์ พลังคนไทย
คุณต๊อบ-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์เปิดเผยกับ THE STANDARD ว่า คิง เพาเวอร์ เป็นบริษัทของคนไทย ที่มุ่งมั่นดำเนินโครงการเพื่อสังคมภายใต้แนวคิด ‘คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย’ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนศักยภาพของคนไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก และสร้างสรรค์สิ่งดีมีประโยชน์ให้กับสังคมไทย ผ่านกิจกรรม 4 ด้านหลัก ได้แก่ Sport Power (ด้านกีฬา) Music Power (ด้านดนตรี) Community Power (ด้านชุมชน) และ Education & Health Power (การศึกษา และด้านคุณภาพชีวิต สาธารณสุข)
“ด้าน Community ถือเป็นการเปิดตัวที่แรกของกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ โดยพัฒนาสินค้าร่วมกับชุมชนบ้านนาขามจังหวัดสกลนคร มาเป็นระยะเวลาร่วม 2 ปีกว่า โดยบริษัทฯ ได้เข้าไปให้องค์ความรู้กับผู้ผลิตในชุมชน เพื่อต่อยอดพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศ และเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก แสดงศักยภาพฝีมือคนไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในระดับสากลครับ”
ความน่าสนใจของคอลเล็กชันอินดิโก้นี้คือ ทุกสินค้าถูกออกแบบและร่วมมือกันระหว่างกลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านนาขาม จังหวัดสกลนคร แหล่งต้นกำเนิดสีย้อมครามของประเทศไทย ทีมครูช่างศิลปหัตถกรรม ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ และทีมนักออกแบบของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
เรียกได้ว่าเป็นฝีมือคนไทย 100%
แต่กว่าจะมาเป็นสีครามนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมหลายขั้นตอน เริ่มจากการเก็บใบครามสดจากต้นคราม นำมาบรรจุใส่ถังบ่ม เติมน้ำฝนให้ท่วมใบคราม แช่ทิ้งไว้ 1 วัน ใส่ปูนแดง และกวนให้ได้เนื้อสีที่เข้มข้น กรองนำ้ออกเพื่อสกัดจุลินทรีย์ออกมา และเลี้ยงจุลินทรีย์ครามต่อ โดยเติมน้ำฝน กล้วยนำ้ว้าและเหล้าขาว หมักบ่มจนเกิดปฏิกิริยาและได้เป็นสีดิบ คือสีเหลืองสุกพร้อมย้อม
จากนั้นจึงม้วน และมัดผ้าดิบจุ่มในสีดิบ เมื่อสีเกิดการออกซิเดชันกับอากาศจึงกลายเป็นสีคราม และเกิดเป็นลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ทุกชิ้นผสมผสานกับไอเดียการออกแบบสมัยใหม่ และการตัดเย็บที่ประณีต ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวและทันสมัย
สร้างเรื่องราวเพื่อให้น่าสนใจยิ่งขึ้น
อีกคำถามสำคัญคือ คนต่างชาติจะ ‘อิน’ กับผ้าครามนี้เหมือนคนไทยไหม นี่คือสิ่งที่คิง เพาเวอร์ ทำการบ้านมาอย่างดี เพราะนอกจากจะนำเสนอเรื่องราวหรือ Storytelling ที่น่าสนใจให้กับสินค้าบริเวณที่จัดจำหน่ายแล้ว ยังมีการหยิบสินค้าบางประเภทที่เหมาะกับนักฟุตบอลซึ่งเป็นไอดอลของแฟนบอลมาใช้เพื่อให้น่าสนใจยิ่งขึ้น
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เคเลชี อิเฮอานาโช (Kelechi Iheanacho) นักเตะดาวรุ่งชาวไนจีเรีย ที่ถือกระเป๋าใส่ของอเนกประสงค์ลายผ้าครามลงสนาม ซึ่งช่วยให้สินค้าอยู่ในสปอตไลต์มากขึ้น ไม่แน่ว่าอินดิโก้อาจจะขายดีเหมือนกับที่เสื้อฟุตบอลทีมชาติไนจีเรียฮอตเกินต้านทาน พรีออร์เดอร์ไปแล้ว 3 ล้านตัวช่วงฟุตบอลโลกก็เป็นได้
แต่ที่สำคัญมากกว่าจำนวนยอดขายคือ อินดิโก้ภายใต้แบรนด์เลสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอลคลับ ยังช่วยเพิ่มรายได้และสร้างอาชีพอย่างยั่งยืนสู่ชุมชน ดังนั้นคุณค่าของการซื้อผ้าครามจึงไม่ได้เป็นแค่เรื่องการดีไซน์ แต่คือ ‘การรับรู้เรื่องราวของผ้าแต่ละผืน’ ซึ่งจะช่วยต่อยอดให้คนไทยมีโอกาสได้ ‘ยืน’ บนเวทีโลกและ ‘ยิ้ม’ กว้างเหมือนกับคุณยายสำหรัด สุนาพรม ประธานกลุ่มทอผ้าฝ้ายย้อมครามบ้านนาขาม ได้มากขึ้น
- คนไทยสามารถซื้อคอลเล็กชันอินดิโก้ได้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
- และพบกับคอลเล็กชันอินดิโก้ได้แล้ววันนี้ที่ออนไลน์สโตร์ shop.lcfc.com
- กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ได้ร่วมพัฒนาสินค้าร่วมกับคู่ค้ามาเป็นระยะเวลานาน เพื่อต่อยอดพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งในส่วนของสินค้าที่เป็นสินค้า OTOP หรือสินค้าชุมชนที่ผลิตโดยคนไทยในหมวดต่างๆ อาทิ สินค้าหัตถกรรม อาหาร และของที่ระลึก โดยคิง เพาเวอร์ เป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก