×

ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ชะลอ! อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ดึงแฟรนไชส์ ‘Flying Tiger’ ร้านดังเดนมาร์ก เข้ามาเปิดในไทย มั่นใจสินค้าไลฟ์สไตล์-ยูนีคสู้คู่แข่งได้แน่

26.09.2025
  • LOADING...
อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เปิดร้าน Flying Tiger Copenhagen ครั้งแรกในไทย

“บมจ. อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของบริษัท สะท้อนจากผลประกอบการครึ่งปีแรกอยู่ที่ 4,839 ล้านบาท เติบโตอยู่ที่ 3% ในแง่ของรายได้เจอปัจจัยท้าทายหลักๆ คือการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ ในปีนี้การเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ลดลง ส่งผลกระทบต่อยอดขายเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ดังนั้นในปีนี้จึงคาดการณ์จะเติบโตแต่เลขหลักเดียวเท่านั้น” กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM กล่าว

 

เมื่อทุกอย่างอยู่บนความไม่แน่นอน จึงต้องหาธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพธุรกิจหลัก จึงได้คว้าสิทธิ์แฟรนไชส์ ‘Flying Tiger Copenhagen’ ร้านค้าสินค้าวาไรตี้และไลฟ์สไตล์สัญชาติเดนมาร์ก เข้ามาเปิดในไทย ปัจจุบันเปิดไปแล้ว 2 สาขา ที่ เอ็มสเฟียร์และพัทยา พร้อมวางงบลงทุน 200 ล้านบาท ขยายให้ครบ 30 สาขาทั่วประเทศ

 

และภายในอีก 3 ปีข้างหน้า ส่วนใหญ่จะเปิดในพื้นที่ของอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ และศูนย์การค้าที่มีทราฟฟิกสูง เช่น แฟชันไอส์แลนด์, ซีคอนสแควร์, เดอะมอลล์ บางกะปิ โดยร้านอยู่ในรูปแบบ shop in shop ขนาดพื้นที่ 150 – 250 ตร.ม. สำหรับจุดขายของแบรนด์ Flying Tiger Copenhagen มีสินค้ามากกว่า 1,700 รายการ รวม 14 กลุ่มสินค้า เช่น แกดเจ็ต, เกม, ของใช้ในบ้าน, ที่ทำงาน, เครื่องครัว, อุปกรณ์จัดงานเลี้ยงและปาร์ตี้, ของเล่นเด็ก และของขวัญและสินค้าตามเทศกาล ราคาเริ่มต้น 35 – 500 บาท

 

กฤษชนก มองว่าตลาดร้านสินค้าไลฟ์สไตล์ในไทย ในปี 2567 มูลค่าสูงถึง 30,300 ล้านบาท เติบโตถึง 7% ผู้เล่นในตลาดหลายๆ แบรนด์ ไม่ได้ล้มหายตายจากไปจากตลาด มียังการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ก็แปลว่าตลาดยังมีช่องว่างที่จะโตได้อีก และรู้อยู่แล้วว่าเมื่อกระโดดเข้ามาจะต้องเจอกับการแข่งขันสูง แต่กลุ่มโปรดักต์ของ Flying Tiger Copenhagen เป็นสินค้ายูนิกและพรีเมียม ที่มีทีมออกแบบมาให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะสินค้าคอลเลกชันตามเทศกาล เช่น ฮาโลวีน คริสต์มาส และปีใหม่ ที่กำลังจะมาถึง จึงมั่นใจว่าจะมีความแตกต่างจากคู่แข่งเจ้าอื่นแน่นอน

 

นอกจากนี้ อนาคตตลาดสินค้าวาไรตี้และไลฟ์สไตล์ยังมีโอกาสโตอีกมาก สะท้อนจากอินไซต์ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่ม Millennials และ Gen Z มีความชื่นชอบกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ ที่มีความแปลกใหม่เน้นดีไซน์และประสบการณ์ที่แตกต่าง ซึ่งจากผลสำรวจแนวโน้มการเลือกช้อป พบว่า การมาเลือกช้อปสินค้า ไลฟ์สไตล์ ราว 70% เข้ามาในร้านเพื่อมองหาอะไรใหม่ๆ หรือ สินค้าที่คาดไม่ถึง และอีก 50% จะเลือกช้อปของขวัญชิ้นเล็กๆ หรือของที่ระลึก และ 45% มองหาสินค้าที่ทำให้ชีวิตประจำวันสนุกมากขึ้น

