อินเดียทวงบัลลังก์ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่มีอัตราการขยายตัวรวดเร็วที่สุดในโลกในไตรมาส 4 ของปี 2017 หลังจากที่ชะลอตัวลงอย่างมากจนถูกจีนเบียดแซงหน้าในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีที่แล้ว
ข้อมูลทางสถิติของอินเดียเผยให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของอินเดีย (GDP) เติบโตที่ระดับ 7.2% ในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ GDP ของจีน ซึ่งเป็นยักษ์เศรษฐกิจเบอร์ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ ขยายตัว 6.8% ในไตรมาส 4 เทียบรายปี
ตัวเลขการเติบโตที่แข็งแกร่งนี้มาจากพลังขับเคลื่อนของภาคการก่อสร้างที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งถึง 6.8% ขณะที่ภาคการผลิตเติบโต 8.1% และภาคการเกษตรขยายตัว 4.1%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของอินเดียทำให้นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี มีความเชื่อมั่นยิ่งขึ้นก่อนถึงศึกเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า หลังจากที่เขาถูกกดดันอย่างหนักจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2017
โมดีเริ่มบริหารประเทศตั้งแต่ปี 2014 โดยชูนโยบายส่งเสริมการปฏิรูปเศรษฐกิจที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตและสร้างงานใหม่จำนวน 10 ล้านตำแหน่งต่อปี แต่ตัวเลขดังกล่าวยังไม่เพียงพอต่อการรองรับจำนวนประชากรวัยหนุ่มสาวที่เข้าสู่ตลาดแรงงานเพิ่มปีละประมาณ 13 ล้านคน ซึ่งหมายความว่า ในแต่ละปีจะมีคนตกงานเพิ่มประมาณ 3 ล้านคนอันเนื่องมาจากการไม่มีงานใหม่รองรับ
ขณะที่เศรษฐกิจจีน แม้จะขยายตัว 6.9% ในปีที่แล้ว แต่ก็มีสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะชะลอตัว ทั้งดัชนีภาคการผลิตที่อ่อนแอลง รวมถึงยอดขายและราคาบ้านที่ปรับตัวลดลงในหลายเมืองใหญ่ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยนักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มจะชะลอตัวลงในปีนี้ ในขณะที่รัฐบาลจีนมุ่งให้ความสำคัญไปที่การควบคุมความเสี่ยงในระบบการเงิน
ด้านสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody’s คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของอินเดียจะเติบโตที่ระดับ 7.6% ในปี 2018 เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวจากผลกระทบของนโยบายยกเลิกธนบัตรมูลค่า 500 และ 1,000 รูปี ในปี 2016 และผลกระทบจากนโยบายภาษีสินค้าและบริการของรัฐบาลเมื่อปีที่แล้ว
ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่า GDP ของอินเดียจะขยายตัวที่ 7.4% ในปีนี้ และ 7.8% ในปี 2019
อ้างอิง:
- Financial Times