เมื่อวานที่ผ่านมา (18 ก.ย.) ทางการประเทศอินเดียประกาศแบนบุหรี่ไฟฟ้า หลังจากรัฐนิวยอร์กกลายเป็นรัฐที่สองของสหรัฐอเมริกาที่ประกาศแบนบุหรี่ดังกล่าว เนื่องจากน้ำยาบุหรี่ที่ทำให้เกิดกลิ่นที่หลากหลายอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดการเสียชีวิตอย่างต่อเนื่องแล้วอย่างน้อย 7 ราย นับตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
การประกาศแบนในครั้งนี้รวมถึงการห้ามผลิต จัดจำหน่าย ส่งออก นำเข้า การขนส่ง การกระจายสินค้าหรือกักตุนสินค้า รวมถึงการโฆษณาเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิด ผู้ใดฝ่าฝืนอาจต้องโทษจำคุก 1 ปี
ทางการอินเดียเผยว่า มาตรการดังกล่าวเป็นความพยายามในการควบคุมและลดปริมาณการใช้ใบยาสูบในประเทศ แม้ในปัจจุบันอินเดียจะมีผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่มากนักก็ตาม ซึ่งเป็นการลดขีดความสามารถและการเติบโตของตลาดบุหรี่ไฟฟ้าโลกที่มีผู้สูบราว 1.3 พันล้านคน
ในขณะที่ Nirmala Sitharaman รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอินเดียระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากการคำนึงถึงผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้าที่มีต่อเยาวชนในทุกวันนี้
องค์การอนามัยโลก ระบุว่า อินเดียถือเป็นประเทศที่มีประชากรบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ทำจากใบยาสูบแบบดั้งเดิมมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตด้วยสาเหตุนี้สูงเกือบ 9 แสนคน โดย 35% ของคนวัยผู้ใหญ่ในอินเดียถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลัก ซึ่งผลิตภัณฑ์ใบยาสูบชนิดเคี้ยวได้รับความนิยมมากกว่าชนิดสูบในบางพื้นที่
นอกจากนี้อินเดียยังถือเป็นประเทศที่ผลิตยาสูบมากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลกอีกด้วย ซึ่งคนกลุ่มนี้มักจะเป็นกลุ่มทุนสนับสนุนพรรคการเมืองในการเลือกตั้งครั้งสำคัญของประเทศ
ทางด้านสมาคมบุหรี่ไฟฟ้าในอินเดียเผยว่า ท่าทีของรัฐบาลดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับการปกป้องอุตสาหกรรมบุหรี่ มากกว่าที่จะพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศเพราะคำนึงถึงสุขภาพของประชาชนอย่างแท้จริง
ภาพ: Joseluisserranoariza / Shutterstock
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- timesofindia.indiatimes.com/business/india-business/fearing-epidemic-among-kids-young-government-bans-e-cigarettes/articleshow/71192894.cms
- www.theguardian.com/society/2019/sep/18/india-bans-e-cigarettes-as-global-vaping-backlash-grows
- www.theverge.com/2019/9/18/20872967/india-e-cigarette-vaping-ban-epidemic-health-risks