 

โดยพฤติกรรมการช้อปของกลุ่ม Gen Z อายุ 15-25 ปี จะเลือกสินค้าที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร โดยใช้จ่ายเฉลี่ย 200-350 บาทต่อครั้ง ตามด้วยกลุ่มวัยทำงาน อายุ 25-35 ปี เน้นเลือกของแต่งบ้าน, ของขวัญ, และของใช้ไลฟ์สไตล์ ใช้จ่ายเฉลี่ย 400-700 บาทต่อครั้ง ส่วนกลุ่มครอบครัวมีเด็ก จะเน้นของเล่น ใช้จ่ายเฉลี่ย 500-1,000 บาทต่อครั้ง

 

จากอินไซต์ดังกล่าว จึงมั่นใจว่า ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายของแบรนด์ Flying Tiger Copenhagen จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ โดยตั้งเป้าว่าจะทำรายได้ 800 ล้านบาท ภายใน 3 ปี และจะช่วยขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ด้วย เพราะปัจจุบันฐานลูกค้าของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ Gen Z ยังถือว่าน้อยเฉลี่ยมีสัดส่วนอยู่แค่ 10% เท่านั้น ถ้าเทียบกับกลุ่ม Gen X-Y ที่มีสัดส่วนอยู่ 80%

 

ด้าน Martin Jermiin ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Zebra A/S ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกไลฟ์สไตล์ Flying Tiger Copenhagen กล่าวว่า Flying Tiger Copenhagen เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในเดนมาร์ก โดยมีกลยุทธ์คือสินค้ามีความหรูหราและราคาจับต้องได้ ที่ผ่านมาได้วางแผนสร้างการเติบโตด้วยโมเดลแฟรนไชส์ เพื่อขยายสาขาสู่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก

 

ปัจจุบันขยายไปในยุโรป, ตะวันออกกลาง และเอเชีย รวม 41 ประเทศ โดยรวมแล้วมากกว่า 1,000 สาขาทั่วโลก รวมถึงการเข้ามาขยายสาขาในประเทศไทยถือเป็นครั้งแรก โดยอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ในไทยเพียงรายเดียว มั่นใจว่า

 

หลังจากเปิดทดลองตลาดมาแล้ว 2 สาขา ผู้บริโภคให้การตอบรับเป็นอย่างดี และมั่นใจอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จะสามารถขยายตลาดและสร้างการเติบโตทางธุรกิจร่วมกันได้

 

กฤษชนก ย้ำว่า แม้เศรษฐกิจปีนี้ยังไม่สดใสมากนัก แต่บริษัทยังคงเดินหน้ากลยุทธ์ Diversification Strategy มองหาโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ๆ แต่ก็ต้องเป็นธุรกิจที่อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ มีความชำนาญอยู่แล้ว เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่ได้ สร้าง Community Mall The Walk และ Little Walk รวมถึง Flying Tiger Copenhagen ทุกๆ ธุรกิจก็เข้ามาช่วยหนุนธุรกิจหลักให้เติบโตได้ในระยะยาว

 

ทั้งนี้ เมื่อมาดูภาพรวมผลประกอบการ บมจ. อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในปีที่ผ่านมา บริษัททำยอดขายอยู่ที่ 9,890.2 ล้านบาท ยอดขายเพิ่มขึ้น 5% และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 745.3 ล้านบาท Net profit เพิ่มขึ้น 2.7% จากปี 2566 ถือเป็นกำไรสูงสุดตั้งแต่เคยก่อตั้งบริษัทมา ส่วนผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2568 รายได้อยู่ที่ 4,839.2 ล้านบาท เติบโต 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และกำไรโต 3% เนื่องจากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีและลดการทำโปรโมชั่นลง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising