วันนี้ (7 เมษายน) ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดในปัจจุบัน ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากอย่างรวดเร็ว กระทรวงสาธารณสุขจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการเพิ่มขีดความสามารถด้านกำลังคนให้มีจำนวนเพียงพอและมีสมรรถนะเหมาะสมในการตรวจคัดกรอง วินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาล การควบคุมการแพร่กระจายของโรค รวมทั้งการฟื้นฟูสุขภาพของประชาชน การขออนุมัติตำแหน่งข้าราชการอัตราตั้งใหม่นี้เป็นการขอบรรจุบุคลากรที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถในการทำงานวิชาชีพ อีกทั้งยังเป็นกำลังหลักในการปฏิบัติงานด่านหน้า ทำงานในที่ที่มีความเสี่ยง ต้องทำงานผลัดเวรตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของรายละเอียดการบรรจุข้าราชการใหม่มีดังนี้
- อัตราข้าราชการตั้งใหม่เพื่อบรรจุบุคลากรในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานด่านหน้าในสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 24 สายงาน รวมทั้งสิ้น 38,105 อัตรา
- อัตราข้าราชการตั้งใหม่เพื่อบรรจุนักศึกษาผู้สำเร็จการศึกษาในปี 2563 จำนวน 5 สายงาน รวมทั้งสิ้น 7,579 อัตรา
- คัดเลือกบรรจุบุคคลซึ่งมิได้สำเร็จการศึกษาในวุฒิที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กำหนด ให้คัดเลือกบรรจุเข้ารับราชการตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1004/ว 17 ลงวันที่ 19 กันยายน 2562
ในส่วนของการบรรจุอัตราข้าราชการใหม่นั้น ในรายละเอียดหลักเกณฑ์จะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ซึ่งกำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินงานภายใน 2 สัปดาห์ จากนั้นจะส่งเรื่องให้ ก.พ. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการนำเสนอรายงานต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติต่อไป
ไตรศุลียังกล่าวต่อว่า คณะรัฐมนตรียังได้พิจารณามาตรการการเพิ่มสิทธิประโยชน์อื่นสำหรับบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้
- สนับสนุนเงินเพิ่มพิเศษรายเดือนสำหรับบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข
- จัดสรรโควตาพิเศษความดีความชอบพิเศษสำหรับบุคลากรสาธารณสุข
- การปรับสิทธิประโยชน์ของบุคลากรที่ได้รับความเสียหายกรณีปฏิบัติหน้าที่ (กรณีเสียชีวิต เจ็บป่วย ทุพพลภาพ)
- นับเวลาอายุราชการทวีคูณเพื่อคำนวณบำเหน็จบำนาญ
- ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนบุคคลกรุงไทยธนวัฏ ธนาคารออมสิน ระยะเวลา 1 ปี
- สำหรับบุคลากรสาธารณสุข ปรับอัตราชดเชยใน ม.18 ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้บริการสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการทางสาธารณสุข (กรณีติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 เท่าจากอัตราเดิม)
ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการ ส่วนในรายละเอียดให้ไปหารือเพิ่มเติมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียด โดยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงให้นำความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการจัดทำด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์