×

อินเดียกำลังดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากทั่วโลก หนุนตลาดหุ้นโต 3 เท่าตัว หลังวิกฤตโควิด

03.07.2024
  • LOADING...
อินเดีย

ประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในโลกอย่าง อินเดีย กำลังจะมีการเชื่อมต่อกับกลไกทางการเงินทั่วโลกอย่างสมบูรณ์ โดยตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2567 อินเดีย จะเข้าร่วมดัชนีพันธบัตรตลาดเกิดใหม่ของ JPMorgan Chase & Co. ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดการลงทุนนับพันล้าน นี่ถือเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญและการถูกรวมไว้ในดัชนีนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัว รัสเซียไม่สามารถลงทุนได้อีกต่อไป และตลาดเกิดใหม่อื่นๆ เผชิญกับความไม่มั่นคง ทั้งหมดนี้ทำให้อินเดียน่าดึงดูดยิ่งขึ้น

 

หุ้นอินเดียทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง

หลังจากดัชนี BSE SENSEX ของอินเดียร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดที่เกือบ 25,000 จุด ในช่วงวิกฤตโควิด ปี 2020 หลังจากนั้นตลาดหุ้นอินเดียกลับเข้าสู่ขาขึ้น จนดัชนีพุ่งขึ้นมาแตะระดับ 80,000 จุด หรือเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว ภายในเวลาประมาณ 4 ปี

 

นับตั้งแต่เดือนเมษายนถึงมิถุนายนปีนี้ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ของตลาดหุ้นอินเดียเพิ่มขึ้น 13.8% ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในบรรดาตลาดหุ้น 10 อันดับแรกของโลก และปัจจุบันตลาดหุ้นของอินเดียเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 5 ล้านล้านดอลลาร์ 

 

เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 2.75% อยู่ที่ 56 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ตลาดหุ้นของจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก มูลค่าลดลง 5.59% เหลือ 8.6 ล้านล้านดอลลาร์

แม้จะมีความผันผวนสูงเนื่องจากปัจจัยภายในประเทศและระดับโลก แต่ทั้งดัชนี SENSEX และ NIFTY ก็ให้ผลตอบแทนที่น่าทึ่งในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยดัชนี NIFTY 50 เพิ่มขึ้น 10.5% ในขณะที่ SENSEX เพิ่มขึ้น 9.4% ในช่วง 6 เดือนแรก 

 

นอกเหนือจากการกลับมาของนักลงทุนต่างชาติและแรงซื้ออย่างต่อเนื่องของนักลงทุนในประเทศ เป็นผลจากการเติบโตของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และความคาดหวังต่อการเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง รวมทั้งเสถียรภาพทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง 

 

พันธบัตรรัฐบาลอินเดียเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีพันธบัตร JPMorgan แล้ว

อีกปัจจัยหนุนต่อหุ้นอินเดียมาจากประเด็นที่พันธบัตรรัฐบาลของอินเดียได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีพันธบัตรในตลาดเกิดใหม่ของ JPMorgan เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา สิ่งนี้อาจดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนพันธบัตรทั่วโลก มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เข้าสู่อินเดีย 

 

นับตั้งแต่การประกาศข่าวดังกล่าวในเดือนกันยายน 2023 มีกระแสเงินลงทุนไหลเข้าตลาดพันธบัตรของอินเดียอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่ารวม 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นเกือบ 6 เท่าของกระแสเงินลงทุนที่ไหลเข้าตั้งแต่ต้นปี 2021 ถึงเดือนสิงหาคม 2023 

 

นักกลยุทธ์ของ JPMorgan มองว่าเงินลงทุนที่คาดว่าจะไหลเข้ามาในอินเดียจากดัชนีพันธบัตรนั้น ปัจจุบันได้เข้ามาแล้วประมาณ 32-40% การถือครองพันธบัตรของอินเดียโดยชาวต่างชาติอยู่ที่ประมาณ 2.4% ของหนี้คงค้างทั้งหมด และ JPMorgan คาดว่าระดับหนี้จะเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าภายในสิ้นปี 2025 

 

ข้อมูลจาก Bloomberg เผยว่า ตลาดตราสารหนี้ของอินเดียกำลังได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุน โดยทั้งพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้เอกชนส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้าเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบกว่าทศวรรษ

 

ดัชนีพันธบัตรในตลาดเกิดใหม่ของ JPMorgan (JPMorgan Emerging Markets Bond Index) ก่อตั้งขึ้นเมื่อต้นทศวรรษ 1990 เป็นดัชนีที่มีการอ้างอิงอย่างกว้างขวางที่สุดสำหรับพันธบัตรในตลาดเกิดใหม่ โดยเริ่มต้นด้วยการออกพันธบัตร Brady เป็นครั้งแรก และตั้งแต่นั้นมาก็ได้ขยายไปยังดัชนีพันธบัตรรัฐบาลในตลาดเกิดใหม่ และดัชนีพันธบัตรในตลาดเกิดใหม่ของบริษัท

 

การไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนครั้งใหญ่จะส่งผลกระทบต่อรูปีอย่างไร

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ค่าเงินรูปีของอินเดียได้เปลี่ยนจากการเป็นสกุลเงินที่มีความผันผวนมากที่สุดของเอเชียมาสู่สกุลเงินที่มีเสถียรภาพมากที่สุด เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและการแทรกแซงเชิงกลยุทธ์ของธนาคารกลางอินเดีย (RBI) และการที่พันธบัตรอินเดียเข้าร่วมดัชนีพันธบัตรในตลาดเกิดใหม่ของ JPMorgan เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เสถียรภาพของค่าเงินรูปียิ่งทำให้สินทรัพย์ของอินเดียน่าดึงดูดมากขึ้น

 

แม้ว่าการไหลเข้าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอาจช่วยกระตุ้นสกุลเงินท้องถิ่น แต่นักวิเคราะห์มองว่าค่าเงินรูปีไม่น่าจะแข็งค่าขึ้นมากนัก เนื่องจากธนาคารกลางอินเดียมีแนวโน้มที่จะคอยแทรกแซงค่าเงินของตนเป็นระยะ เพื่อไม่ให้ค่าเงินรูปีผันผวนมากเกินไป ปัจจุบันทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของอินเดียอยู่ที่ 6.529 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก 

 

สิ่งนี้ส่งผลดีต่อค่าเงินรูปีโดยอ้อม เนื่องจากทุนสำรองจำนวนมหาศาลทำให้ธนาคารกลางสามารถแทรกแซงค่าเงินและทำให้ความผันผวนน้อยลงได้ ด้วยเหตุนี้ค่าเงินรูปีจึงมีความมั่นคงมากที่สุดในบรรดาสกุลเงินหลักๆ ในตลาดเกิดใหม่

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X