บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ หรือ ILM โชว์ฟอร์มร้อนแรง สร้างผลการดำเนินงานปี 2566 ทุบสถิติรายได้-กำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ กวาดรายได้รวม 9,416 ล้านบาท โต 4.50% ดันกำไรสุทธิทะยาน 726 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ILM ประกาศจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ซึ่งจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.80 บาท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น
กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ระบุว่า นี่ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองของ ILM นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยมี 3 ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุน ได้แก่
- ความสามารถในการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
- การปรับกลยุทธ์ด้านการขายให้มีความหลากหลายสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค ทั้งการขายผ่านช่องทางหน้าร้านค้าปลีก การขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของบริษัทและพันธมิตรผ่านรูปแบบต่างๆ อาทิ การทำโปรโมชันแคมเปญ กิจกรรมด้านการตลาด และ CRM เป็นต้น
- การปรับโฉมและเปิดตัวสาขาใหม่ๆ ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ มากยิ่งขึ้น
ทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้จากการให้เช่าและบริการด้วย โดยในปีที่ผ่านมาได้เปิดให้บริการ Little Walk (แห่งที่ 4) สาขากรุงเทพกรีฑา ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สามารถปิดดีลจากร้านค้าเช่า 100% ได้ในเวลาอันรวดเร็ว รวมทั้งมีการปรับโฉมครั้งใหญ่ของอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาภูเก็ต และสาขาพัทยา ที่ดำเนินการแล้วเสร็จในปีที่ผ่านมา
ขณะที่ทิศทางการเติบโตของธุรกิจในปี 2567 เมื่อประเมินจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยพบว่า ยังคงมีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้น ทั้งจากการเร่งขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐ อาทิ Easy e-Receipt ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี ปัจจัยสนับสนุนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทยอยฟื้นตัว ช่วยหนุนยอดขายหน้าร้านค้าปลีกของบริษัท โดยเฉพาะสาขาที่อยู่ในจังหวัดท่องเที่ยว
โดยประเมินว่ายอดขายหน้าร้านค้าปลีกและช่องทางออนไลน์ของบริษัทในปีนี้จะยังคงเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเติบโตของรายได้จากพื้นที่เช่า อีกทั้งบริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ และ Little Walk เพิ่มเติมอีก 1-2 แห่งภายในปีนี้